ทำความรู้จัก “OYO” ธุรกิจห้องพักราคาย่อมเยาของอินเดียที่กำลังเติบโตไปทั่วโลก
อุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของธุรกิจภาคบริการของอินเดีย โดยนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2543 – ธันวาคม 2561 ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวในอินเดียในได้ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ (Foreign Direct Investment-FDI) แล้วถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจห้องพักของ OYO จะเติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน
OYO คืออะไร
OYO ย่อมาจากคำว่า On Your Own ถือกำเนิดขึ้นจากการตั้งโรงแรม 1 แห่งในปี 2556 จนกลายเป็นเครือข่ายธุรกิจห้องพัก/โรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียที่มีห้องพักกว่า 173,000 ห้อง ปัจจุบัน OYO ดำเนินธุรกิจโดยการขายแบรนด์แบบแฟรนชายส์ และมีอสังหาริมทรัพย์ให้เช่าในกว่า 500 เมือง ครอบคลุม 10 ประเทศทั่วโลก
ธุรกิจของ OYO ทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่า OYO จะเป็นผู้จัดสรรห้องพักในโรงแรมให้ลูกค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยห้องพักภายใต้แบรนด์ OYO จะมีความสะดวกสบาย ราคาประหยัด เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณปานกลาง ทั้งนี้ ด้วยมาตรฐานการให้บริการแบบ OYO ที่มีความสม่ำเสมอ ราคาไม่แพง มีมาตรฐาน และมี Application ที่ดีในการติดต่อกับลูกค้า จึงทำให้บริการของ OYO เป็นที่ติดอกติดใจนักท่องเที่ยวผู้รับบริการไปทั่วโลก
ทำความรู้จักโครงสร้างธุรกิจของ OYO
OYO เริ่มต้นธุรกิจด้วยการเป็นผู้ประสานงานจัดหาห้องพัก (aggregator) โดยร่วมมือกับโรงแรมที่มีห้องพักคุณภาพดีและให้บริการดี โดยทำสัญญาร่วมกับโรงแรมเพื่อให้ OYO เข้าไปพัฒนาโครงสร้างและคุณภาพของห้องพักให้ได้มาตรฐานและมีดีไซน์สวยงาน ส่วนเข้าของโรงแรมต้องลงทุนในการให้บริการให้ได้มาตรฐานตามแบบฉบับ OYO โดย OYO จะกำหนดแนวทางการให้บริการ เครื่องแบบพนักงาน และราคาค่าห้องพักตามแนวทางของตน และการันตีรายได้ให้กับเจ้าของโรงแรม ทั้งนี้ OYO ไม่ได้ถือครองในอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้ แต่เน้นการลงทุนด้วยการทำการตลาด การปรับปรุงคุณภาพห้องพัก และยกระดับการบริหารจัดการให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานของ OYO โดยเจ้าของโรงแรมจะไม่ได้กลายเป็นพนักงานของ OYO และยังมีสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์อย่างเป็นอิสระ
การเริ่มต้นของ OYO ถือได้ว่าไม่ได้ใช้เงินลงทุนมากนัก แต่ยุทธศาสตร์สำคัญคือการนำโรงแรมที่ไม่มีชื่อเสียงมาพัฒนาคุณภาพให้มีมาตรฐานตามแบรนด์ OYO และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เชื่อมโยงลูกค้าไปสู่โรงแรมนั้น ๆ
การเติบโต และอนาคตของ OYO
นาย Ritesh Agarwal ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ OYO เชื่อว่าภายในปี 2566 OYO จะก้าวขึ้นเป็นเครือโรงแรมขนาดใหญ่ที่สุดของโลก โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา OYO ได้ประกาศการลงทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยี และศักยภาพต่าง ๆ ของ OYO ต่อไป
สำหรับตลาดในอินเดีย OYO สามารถสร้างรายได้เกือบ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากงบประมาณแรกเริ่มจำนวน 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และปัจจุบัน OYO ยังได้ร่วมธุรกิจกับบริษัทชั้นนำระดับโลกจำนวนมาก อาทิ Grab, Didi Chuxing (ธุรกิจคล้าย Grab ในจีน), Airbnb, Lightspeed India, Sequoia Capita, Greenoaks Capital, Hero Enterprise และ China Lodging Group เป็นต้น นอกจากนี้ OYO ยังเริ่มเปิดตลาดใหม่ ๆ ในต่างประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย เนปาล อินโดนีเซีย จีน ฟิลิปปินส์ ซาอุดิอารเบีย และญี่ปุ่น จนทำให้ OYO ถูกกล่าวขานว่าเป็นเครือธุรกิจห้องพักและ living space ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในเอเชีย และล่าสุด OYO ก็ได้เริ่มติดต่อสำนักงาน BOI เพื่อหารือแนวทางในการดำเนินธุรกิจในไทยด้วยแล้ว
ในอีก 5 ปีข้างหน้า OYO วางแผนทุ่มงบประมาณ 950 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อขยายธุรกิจในแถบเอเชีย โดยวางแผนใช้เงิน 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในจีน (ปัจจุบัน OYO มีห้องพักในจีนกว่า 270,000 ห้อง) และใช้งบประมาณที่เหลือเพื่อขยายธุรกิจในอินโดนีเซีย อินเดีย และฟิลิปปินส์ต่อไป ทั้งนี้ นอกจากห้องพักราคาประหยัด OYO ยังวางแผนดำเนินธุรกิจบ้านพร้อมอยู่ดีไซน์สวยงามให้แก่กลุ่มลูกค้าชั้นสูงของญี่ปุ่น โดยได้ร่วมทุนกันบริษัท Yahoo ของญี่ปุ่นแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ไทยเรียนรู้อะไรจาก OYO บ้าง
การดำเนินธุรกิจของ OYO ในประเทศไทยย่อมเป็นโอกาสที่ดีที่ธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กหรือธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ของไทยควรพิจารณา เพราะด้วยโมเดลธุรกิจที่ดีและ platform online ที่เข็มแข็งในการดึงลูกค้าของ OYO ย่อมทำให้ OYO เป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสในไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ต่อไป
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจไทยยังเรียนรู้ได้ว่าธุรกิจห้องพักราคาประหยัดและมีคุณภาพมาตรฐานยังคงเป็นที่ต้องการอย่างยิ่งในตลาดอินเดีย ภาคเอกชนไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านการให้บริการห้องพักและการท่องเที่ยวจึงอาจพิจารณาศักยภาพของตลาดขนาดใหญ่ของอินเดียในสาขานี้ เพื่อนำไปพิจารณาต่อยอดและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในอินเดียได้ต่อไป
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
9 พฤษภาคม 2562