“อินเดียใหม่” และเหตุผลที่ไทยไม่ควรพลาด
ขอบคุณภาพจาก https://indianexpress.com/article/explained/i-day-14-to-i-day-15-quote-unquote/
ภายหลังชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 2 อย่างถล่มทลายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ชัยชนะดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อแนวทางการพัฒนาอินเดียภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี การยอมรับของประชาชนต่อรัฐบาลเช่นนี้ ทำให้ทิศทางของยุทธศาสตร์อินเดียใหม่ (New India) ที่มุ่งพลิกโฉมประเทศขนานใหญ่ให้เป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกจึงมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในทางปฏิบัติ (อ่านบทความเกี่ยวกับอินเดียใหม่ได้ที่ https://thaiindia.net/about-india/overview/item/3559-new-india-2022.html)
หนึ่งปีหลังการประกาศนโยบาย “อินเดียใหม่” เกิดอะไรขึ้นในอินเดียบ้าง?
1. เกิดการพัฒนาชนบทเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
รัฐบาลอินเดียได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาชนบทเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐาน เช่น ถนน ระบบชลประทาน โกดังเก็บสินค้า ห้องน้ำ ระบบไฟฟ้า และระบบก๊าซ ซึ่งช่วยยกระดับชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวนา คนจน และผู้ด้อยโอกาสของสังคม อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการสร้างรายได้ ผ่านการอัดฉีดงบประมาณเพื่อพัฒนาหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลกว่า 25 ล้านล้านรูปี ทั้งนี้ เกษตรกรถือเป็นกลุ่มหลักที่รัฐบาลให้ความสำคัญและมีแผนเยียวยาช่วยเหลืออย่างชัดเจน ทั้งการจ่ายงบประมาณกว่า 2 พันล้านรูปีให้กับ “เกษตรกร” และการประกันราคาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงนโยบายการเป็นเจ้าของที่ดินทำกินของประชาชนที่ได้นำมาบังคับใช้ นอกจากนี้ ทรัพยากรน้ำ ยังเป็นประเด็นที่ “อินเดียใหม่” ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งนโยบาย “Jal Jeevan Mission” ได้ทุ่มงบกว่า 3.5 ล้านล้านรูปีในการพัฒนาแหล่งน้ำ การเก็บกักน้ำ ระบบชลประทาน และการเตรียมทรัพยากรเพื่อการเกษตรกรรมในปีถัดไป นโยบายนี้เชื่อว่าหากอินเดียใหม่มีระบบน้ำที่ดีย่อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตมนุษย์ สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งการมีน้ำใช้ที่เพียงพอ นำมาสู่การสร้างโอกาสการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
2. สานต่อการปฏิวัติและยกระดับบริการสาธารณสุขสมัยใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น โมดี และวิสัยทัศน์ “อินเดียใหม่” ได้ปฏิวัติและยกระดับบริการสาธารณสุขสมัยใหม่ผ่านโครงการ Ayushman Bharat scheme เพื่อเป็นหลักประกันทางสุขภาพให้กับประชากรกว่า 1,300 ล้านคน ผ่านโรงพยาบาลกว่า 18,000 แห่งทั่วประเทศ โครงการดังกล่าวช่วยให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่นในการบริการสาธารณสุขของประเทศอีกด้วย
3. กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านส่งเสริมการจัดตั้งโรงงานการผลิต สตาร์ทอัพ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมไปถึงการลดภาษีนิติบุคคล ในด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน อินเดียใหม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านส่งเสริมการจัดตั้งโรงงานการผลิต สตาร์ทอัพ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมไปถึงการลดภาษีนิติบุคคล ทำให้อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำที่เป็นมิตรต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Top FDI Friendly) อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว อันเป็นมรดกทางอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของอินเดีย
