ความน่าสนใจด้านการลงทุนในอินเดียตะวันตก

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีภารกิจส่งเสริมด้านการค้าระหว่างไทยและอินเดีย โดยมีพื้นที่รับผิดชอบทางอินเดียฝั่งตะวันตก ประกอบด้วยรัฐกัว (Goa) รัฐคุชราต (Gujarat) รัฐมัธยประเทศ (Madhya Pradesh) รัฐกรณาฏกะ (Karnataka) และรัฐมหาราษฏระ (Maharashtra) และดินแดนสหภาพอีก 3 แห่ง คือ ดาดราและนครหเวลี (Dadra & Nagar Haveli) ฑมันและฑิอุ  (Daman & Diu) และลักษทวีป (Lakshadweep)

อินเดียตะวันตกเป็นภูมิภาคที่ใหญ่และมีผู้คนจำนวนมาก มีประชากรทั้งสิ้นประมาณ 247.3 ล้านคน ตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา ประชากรของอินเดียตะวันตกเพิ่มขึ้น 1.7% ต่อปี โดยประชากร 39.5% อาศัยอยู่ในเขตชุมชนเมือง ภูมิภาคอินเดียตะวันตกมีพื้นที่ 0.82 ล้านตารางกิโลเมตร และมีอัตราความหนาแน่นของประชากร 303 คน ต่อตารางกิโลเมตร อัตราการรู้หนังสืออยู่ที่ประมาณ 69 % ภูมิภาคนี้มีเมืองต่างๆ ถึง 106 เมือง โดยแต่ละเมืองจะมีประชากรขั้นต่ำอยู่ที่ 1 แสนคน

ด้วยความที่มีพื้นที่ใหญ่และมีประชากรจำนวนมาก ทำให้ดึงดูดผู้คนมาลงทุน ทั้งจากนักลงทุนในอินเดียเองและจากต่างชาติด้วย การนำเสนอบทความในครั้งนี้ จะเป็นการเกริ่นนำให้ท่านผู้อ่านได้เห็นภาพรวมของอินเดียตะวันตก หลังจากนั้นผมจะนำเสนอบทความเจาะลึกลงในรายละเอียดของแต่รัฐในอินเดียตะวันตกในบทความครั้งต่อๆ ไป เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจและเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นครับ

จากอดีตสู่ปัจจุบัน  อินเดียตะวันตกได้เปลี่ยนไปจากการทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์  เพาะปลูก มาเป็นอุตสาหกรรม เช่น โรงงานสมัยใหม่ สินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ วิศวกรรม พลังงาน และน้ำมันส่วนใหญ่อุตสาหกรรมเหล่านี้จะอยู่ที่รัฐคุชราตและรัฐมหาราษฏระ ซึ่งเป็นรัฐที่มีศักยภาพสูง โดยประมาณ 55% ของประชากรของทั้งสองรัฐ มีรายได้และชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

ในส่วนของรัฐมัธยประเทศและกัวมีความโดดเด่นในด้านการท่องเที่ยว โดยรัฐมัธยประเทศ นอกจากจะเป็นแหล่งรวมทางด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ยังเป็นรัฐที่มีความสำคัญในแง่ของทรัพยากรธรรมชาติ แร่ธาตุ และพื้นที่การเกษตร ส่วนรัฐกัวเป็นรัฐที่มีภูมิประเทศและทะเลที่สวยงาม มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว โดยมีรายได้มากมายจากการท่องเที่ยว จากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศอินเดียเองและจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

จากความหลากหลายของลักษณะภูมิประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอินเดียตะวันตก ซึ่งมีความยิ่งใหญ่ทางด้านพื้นที่ วัฒนธรรม มรดกโลกศาสนา และประเพณี โดยประชากรส่วนใหญ่ประกอบด้วย  ฮินดู มุสลิม คริสเตียน และอื่นๆ ซึ่งมีหลากหลายและผสมผสานทางด้านวัฒนธรรมเป็นผลให้ภูมิภาคนี้ มีความดึงดูดต่อชาวต่างชาติให้เข้ามาลงทุนและท่องเที่ยว ทำให้สามารถเปิดรับแนวการค้าสมัยใหม่ได้ไม่ยาก

หากพิจารณาถึงรายได้จากการบริโภคต่อเดือนในช่วงปี 2011-2012  ของประชากรที่มีจำนวนมากในภูมิภาคนี้ อยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านรูปี ต่อเดือน โดย 47% ของการบริโภค คือ อาหาร ทั้งที่เป็นวัตถุดิบ และอาหารปรุงสำเร็จ ส่วน 53%  ที่เหลือนั้นจะเป็นสินค้าอื่นๆ และบริการ เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเช่า ค่าบริการ การศึกษา สันทนาการ ค่ารักษาพยาบาล โดยคิดต่อหัวของค่าใช้จ่ายในการบริโภค  คือ 2.4  หมื่นรูปี ซึ่งถือเป็น 1 ใน 4 ต่อค่าใช้จ่ายต่อหัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีมาก ความต้องการที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นก็มีมากขึ้นตามไปด้วย โดย 3 เมืองใหญ่ในภูมิภาคทางอินเดียตะวันตก ได้แก่ มุมไบ (Mumbai) อาหมัดดาบาด (Ahmedadbad) และปุนา (Pune) มีประชากรในแต่ละแห่ง แห่งละประมาณกว่า 4 ล้านคน นอกจาก 3 เมืองใหญ่ดังกล่าวแล้ว ในอินเดียตะวันตกมีมากกว่า 100 กว่าเมือง ที่มีประชากรมากกว่า 1 แสนคน ความมากมายของประชากรเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า อินเดียตะวันตกมีความเป็นเมืองมากกว่าชนบทและมีความสนใจที่ใครๆก็อยากจะมาลงทุนครับ โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพราะโครงสร้างพื้นฐานที่ดีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำเศรษฐกิจในภูมิภาคตะวันตกของอินเดียไปได้ไกลและรวดเร็วขึ้น

กล่าวโดยสรุป ปัจจัยสำคัญที่จะต้องพิจารณาในการไปลงทุนในภูมิภาคอินเดียตะวันตก คือ จำนวนประชากร ปริมาณการบริโภค และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการผลักดันและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนธุรกิจสมัยใหม่ในอินเดียตะวันตกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในโอกาสต่อไป ผมจะนำเสนอข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจของแต่ละรัฐของอินเดียตะวันตก โปรดติดตามครับ ว่ารัฐไหนจะถูกใจและน่าไปลงทุนสำหรับท่าน 

โดย ณพเกษม โชติดิลก
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 35 ฉบับที่ 3,043  วันที่  12 - 15  เมษายน  พ.ศ. 2558