“ไทยสมายล์” บินลัดฟ้าสู่กัลกัตตา เปิดเส้นทางใหม่ต้อนรับตลาดอินเดียตะวันออก
“กัลกัตตา” หรือ “Kolkata” เป็นเมืองหลวงของรัฐเบงกอลตะวันตก (West Bengal) เป็นมหานครขนาดใหญ่อันดับ 3 ของอินเดีย มีประชากร 45 ล้านคน เป็นแหล่งรวมอารยธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์และภาษาเบงกาลี เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นเมืองหลวงเก่าสมัยยุคอาณานิคมอังกฤษผสมผสานกับวิถีชีวิตดั้งเดิม เมืองแห่งปราชญ์และปัญญาชน บ้านเกิดของรพินทรนาถ ฐากูร (Rabindranath Tagore) กวีชื่อดังก้องโลกผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี ค.ศ. 1913 (พ.ศ. 2456) และเป็นบ้านเกิดของไทยสมายนักปฏิวัติเรียกร้องเอกราชชาวอินเดีย สุภาษ จันทระ โพส (Subhash Chandra Bose)
หากใครประสงค์ที่จะมาเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมแบบบริติชโคโลเนียล (British Colonial) และดื่มด่ำกับบรรยากาศอินเดียพื้นถิ่นทางภาคตะวันออก ขอแนะนำให้เดินทางมายังเมืองกัลกัตตา ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปมาหาสู่เมืองกัลกัตตาโดยสม่ำเสมอ
นอกเหนือจากความโดดเด่นทางศิลปวัฒนธรรม เมืองกัลกัตตายังขึ้นชื่อในเรื่องการเป็นศูนย์กลางของการคมนาคมติดต่อสื่อสาร เชื่อมโยงไปสู่รัฐต่าง ๆ ทางภาคตะวันออกของอินเดีย อาทิ รัฐพิหาร รัฐโอดิศา รัฐฌารขัณฑ์ รัฐฉัตตีสครห์ ตลอดจนรัฐสิกขิม (คิดเป็นประชากรทั้งสิ้นประมาณ 227 ล้านคน) และรัฐต่าง ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ที่เป็นที่รู้จักในนาม “รัฐเจ็ดสาวน้อย” (คิดเป็นประชากรทั้งสิ้นประมาณ 45 ล้านคน) อีกทั้งยังมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ใกล้ชิดกับประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้ ได้แก่ เนปาล ภูฏาน และบังกลาเทศด้วย
สำหรับคนไทย เมืองกัลกัตตามีความสำคัญสำหรับผู้แสวงบุญ เพราะเป็นศูนย์กลางการบินและเป็นเส้นทางผ่านสำหรับเดินทางโดยรถไฟหรือรถบัสเพื่อเดินทางต่อไปยังพุทธคยา รวมทั้งบรรดาสังเวชนียสถานอื่น ๆ ที่น่าเคารพศรัทธาของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วโลก
ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานนานาชาติเมืองกัลกัตตามีเที่ยวบินไปยังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก มีสายการบินทั้งหมด 8 สายการบิน[1] ทำการบิน 36 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และใช้เวลาโดยเฉลี่ย เพียง 2 ชั่วโมง 30 นาที (เทียบเท่ากับจากสิงคโปร์ไปยังกรุงเทพฯ) และมีผู้โดยสารใช้บริการเที่ยวบินเหล่านี้เป็นจำนวนมาก กอปรกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประเมินว่า นักท่องเที่ยวชาวอินเดียจะเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมากถึง 2 ล้านคน ในปี 2562 โดยมีแนวโน้มที่เพิ่มจำนวนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในภูมิภาคอินเดียฝั่งตะวันออก
ดังนั้น ภาครัฐและภาคเอกชนไทยจึงได้ร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในหมู่ชาวอินเดีย โดยการกำหนดมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา Visa on Arrival (VoA) ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 – 30 เมษายน 2562 ในส่วนของหน่วยงานทีมประเทศไทยในประเทศอินเดีย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประจำกรุงนิวเดลี ได้ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในงาน Travel and Tourism Fair Summer 2019 ระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2562 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จัดงาน Top Thai Brand Show 2019 ที่เมืองกัลกัตตา เพื่อกระตุ้นความต้องการสินค้าไทยในหมู่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคชาวเมืองกัลกัตตา และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตาได้จัดงานเทศกาลไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2562 เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย และกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยในหมู่ชาวอินเดียในเมืองกัลกัตตาและพื้นที่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก
