อินเดียยุคใหม่กับการใช้ Big Data
รัฐบาลไทยกำลังให้ความสำคัญการกับใช้ประโยชน์จาก Big Data มาขับเคลื่อนประเทศชาติ วันนี้ผู้เขียนจึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับ Big Data และเรียนรู้ว่าประเทศอินเดียได้ใช้ประโยชน์จาก Big Data อย่างไรบ้าง
Big Data คืออะไร
Big Data คือกลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ที่ต้องการเทคโนโลยีเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนในการวิเคราะห์และแปรผลข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์เฉพาะทางต่อไป เช่น การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมาวิเคราะห์อุปนิสัยความชอบของผู้บริโภคผ่านข้อมูลพฤติกรรมการใช้ Social Media ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็ถือเป็น Big Data ประเภทหนึ่ง
นโยบายและยุทธศาสตร์การใช้ Big Data ของภาครัฐอินเดีย
รัฐบาลอินเดียในยุคนายกรัฐมนตรีโมดี ใช้ประโยชน์จาก Big Data อย่างมากนับตั้งแต่การทำนโยบายหาเสียงเลือกตั้งใน พ.ศ. 2557 โดยมีทีมงานวิเคราะห์ความคาดหวังของประชาชนผ่านฐานข้อมูลการใช้ Social Media ของประชาชน ทำให้นายกรัฐมนตรีโมดีสามารถประกาศนโยบายที่ดึงดูดใจและชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น นอกจากนี้ ยังได้สร้าง Platform www.mygov.in ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแสดงความเห็นต่อการพัฒนาประเทศในประเด็นต่าง ๆ จนนายกรัฐมนตรีโมดีได้รับคำชื่นชมว่าเป็นผู้ใช้ Big Data มาปฏิวัติระบบประชาธิปไตยภายในประเทศ
ที่ผ่านมา กระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศของอินเดีย (Ministry of Electronics and Information Technology) มีบทบาทสำคัญในการใช้เทคโนโลยีมารวบรวมข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลและแปรผลฐานข้อมูลดังกล่าวไปเป็นโครงการต่าง ๆ ทั้งนี้ ในระยะยาวรัฐบาลอินเดียได้มอบหมายให้ National Institution for Transforming India (NITI) Aayog ซึ่งเป็นหน่วยงาน Think Tank ของรัฐบาลให้เป็นผู้ศึกษา รวมรวม และแปรผล Big Data โดยใช้ Artificial Intelligence (AI) เพื่อช่วยเสนอแนะนโยบายที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และปัจจุบัน NITI Aayog ได้เริ่มดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมโดยลงนามความร่วมมือกับ ABB ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI
ตัวอย่างการใช้ Big Data ที่โดดเด่นของอินเดีย
รัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญกับการใช้ดิจิตอลมาพัฒนาประเทศ และมุ่งเน้นการเก็บฐานข้อมูลประชาชนในรูปแบบดิจิตอลเพื่อให้สามารถนำมาใช้เป็น Big Data ได้ต่อไปอนาคต โดยโครงการที่โดดเด่นโครงการหนึ่งคือ โครงการ Digital India ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนารูปแบบการทำงานของภาครัฐให้ทันสมัย ทั้งนี้ กิจกรรมภายใต้โครงการ Digital India ที่น่าสนใจ คือ การเชื่อมโยงฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์กับฐานข้อมูลของหน่วยงานผู้ให้บริการต่าง ๆ ของภาครัฐ เพื่อติดตามพฤติกรรมของประชาชนและประเมินผลเป็นนโยบายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชนในภายหลัง
ความน่าสนใจของการจัดทำฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของอินเดีย
ในอดีต ประเทศอินเดียไม่มีฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์แต่อย่างใด และเอกสารสำคัญที่ระบุความเป็นตัวตนของประชาชนก็คือเอกสารการสมัครเรียน จึงทำให้การระบุตัวตนของคนอินเดียเป็นเรื่องยาก และนำไปสู่ปัญหาทางสังคมอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การสวมสิทธิ์ และการนำชื่อผู้อื่นไปหลอกใช้ในทางที่ผิด เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไขแล้ว โดยรัฐบาลอินเดียได้เริ่มจัดทำฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์เมื่อ พ.ศ. 2559 โดยจัดทำในรูปแบบฐานข้อมูลดิจิทัลที่ทันสมัย และจุดเด่นที่สำคัญคือความพยายามเชื่อมโยงฐานข้อมูลนี้ไปยังฐานข้อมูลการให้บริการประชาชนของหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถแชร์ข้อมูลของประชาชนที่มีอยู่แล้วให้หน่วยงานอื่น ๆ ร่วมใช้ประโยชน์ได้ และร่วมกันเติมเต็มฐานข้อมูลของประชาชนให้กลายเป็น Big Data สำหรับใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์และกำหนดนโยบายต่อไป
ปัจจุบัน รัฐบาลอินเดียได้ริเริ่มโครงการเก็บข้อมูลพฤติกรรมประชาชนตลอดชีวิต ด้วยการเก็บข้อมูลของประชาชนในการมีปฏิสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนลงในฐานข้อมูลเลขบัตรประชาชน อาทิ การรับการรักษาพยาบาล การจดทะเบียนและทำใบอนุญาตต่าง ๆ การลงทะเบียนเรียนหนังสือหรือประกอบอาชีพ และการลงทะเบียนรับสวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น และในอนาคตรัฐบาลจะวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมประชาชนเหล่านี้ เพื่อนำไปจัดทำเป็นนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนต่อไปอีกด้วย
อย่างไรก็ดี การติดตามข้อมูลประชาชนอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ก็ถือเป็นดาบสองคม เพราะในแง่หนึ่งก็ได้สร้างความกังวลและไม่ปลอดภัยให้แก่ประชาชน เพราะรัฐบาลอินเดียไม่ได้กำหนดรายชื่อหน่วยงานที่มีสิทธิเข้าถึงฐานข้อมูลอย่างชัดเจน และการติดตามเก็บข้อมูลพฤติกรรมตลอดชีวิตโดยภาครัฐ ก็ทำให้ประชาชนบางกลุ่มรู้สึกถูกริดรอนเสรีภาพและหวั่นเกรงกรณีการนำใช้ข้อมูลในทางมิชอบ
กล่าวโดยสรุปแล้ว รัฐบาลอินเดียก็ยังอยู่ในช่วงริเริ่มใช้ระบบดิจิทัลมาพัฒนาศักยภาพการทำงานและบูรณาการข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ จึงยังไม่มีโครงการที่ใช้ประโยชน์จาก Big Data ที่เห็นเด่นชัดในระดับประเทศมากนัก อย่างไรก็ดี แนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีและการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการรวบรวมข้อมูลของรัฐบาลอินเดีย จะทำให้ภาครัฐอินเดียสามารถสร้าง Big Data ที่มีประสิทธิภาพ และมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลีจะติดตามและรายงานพัฒนาการที่น่าสนใจให้ผู้อ่านได้เรียนรู้และทำความรู้จักความทันสมัยของประเทศอินเดียให้มากขึ้นต่อไป
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
7 มิถุนายน 2561