โดยที่เมืองมุมไบถือเป็นศูนย์กลางด้านการเงินและการธนาคารของอินเดีย อีกทั้งปัจจุบันธุรกิจ Start up ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านการเงิน หรือ Fintech ในเมืองมุมไบได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทวาณิชธนกิจ (Investment Banking) สัญชาติญี่ปุ่น Nomura สาขาอินเดีย จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์นวัตกรรม” หรือ “Nomura Innovation Center” ที่เมืองมุมไบ เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนธุรกิจ Start up ให้สามารถต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนา Fintech ที่มีประสิทธิภาพในการรองรับความต้องการของผู้บริโภค
การวิจัยและพัฒนาภายใต้ศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้ เป็นโอกาสให้ธุรกิจ Start up ได้คิดค้น Fintech ที่เป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการเงินและธนาคาร อาทิ การประยุกต์ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence – AI) การตรวจจับสิ่งผิดปกติ (Anomaly detection) ซึ่งมีความล้ำหน้ามากกว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันที่มุ่งอำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมทางการเงินขั้นพื้นฐานของลูกค้ารายย่อยเป็นหลักเท่านั้น
นอกจากนั้น ล่าสุด Nomura เมืองมุมไบ ได้จับมือกับบริษัทชั้นนำของโลก ได้แก่ Google, IBM, Amazon Internet Services และ Pwc จัดตั้งโครงการ “Voyager Nomura Fintech Partnership” เพื่อส่งเสริมธุรกิจ Start up จากทั่วโลกเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Fintech ขั้นสูง โดยบริษัทฯ ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับงบประมาณสนับสนุน และได้ใช้เทคโนโลยีล่าสุดจาก Nomura Innovation Center และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ของบริษัทฯ จะได้รับเลือกให้นำมาใช้ที่ Nomura อินเดีย และสาขาอื่น ๆ ในต่างประเทศ
ผู้บริหารบริษัทฯ เชื่อว่า Fintech ที่พัฒนาขึ้นจากธุรกิจ Start up จะเป็นประโยชน์แก่องค์กร ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดต้นทุน การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายประเภท รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการเงินในรูปแบบต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเป็นการสนับสนุนให้บริษัท Start up ได้แสดงศักยภาพในการพัฒนา Fintech
ที่ผ่านมา ธุรกิจด้าน Fintech ในอินเดีย โดยเฉพาะเมืองมุมไบ เติบโตอย่างก้าวกระโดด และยิ่งภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศยกเลิกธนบัตร 500 และ 1,000 รูปี เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2559 ผู้บริโภคสมัครเป็นสมาชิกและใช้จ่ายผ่าน e-wallet ผ่านธุรกิจ Start up อาทิ Paytm, Freecharg และ MobiKwik ทวีเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยส่งเสริมธุรกิจ Start up ด้าน Fintech คือ การสนับสนุนด้านงบประมาณ และการจัดโครงการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาของสถาบันการเงินท้องถิ่นและต่างประเทศที่มีสำนักงานใหญ่ในเมืองมุมไบ อาทิ โครงการ YES Fintech ของธนาคาร YES Bank ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการด้าน Fintech จากทั่วโลกเข้ารับการอบรมเป็นเวลา 15 สัปดาห์ที่เมืองมุมไบ โดยบริษัทที่เข้าร่วมในครั้งนี้นี้มีทั้งจากสิงคโปร์ (บ. SoCash) อิสราเอล (บ. PayKey) และอินเดีย
ธุรกิจ Start up ของไทยด้าน Fintech ควรจับตามองกระแสการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเงินของอินเดีย และเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงในเมืองมุมไบ ซึ่งนอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะ และเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ ๆ แล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจกับ Start up ด้วยกันและได้ทำความรู้จักกับสถาบันการเงินชั้นนำของโลก
****************************
น.ส. มีนา กลการวิทย์
นักการทูตชำนาญการ
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ
Picture courtesy:maxpixel.freegreatpicture.com