อินเดียเปลี่ยนกฎการนำเข้าสัตว์เลี้ยงจากต่างประเทศ รวมทั้งสุนัขและแมว ไม่ให้มีการนำเข้าโดยเสรี กระทบตลาดใหญ่ๆ ในต่างประเทศที่เป็นที่นิยมของคนอินเดียทั่วไปรวมถึงตลาดประเทศไทย
ระเบียบใหม่ของ Central Board of Excise and Customs ของกระทรวงพาณิชย์อินเดียที่เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 56 ที่ผ่านมา อนุญาตจำนวนสัตว์เลี้ยงที่จะนำเข้ามาอินเดียเป็นส่วนหนึ่งของสัมภาระส่วนตัวจำนวน 2 ตัว ให้เหลือเฉพาะกับชาวอินเดียหรือต่างชาติที่จะย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่อินเดียหลังจากอาศัยอยู่ในต่างประเทศติดต่อกันเป็นเวลา 2 ปี เท่านั้น จากเดิมที่กำหนดให้นักเดินทางทั่วไปสามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอินเดียได้ครั้งละ 2 ตัว
แกนนำที่เคลื่อนไหวให้ทางการอินเดียออกกฎนี้ออกมาคือนาง Maneka Gandhi สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและผู้ก่อตั้งองค์กร People for Animals โดยนาง Gandhi กล่าวว่า สัตว์หลายพันตัวโดยเฉพาะสุนัขถูกนำเข้ามาอินเดียในแต่ละเดือนผ่านผู้รับจ้างหิ้วที่อ้างว่าเป็นนักท่องเที่ยว ในขณะที่มีสุนัขจรจัดเป็นแสนๆ ตัวในอินเดียที่ทางการมีภาระต้องจัดการรับมือและทำหมัน แต่จำนวนสุนัขต่างชาติกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบางส่วนถูกผู้เลี้ยงทอดทิ้งให้กลายมาเป็นสุนัขข้างถนน
สัตว์เลี้ยงทั้งสุนัขและแมวที่นำเข้ามาในอินเดียเหล่านี้มีต้นทางอยู่ในไทย มาเลเซีย รัสเซีย และอุซเบกิสถาน นาง Gandhi กล่าวว่า มีตลาดค้าสุนัขสำหรับชาวอินเดียในกรุงเทพฯ ที่ผู้รับจ้างหิ้วสามารถไปเลือกซื้อสุนัขได้ตามใบสั่ง นอกจากนี้ยังมีบริการส่งสัตว์เลี้ยงจากต่างประเทศออนไลน์กว่า 600 เว็บไซต์ ที่ใช้เวลาหิ้วมาจากต่างประเทศเพียง 1 เดือนเท่านั้น และบางครั้ง ผู้รับจ้างหิ้วสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งรวมถึงไทย ก็จะหิ้วสัตว์เลี้ยงเหล่านี้กลับมาพร้อมกับสินค้าอื่นๆ ด้วย
สัตว์เลี้ยงแปลกๆ โดยเฉพาะสุนัขและแมวสายพันธุ์ต่างชาติกำลังเป็นที่นิยมเป็นอินเดีย เนื่องจากมีความต้องการสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์แท้ และเกิดความนิยมจากสื่อต่างๆ เช่น ภาพยนตร์บอลลีวู้ด หรือโฆษณาในโทรทัศน์ แมวที่เป็นที่นิยมในอินเดียมีทั้งสายพันธุ์ Bengal Siamese เปอร์เซีย Turkish Angora และ Maine Coone
ในขณะที่สุนัขยอดที่นิยมโดยเฉพาะพันธุ์เล็กขนาดกระเป๋าที่เด็กๆ ชาวอินเดียชื่นชอบ ต้องยกให้ชิสุเป็นอันดับหนึ่งที่สนนราคาต่อตัวตกอยู่ 30,000-35,000 รูปี นอกจากนี้ยังมีชิวาวา มอลทีส และยอร์คเชียร์เทอร์เรียร์ สุนัขแปลกๆ พันธุ์อื่นๆ ก็เป็นที่นิยมและมีราคาสูงเช่นกัน อาทิ บีเกิลที่ตามท้องตลาดตกราคาตัวละ 40,000 รูปี และไซบีเรียนฮัสกี้ที่มีสายพันธุ์ดีอาจราคาสูงถึง 1 แสนรูปีต่อตัว
สุนัขต่างประเทศที่มีสายพันธุ์ดียังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ผู้เลี้ยงเพิ่มขึ้น โดยอาจนำไปผสมพันธุ์กับสุนัขตัวอื่นเพื่อออกลูกหลานไปขายต่อ ซึ่งเพียงแค่ค่าจับคู่ก็ตกครั้งละ 25,000 รูปี อย่างไรก็ดี การเลี้ยงดูสุนัขต่างชาติในอินเดียมีค่าใช้จ่ายสูง ตกประมาณเดือนละกว่า 10,000 รูปี และสุนัขมักป่วยง่ายเพราะไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศของอินเดียได้
แม้กฎใหม่ที่เวียนออกมานี้จะมุ่งลดภาระการจัดการสัตว์โดยเฉพาะสุนัขในอินเดียให้น้อยลง เจ้าของกิจการสุนัขในอินเดียส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่า จะยิ่งทำให้การค้าสัตว์จากต่างประเทศในตลาดมืดของอินเดียขยายตัวยิ่งขึ้น เพราะความต้องการสุนัขต่างประเทศมีแต่จะเพิ่มขึ้นเพราะคนอินเดียเริ่มมีกำลังซื้อและประชาชนเริ่มเข้าถึงสื่อต่างๆ มากขี้นจึงยิ่งกระพือความนิยมและความต้องการ
ไพฑูรย์ สงค์แก้ว ข้อมูล
คณิน บุญญะโสภัต รายงาน
31 พฤษภาคม 2556