4. ปรับปรุงธรรมาภิบาลและการปรับปรุงการปฏิบัติงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ ในด้านธรรมาภิบาลและการปรับปรุงการปฏิบัติงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ รัฐบาลโมดิได้ประกาศยกเลิกและแก้ไขบางมาตราในรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงานและการนำนโยบายไปบังคับใช้ในทุกรัฐและดินแดนสหภาพของอินเดียอย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งเพื่อให้เกิดเสถียรภาพภายในประเทศ รัฐบาลยังยกระดับการสร้างกองกำลังและขีดความสามารถทางการทหาร เพื่อความมั่นคงของประเทศอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก https://in.news.yahoo.com/15-indian-cities-that-have-been-renamed-033949984.html
“อินเดียใหม่” ที่ไทยไม่ควรเพิกเฉย
จากวิสัยทัศน์อินเดียใหม่ นำไปสู่ยุทธศาสตร์และแผนพัฒนาข้างต้น นายกรัฐมนตรีอินเดียได้ผสานความร่วมมือจากทั้งรัฐบาล นักธุรกิจ และเยาวชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนพร้อมที่ก้าวไปข้างหน้ากับอินเดียใหม่ ซึ่งประชาคมโลกต่างรับรู้และจับตามองการเปลี่ยนแปลงของอินเดีย การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงทำให้อินเดียเป็นอีกประเทศที่ไม่ควรพลาดสำหรับการค้าและการลงทุน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิสัยทัศน์ดังกล่าวจะมุ่งยกระดับการพัฒนาชนบทโดยเสริมสร้างอินเดียให้เป็นประเทศเกษตรกรรม และอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของสินค้าเกษตรจากประเทศไทยในอนาคต แต่ในวิกฤตนี้ยังมีโอกาสที่นักลงทุนชาวไทยจะเข้าไปลงทุนด้านการแปรรูปสินค้า ผลิตภัณฑ์จากอาหาร และอุตสาหกรรมการถนอมอาหารได้ นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรบุคคลจำนวนมากที่มีพลัง มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากการปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานและบริการสาธารณะแก่ประชาชนของรัฐบาลอินเดีย ทั้งในแง่การเป็นแรงงานที่ช่วยเสริมพลังในการผลิต และในแง่การตลาดที่มีผู้บริโภคกว่า 1,300 ล้านคน ซึ่งร้อยละ 27 ของประชากรทั้งหมดอยู่ในเด็กและเยาวชน สะท้อนภาพตลาดอินเดียขนาดใหญ่และรอคอยการเข้ามาของนักลงทุนภายนอก
เหนือสิ่งอื่นใด อินเดียกำลังลดภาษีนิติบุคคลลงจากร้อยละ 34.9 ให้เหลือ 25.2 เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุน อีกทั้งยังลดภาษีดังกล่าวให้เหลือเพียงร้อยละ 17 แก่บริษัทที่เปิดใหม่ เพื่อให้อินเดียมีแรงดึงดูดในฐานะหมุดหมายแห่งการลงทุน ที่สำคัญการทำธุรกิจในอินเดียจะสะดวกมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ถูกนำมาใช้ในระบบราชการและการบริหารงานที่ยึดหลักธรรมาภิบาลที่ส่งเสริมระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ด้วยเหตุนี้อินเดียจึงเป็นประเทศที่นักลงทุนไทยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
โดย ปิยณัฐ สร้อยคำ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
4 ธันวาคม 2562
อ่านเพิ่มเติม
- https://www.narendramodi.in/newindia/index
- https://www.deccanherald.com/assembly-election-2019/we-are-creating-new-identity-of-new-india-pm-modi-768088.html
- https://www.deccanherald.com/assembly-election-2019/we-are-creating-new-identity-of-new-india-pm-modi-768088.html
- https://timesofindia.indiatimes.com/india/nobody-dared-remove-article-370-despite-lot-of-talk-pm-modi/articleshow/71634684.cms
- http://newsonair.nic.in/Main-News-Details.aspx?id=372263
- https://www.internationalinvestment.net/in-depth/4006878/depth-india-remains-global-investor-conundrum