ครม.อินเดียผ่อนปรนระเบียบ FDI สาขาก่อสร้าง
เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม. อินเดียได้มีมติเห็นชอบให้ผ่อนปรนกฎระเบียบเกี่ยวกับการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ในอินเดีย ในสาขาการก่อสร้าง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังซบเซา
แม้ว่าปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติในสาขาการก่อสร้าง อาทิ การก่อสร้างและพัฒนาหมู่บ้านจัดสรร การก่อสร้างอาคารและสถานที่เพื่อการพาณิชย์/บริการ เช่น โรงแรมและรีสอร์ท โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือการลงทุนบริหารจัดการโครงการการก่อสร้าง จะได้รับสิทธิลงทุนตรงในสาขาก่อสร้างได้ 100% ได้โดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติจากทางการอินเดียก่อน (automatic route) แต่ระเบียบใหม่ได้ผ่อนปรนข้อบังคับหลายประการที่ทำให้การลงทุนสาขาจากต่างชาติยังซบเซา
สิ่งที่มีการผ่อนปรนและจะเป็นประโยชน์ต่อเอกชนต่างชาติที่ลงทุนในอินเดียในสาขาดังกล่าว ได้แก่
ขนาดพื้นที่ของโครงการ
ในระเบียบเดิมของ Department of Industrial Policy and Promotion หรือ DIPP มีการกำหนดไว้ว่า การที่นักลงทุนต่างชาติจะได้รับสิทธิลงทุนตรงได้ 100% ก็ต่อเมื่อมีพื้นที่ของโครงการที่ลงทุนไม่ต่ำกว่าที่กำหนด เช่น โครงการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร เดิมมีข้อจำกัดพื้นที่โครงการอย่างต่ำ 10 เฮกตาร์ (62.5 ไร่) แต่ระเบียบใหม่ได้ยกเลิกข้อบังคับนี้ไป ทำให้เอกชนต่างชาติที่ต้องการลงทุนก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรสามารถลงทุนได้ 100% โดยไม่ต้องขออนุญาตจากรัฐบาลก่อน ไม่ว่าพื้นที่โครงการจะเล็กหรือใหญ่ ขณะที่การเข้าไปลงทุนบริหารโครงการก่อสร้าง รัฐบาลได้ปรับลดพื้นที่ขั้นต่ำของโครงการจาก 50,000 ตรม. เหลือ 20,000 ตรม. (12.5 ไร่)
การนำเงินเข้าไปลงทุน
ระเบียบใหม่ของรัฐบาลอินเดียได้ผ่อนปรนข้อบังคับที่ระบุให้นักลงทุนต่างชาติที่จะลงทุนในสาขาก่อสร้างต้องนำเงินอย่างต่ำ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐเข้าไปในอินเดียภายใน 6 เดือนหลังจากเริ่มโครงการ โดยลดจำนวนเงินลงเหลือ5 ล้านดอลลาร์
การยุติโครงการ
ภายใต้ระเบียบใหม่ที่ประกาศมานี้ นักลงทุนจะได้รับอนุญาตให้ยุติโครงการได้ในสองกรณี คือ กรณีที่โครงการแล้วเสร็จ หรือ 3 ปีหลังจากที่ได้มีการลงทุนก้อนสุดท้าย โดยมีข้อแม้ว่าต้องได้มีการวางโครงสร้างพื้นฐาน (trunk infrastructure) ปริมาณหนึ่งก่อนที่จะยุติโครงการ
ทั้งนี้ ข้อบังคับข้างต้น จะไม่มีผลสำหรับโครงการพิเศษที่รัฐบาลส่งเสริม ได้แก่ การลงทุนที่มีการกันเงินจำนวน 30% ไว้สำหรับก่อสร้างที่พักอาศัยราคาประหยัด การลงทุนก่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ท โรงพยาบาล เขตเศรษฐกิจพิเศษ สถานศึกษา บ้านพักคนชราและการลงทุนโดยคนอินเดียโพ้นทะเล ซึ่งโครงการเหล่านี้สามารถลงทุน FDI 100% ได้โดยไม่มีข้อจำกัดดังกล่าว
อย่างไรก็ดี นักลงทุน FDI ในสาขาการก่อสร้าง จะไม่ได้รับอนุญาตให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างบ้านฟาร์ม และการซื้อขายสิทธิในการพัฒนาที่ดิน
อนึ่ง รัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญกับการส่งเสริมธุรกิจก่อสร้างเนื่องจากเห็นว่า สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจอินเดียได้หลายทาง ทั้งเป็นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างงาน และยังเป็นการกระตุ้นความต้องการสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง เช่น ซีเมนต์ เหล็ก เป็นต้น
นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียยังหวังให้นโยบายใหม่ดังกล่าวกระตุ้นให้มีการก่อสร้างที่พักอาศัยราคาถูก เพื่อลดปัญญหาชุมชนแออัด และเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนชาวอินเดียที่มีรายได้ต่ำอีกทางหนึ่งด้วย
เห็นเช่นนี้แล้ว เอกชนไทยไม่ควรรอช้า รีบฉวยโอกาสที่นโยบายอินเดียเปิดกว้าง เข้าลงทุนสร้างบ้านพักและหมู่บ้านจัดสรรในอินเดีย เพราะมีโอกาสมาก โดยเฉพาะในระดับกลาง เพราะชนชั้นกลางอินเดียกำลังบูมแต่ยังขาดที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพและราคาประหยัด
อ่านสรุปมติ ครม. อินเดียเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ประพันธ์ สามพายวรกิจ
รายงานจากกรุงนิวเดลี
6 พฤศจิกายน 2557