ดัชมิลล์อีกหนึ่งบริษัทไทยที่พร้อมลุยตลาดอินเดีย
ภาพโฆษณาในเว็บไซต์ของบริษัทดัชมิลล์ ในอินเดีย
ดัชมิลล์เป็นอีกหนึ่งบริษัทแนวหน้าของไทยที่เปิดตัวพร้อมลุยตลาดอินเดีย ตลาดที่มีผู้บริโภคขนาดมหึมา และตลาดผลิตภัณฑ์มูลค่ารวมกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แบรนด์ดังของผลิตภัณฑ์นมในอินเดียที่ติดตลาดมีอยู่หลายยี่ห้อ ได้แก่ ยี่ห้อ Amul ขึ้นแท่นอันดับหนึ่ง รองลงมาได้แก่ National Dairy Development Board ถัดมาคือ Britannia และ Vijaya และ Nestle India Dairy Products เป็นต้น
ดัชมิลล์ได้เข้ามาผลิตนมเปรี้ยวโดยมีโรงงานผลิตอยู่ที่เขต Baramati เมืองปูเณ่ รัฐมหาราษฏระ โดยก่อนหน้าการตั้งโรงงาน บริษัท ดัชมิลล์ ได้เข้ามาตั้งสำนักงานอยู่ที่เมืองบังคาลอร์ โดยจดทะเบียนในนามบริษัท Hindsiam Bevs Private Limited
แรกเริ่ม เมื่อประมาณช่วงไตรมาส 2-3 ของปี 2558 บริษัทฯ ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวยูเอชที จากประเทศไทยโดยใช้ตราสินค้า “Dutch Mill” มาจำหน่ายที่เมืองบังคาลอร์ เพื่อทดลองตลาดก่อน โดยการทดลองตลาดของสินค้าในช่วงดังกล่าวประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี
จากนั้น บริษัทฯ จึงได้ตัดสินใจที่จะตั้งโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยว “Dutchie” ที่เขต Baramati โดยร่วมกับกับบริษัทท้องถิ่นของอินเดีย ซึ่งโรงงานได้สร้างแล้วเสร็จพร้อมผลิตผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวเมื่อเดือนธันวาคม 2558
ระหว่างเยือนเมืองบังคาลอร์ ดิฉันได้มีโอกาสพบกับคุณอภิญญา ตันติวิภาส ตำแหน่ง Country Head ของบริษัท Hindsiam Bevs Private Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท
ดัชมิลล์ จำกัด ในประเทศอินเดีย เลยได้สัมภาษณ์คุณอภิญญาฯ เกี่ยวกับกลยุทธ์ของดัชมิลล์ในการลุยตลาดอินเดียเพื่อที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการรายอื่นๆ ต่อไป
เริ่มจากซ้าย คุณอภิญญา ตันติวิภาส ตำแหน่ง Country Head ของบริษัท Hindsiam Bevs Private Limited และทีมงาน
คุณอภิญญาฯ เล่าให้ฟังเกี่ยวกับศักยภาพของตลาดอินเดียและแนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ว่า “ดัชมิลล์มองว่า ตลาดอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ คนอินเดียนิยมบริโภคนมเป็นจำนวนมาก จึงเห็นว่าจะเป็นโอกาสอันดีในการขยายตลาดผลิตภัณฑ์นมของบริษัทฯ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยว หรือ Drinking Yogurt ในระยะยาว บริษัทฯ มองว่า นอกจากผลิตภัณฑ์นมแล้ว อาจมีแผนที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มให้แก่ตลาดอินเดียเพิ่มเติมในอนาคตด้วย”
ปัจจุบัน ดัชมิลล์ผลิตสินค้านมเปรี้ยว โดยใช้แบรนด์ Mista Twista จำหน่ายนมเปรี้ยวดัชมิลล์ 4 รสชาติ ได้แก่ รสสตรอเบอรี่ รสส้ม รสบลูเบอร์รี่ และรสมะม่วง
การจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมดังกล่าวได้ดำเนินการในหลายเมืองหลักๆ ของอินเดีย ได้แก่ เมืองเจนไน เมืองบังคาลอร์ เมืองปูเณ่ เมืองมุมไบ และบริษัทฯ จะขยายตลาดไปยังกรุงนิวเดลีและเมืองไฮเดอราบัดต่อไป ทั้งนี้ ทางทีมงานของดัชมิลล์ได้จัดตั้งทีมขายที่เข้มแข็งเพื่อรุกตลาดอินเดียและเสริมความแข็งแกร่งของแบรนด์
จากการทดสอบตลาด คุณอภิญญาฯ เล่าว่า ตลาดเมืองใหญ่ๆ ในอินเดียให้การตอบรับผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวสัญชาติไทยเป็นอย่างดี โดยเมืองมุมไบเป็นตลาดที่ดีและมีศักยภาพมากที่สุด เป็นเมืองที่มีคนรุ่นใหม่ มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่
อย่างไรก็ดี ในภาพรวม บริษัทฯ ต้องปรับรสชาตินมเปรี้ยวบางส่วนให้ถูกปากคนอินเดีย โดยปรับรสชาติให้เป็นรสเปรี้ยวอมหวาน เพราะคนอินเดียไม่ชอบรสเปรี้ยวมาก
นอกจากนี้ ยังต้องมีกลยุทธ์ในการปรับชื่อแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมให้มีความเกี่ยวโยงกับภาษาและวัฒนธรรมของคนอินเดียด้วย โดยคุณอภิญญาฯ เล่าว่า
“สำหรับแบรนด์ Mista Twista นั้น เป็นแบรนด์ใหม่ที่บริษัทฯ ตัดสินใจที่จะใช้ในอินเดีย โดยชื่อแบรนด์มาจากรากศัพท์ของภาษาฮินดี Mista หมายถึง การผสม โดยผลิตภัณฑ์นมของเราเป็นการผสมระหว่างนมกับผลไม้ Twista เป็นการเล่นคำให้เข้ากับคำว่า Mista อีกทั้งยังสื่อความหมายว่า ผลิตภัณฑ์ของเรา Twist with Goodness”
“ขณะนี้ ทางบริษัทฯ ได้มีเคมเปญส่งเสริมการตลาดโดยผ่านทั้งสื่อวิทยุ และป้ายประชาสัมพันธ์ ภาษาที่ใช้เป็นทั้งภาษาฮินดีและภาษาอังกฤษ”
ดิฉันผ่านไปในเมืองบังคาลอร์ก็ได้เห็นป้ายประชาสัมพันธ์ของผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยว Mista Twista ด้วย ซึ่งทำให้รู้สึกภาคภูมิใจกับบริษัทไทยแห่งนี้ด้วย
สำหรับประเด็นที่คุณอภิญญาฯ ฝากทิ้งท้ายไว้ให้กับผู้ประกอบการไทยรายอื่นๆ ที่จะเข้ามาลุยตลาดอินเดีย โดยเฉพาะการนำเข้าหรือผลิตผลิตภัณฑ์นมหรือเครื่องดื่มนั้น ก็คือ เรื่องการศึกษากฎระเบียบ การนำเข้าผลิตภัณฑ์ และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ดี
คุณอภิญญาฯ บอกว่า เนื่องจากอินเดียมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และแต่ละแห่งมีระเบียบที่หยุมหยิม และอาจมีระเบียบที่มีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการไทยจะต้องทำความเข้าใจให้ดีและถ่องแท้ มิฉะนั้น อาจทำให้เสียเวลาและกำลังทรัพย์โดยไม่จำเป็นได้
************************
รายงานโดย ดร. พรพิมล สุคันธวณิช
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน