เช้าวันนี้ (26 กันยายน 2561) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลีได้รับการติดต่อจากนักข่าวไทยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวสื่อที่ว่าอินเดียต้องการนำเข้าพริกไทยจากไทยจำนวนมาก ซึ่งทางทีมงานฝ่ายเศรษฐกิจของสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลกับเจ้าหน้าที่จาก Spice Board of India ในรัฐเกรละ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์สาธารณรัฐอินเดีย พบว่าข่าวดังกล่าว ไม่เป็นความจริง และมีข้อมูลที่น่าสนใจจะแบ่งปันกับท่านผู้อ่านดังนี้ค่ะ
1. ทำไมอินเดียถึงไม่ต้องการนำเข้าพริกไทยจากไทย
อินเดียไม่ได้ต้องการนำเข้าพริกไทยจากไทยมากขึ้น เพราะตระหนักว่าไทยมีผลผลิตไม่เพียงพอให้ส่งออกได้ในปริมาณมาก ทั้งนี้ จากข้อมูลจของฝ่ายอินเดีย แจ้งว่าว่าไทยเคยสนใจเป็นสมาชิก International Pepper Community เมื่อ พ.ศ. 2513 แต่ได้ถอนตัวออกไปภายหลัง เพราะมีผลผลิตไม่เพียงพอจะเป็นประเทศผู้ส่งออก

2. แล้วอินเดียนำเข้าพริกไทยจากใคร
ปัจจุบันอินเดียนำเข้าพริกไทยจากเวียดนาม อินโดนีเซีย บราซิล ศรีลังกา เป็นหลัก โดยการนำเข้าพริกไทยในอินเดีย ผู้นำเข้าแต่ละรายเป็นผู้เลือกดำเนินธุรกิจโดยตรง และรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้กำหนดโควตาหรือราคาการนำเข้า
3. อินเดียผลิตพริกไทยไม่เพียงพอต่อการบริโภคหรือไม่
แท้จริงแล้ว อินเดียผลิตพริกไทยเพียงพอสำหรับการบริโภค และเป็นผู้ส่งออกพริกไทยที่สำคัญของโลก (เทียบเท่าเวียดนามและศรีลังกา) อย่างไรก็ดี อินเดียนำเข้าพริกไทยสดมาเพื่อแปรรูปและส่งออกอีกครั้ง โดยอินเดียเป็นผู้ส่งออกพริกไทยแปรรูปเป็นลำดับที่ 3 และ 4 ของโลก

4. ถ้าไทยผลิตพริกไทยได้เพียงพอ อินเดียจะต้องการนำเข้าพริกไทยจากไทยหรือไม่
อินเดียต้อนรับการนำเข้าพริกไทยสดจากทุกประเทศสมาชิกอาเซียนรวมถึงไทย โดยเก็บภาษีศุลกากรที่ร้อยละ 52 เท่านั้น ในขณะที่จะเก็บภาษีศุลกากรในการนำเข้าพริกไทยสดจากประเทศอื่น ๆ ถึงร้อยละ 70 อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีผู้เล่นที่ต้องการส่งออกพริกไทยมายังอินเดียมากเพียงพอแล้ว เช่น หลายประเทศในแอฟริกากำลังพัฒนาการปลูกพริกไทยเพื่อส่งออก ในขณะที่เวียดนามก็ประสบปัญหาการผลิตพริกไทยมากเกินไปและไม่สามารถจัดจำหน่ายได้หมด ... การเร่งผลิตพริกไทยเพื่อส่งออกมายังอินเดียจึงอาจไม่ใช่โอกาสทางธุรกิจเท่าใดนัก
ข้อเท็จจริงเรื่องพริกไทยมีดังนี้ หวังว่าเกษตรกรไทยจะไม่หลงเชื่อข่าวลือนะคะ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
26 กันยายน 2561