ในส่วนของภาคเอกชนไทย มีพัฒนาการที่น่าติดตาม กล่าวคือ บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน จะเป็นสายการบินที่ 9 ที่เข้ามาให้บริการเส้นทางบินระหว่างเมืองกัลกัตตากับกรุงเทพฯ โดยมีกำหนดจะเปิดให้บริการตั้งแต่คืนวันที่ 31 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป ทั้งนี้ เที่ยวบินของ “ไทยสมายล์” จะมีทั้งหมด 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ใช้เครื่องบิน Airbus รุ่น A320-200 แบ่งเป็นชั้นโดยสาร Smile Class (economy class) 150 ที่นั่ง และชั้นโดยสาร Smile Plus (premium economy class) 12 ที่นั่ง
ในระยะแรก เที่ยวบิน “ไทยสมายล์” จะเริ่มทำการบินในช่วงเช้ามืดจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 โดยเที่ยวบิน WE 347 / TG 2437 เส้นทาง กรุงเทพฯ – กัลกัตตา จะเริ่มออกบินเวลา 22.05 น. เวลาท้องถิ่นประเทศไทย เดินทางถึงเวลา 23.30 น. เวลาท้องถิ่นอินเดีย (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 55 นาที) และเที่ยวบิน WE 348 / TG 2438 เส้นทาง กัลกัตตา – กรุงเทพฯ จะเริ่มออกเดินทางเวลา 01.00 น. เวลาท้องถิ่นอินเดีย เดินทางถึงเวลา 05.30 น. เวลาท้องถิ่นประเทศไทย (ใช้เวลา 3 ชั่วโมง)
จากนั้น ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป เที่ยวบิน “ไทยสมายล์” จะเปลี่ยนเวลาบินจากกลางคืนเป็นกลางวันโดยถาวร โดยในเส้นทาง กรุงเทพฯ – กัลกัตตา จะเริ่มออกบินเวลา 13.55 น. เวลาท้องถิ่นประเทศไทย และเดินทางถึงเวลา 15.30 น. เวลาท้องถิ่นอินเดีย และในเส้นทาง กัลกัตตา – กรุงเทพฯ จะเริ่มออกบินเวลา 16.30 น. และเดินทางถึงเวลา 21.00 น. เวลาท้องถิ่นประเทศไทย
“ไทยสมายล์” ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองกัลกัตตา ในงานเทศกาลไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2562 โดยผู้แทนของบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ ได้มอบมอบรางวัลบัตรโดยสารของสายการบินฯ เที่ยวบิน กัลกัตตา-กรุงเทพฯ-กัลกัตตา สำหรับ 2 คน ให้แก่ผู้โชคดีจำนวน 2 รางวัล เพื่อเป็นการกระตุ้นอุปสงค์และสร้างความตื่นตัวเกี่ยวกับเที่ยวบินของ “ไทยสมายล์” ซึ่งกำลังจะเริ่มทำการบินครั้งแรกในเร็ว ๆ นี้
“การบินไทย” และ “ไทยสมายล์” เชื่อมั่นว่า เที่ยวบินใหม่ของไทยสมายล์จะได้รับความนิยมอย่างสูงจากชาวอินเดียตะวันออก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เดินทางสะดวกสบาย และเป็นทางเลือกใหม่ในการเดินทางช่วงกลางวันที่น่าสนใจ (เที่ยวบิน กัลกัตตา – กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จะเป็นเวลากลางคืน) นอกจากนี้ ช่วงเวลาบินของไทยสมายล์ ยังเอื้อต่อการต่อเที่ยวบินโดยไปยังประเทศที่สามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและทวีปออสเตรเลีย ซึ่งทำการบินในช่วงกลางคืนอีกด้วย
ข้อมูลทั้งหมดทั้งมวลนี้ สะท้อนให้เห็นว่า “ภาคตะวันออกของประเทศอินเดีย” มีศักยภาพสูงในฐานะที่เป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย ซึ่งทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเห็นประโยชน์ร่วมกันในการสร้างรากฐาน พัฒนาและส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับอินเดียตะวันออก ทั้งในด้านสาธารณูปโภค บริการ และการแลกเปลี่ยนภาคประชาชน โดยมีเมืองกัลกัตตา ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม “นครแห่งความรื่นเริง” (City of Joy) เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมืองที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินเดียต่อไป
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองกัลกัตตา
เมษายน 2562
[1] รายชื่อสายการบินที่ทำการบินไปยังประเทศไทย ณ วันที่ 29 มีนาคม 2562 ได้แก่ (1) การบินไทย (Thai Airways) (2) All Nippon Airways (ANA) โดยดำเนินการร่วมกับการบินไทย (3) Thai Air Asia (4) IndiGo (5) Spice Jet (6) Bhutan Airlines (7) Druk Air และ (8) Air India