รัฐบาลไฟเขียวตามคำขอของบริษัทน้ำมันในอินเดียให้ขึ้นราคาน้ำมันเบนซินภายในประเทศกว่า 7.5 รูปี หรือเท่ากับประมาณ 5 บาท คิดเป็นการเพิ่มราคามากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ของราคาเดิม

เริ่มต้นจากเที่ยงคืนของวันที่ 24 พ.ค. 55 ราคาน้ำมันเบนซินในเมืองหลวงนิวเดลี เพิ่มขึ้นจาก 65.64 รูปี เป็น 73.18 รูปี คิดเป็น 11.5 เปอร์เซ็นต์ และในเมืองอื่นๆ ที่ราคาน้ำมันเบนซินเดิมลิตรละประมาณไม่เกิน 70 รูปี ต่างพากันทะลุเพดานเกิน 70 รูปีต่อลิตรกันหมดแล้ว ทั้ง กัลกัตตา มุมไบ และเจนไน ถือเป็นการเพิ่มราคาน้ำมันเบนซินมากที่สุดในประวัติการณ์ มากกว่าการขึ้นราคา 5 รูปี เมื่อเดือน พ.ค. ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซล และพลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น ก๊าซหุงต้ม และก๊าซ LPG ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
สื่ออินเดียคาดการณ์การเพิ่มราคาน้ำมันครั้งนี้ไว้แล้ว แต่ไม่นึกถึงว่าจะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ขนาดนี้ โดยเมื่อเดือน ม.ค. 2555 มีสัญญาณมาจากบริษัทน้ำมันของรัฐที่ต้องการเพิ่มราคาน้ำมันเบนซินในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาภาวะขาดทุน ที่สูงถึง 46,500 ล้านรูปี ในปี 2554 แต่กระทรวงน้ำมันของอินเดียยังไม่เอาด้วย
สื่ออินเดียให้ความเห็นว่า เนื่องจากในช่วงต้นปีนั้นเป็นช่วงก่อนการเลือกตั้งรัฐสภาและอาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจในช่วงการประชุมสภาสมัยสามัญประจำปีได้ โดยการประชุมสภาสมัยสามัญประจำปีในวาระล่าสุด เพิ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 55 นี้เอง
ปัจจัยทางการเมือง อาจมีผลทำให้รัฐบาลไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหมขึ้นราคาน้ำมันทีเดียวสูงขนาดนี้ โดยมีการตั้งข้อสังเกตของสื่อมวลชน ถึงการสนับสนุนที่เหนียวแน่นของพรรคร่วมรัฐบาล แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมาแล้ว โดยเฉพาะพรรค All India Trinamool Congress ที่มีอุดมการณ์สังคมนิยม นำโดยนาง Mamata Banerjee หัวหน้าพรรค คุมฐานที่มั่นไว้ที่รัฐเบงกอลตะวันตก แต่นาง Banerjee ก็ยืนยันว่าจะไม่ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อไม่ให้การเมืองของประเทศสั่นคลอน
อีกปัจจัยที่สำคัญคือ ค่าเงินรูปีต่อดอลล่าร์ที่ตอนนี้อ่อนตัว แตะที่รูปีละเกือบๆ 56 ดอลล่าร์แล้ว อาจจะมีผลให้รัฐอั้นไม่ไหว ต้องขึ้นราคาน้ำมันครั้งนี้ แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดจาก 126 ดอลล่าร์สหรัฐ เหลือ 107 ดอลล่าร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ผลกระทบที่ตามมา จะเห็นได้ชัดในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ที่คาดการณ์ว่า ผู้บริโภคจะตัดสินใจไปซื้อรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลมากขึ้น และความต้องการรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินจะลดลง ส่วนในด้านการเมือง พรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคคอมมิวนิสต์อินเดียก็เริ่มวางแผนจะประท้วงการขึ้นค่าน้ำมันไปทั่วประเทศแล้ว
เป็นที่น่าจับตาดูถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองของอินเดียในเรื่องนี้ เพราะน้ำมันเบนซิน เป็นต้นทุนพลังงานสำคัญที่ขับเคลื่อนการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และสื่อมวลชนอินเดีย ยังบอกว่าจะต้องจับตาดูการประชุมสภาสมัยสามัญประจำปีวาระต่อไป ที่มีความเป็นไปได้ว่านายประนาบ มุขเคอร์จี รัฐมนตรีคลัง อาจจะพิจารณาขึ้นราคาพลังงานที่เหลืออื่นๆ เช่น น้ำมันดีเซล ก๊าซหุงต้ม และก๊าซ LPG ผู้บริโภคและนักลงทุนคงต้องเตรียมตัวให้ดี
คณิน บุญญะโสภัต
รายงานจากกรุงนิวเดลี
24 พ.ค. 55