ปัจจุบันประชากรของประเทศอินเดียมีทั้งสิ้นประมาณ 1.2 พันล้านคน และร้อยละ 80 หรือ 960 ล้านคนนับถือศาสนาฮินดูและส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัต (Vegetarian) อีกร้อยละ 20 หรือ 240 ล้านคนนับถือศาสนาอื่นๆ เช่น ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพุทธ เป็นต้น และส่วนใหญ่รับประทานอาหารได้ทุกชนิด (Non-Vegetarian)
ปลายปี 2011 ทางการอินเดียออกกฎระเบียบเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร [Food Safety And Standards (Packaging And Labelling) Regulations, 2011] บังคับให้ผู้ผลิตสินค้าอาหารฯต้องระบุให้ชัดเจนว่าสินค้าใดสำหรับ Vegetarian โดยการพิมพ์โลโก้รูปทรงสี่เหลี่ยมและมีวงกลมสีเขียวอยู่ตรงกลาง รวมทั้งมีอักษรระบุข้างล่างว่า “Veg (Green)”ลงบนสลาก (Label) ที่ติดหีบห่อบรรจุสินค้าอาหาร สำหรับ Non-Vegetarian ก็เช่นกัน ต้องพิมพ์โลโก้รูปทรงสี่เหลี่ยมและมีวงกลมสีน้ำตาลอยู่ตรงกลาง รวมทั้งมีอักษรระบุข้างล่างว่า “Non-Veg (Brown)” ลงบนสลาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคหยิบจับจ่ายสินค้าได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว
นอกจากนี้ กฎระเบียบดังกล่าวฯซึ่งก็คล้ายคลึงกับกฎหมายควบคุมรักษามาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหารของประเทศต่างๆรวมทั้งของไทย บังคับให้ผู้ผลิตสินค้าต้องระบุข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวสินค้าฯหลายประการลงในสลาก เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทราบถึงที่มาที่ไป คุณลักษณะและส่วนผสมของสินค้าที่ตนกำลังเลือกซื้อ ดังนี้
ชื่ออาหาร
ชื่อและที่ตั้งของบริษัทผู้ผลิตฯ
ปริมาณสุทธิ/ เนื้อสินค้า/ น้ำหนักรวม
หมายเลขกำกับ
รายการส่วนผสมของสินค้าฯเรียงตามลำดับ
ข้อมูลทางโภชนาการ(โปรตีน, ไขมัน และคาร์โบไฮเดรด)
วันที่ผลิต/ ใช้ก่อนวันที่/ วันหมดอายุฯ
คำประกาศฯกรณีเป็นสินค้าที่บริโภคแล้วทำให้เสพติดได้ เป็นต้น
คำประกาศที่ติดบนหีบห่อสินค้าต้องเด่นชัด อ่านได้ง่าย ไม่คลุมเครือ ทั้งนี้รูปแบบตัวอักษรควรต้องเป็นตัวหนาซึ่งเห็นได้ชัด และความสูงของตัวอักษรต้องไม่น้อยกว่า 1 มิลลิเมตร ความกว้างไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของความสูง รวมทั้งหากใช้ตัวอักษรกราฟฟิคก็ควรใช้สีที่ตัดกับสีพื้นสลาก
นอกจากนี้ คำประกาศฯจะต้องไม่ใช้คำที่บอกเป็นนัยว่าเป็นการแนะนำทางการ แพทย์และห้ามใช้ถ้อยคำหรือภาพที่อาจสร้างความสับสนหรือเข้าใจผิดต่อสาธารณชนเกี่ยวกับคุณสมบัติ ส่วนประกอบ แหล่งที่มาและธรรมชาติของสินค้าอาหารฯนั้น
กฎระเบียบฯฉบับนี้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2554 เป็นต้นมา ซึ่งผู้ผลิต/ ผู้จำหน่าย/นักลงทุนฯในธุรกิจการผลิตสินค้าอาหารควรต้องทราบกฎระเบียบฯเหล่านี้ โดยสามารถศึกษาหาข้อมูลรายละเอียดของกฎระเบียบฯดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี