อินเดียประกาศต้อนรับเอกชนไทย ลงทุนสาขาแปรรูปอาหารและชิ้นส่วนยานยนต์
อินเดียจัดสัมมนากลางกรุงเทพฯ เชิญชวนเอกชนไทยลงทุนสาขาแปรรูปอาหารและชิ้นส่วนยานยนต์ในอินเดีย ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว งานนี้เอกชนไทยอุ่นใจ ภาครัฐไทยออกปากให้การสนับสนุนเต็มที่
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา Invest India องค์กรส่งเสริมการลงทุนของอินเดีย ร่วมกับสถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย จัดการสัมมนา Investment Rountable เพื่อชี้ช่องโอกาสการลงทุนในอินเดียในสองสาขาที่มีศักยภาพ ได้แก่ การแปรรูปอาหารและชิ้นส่วนยานยนต์
ประธาน TTR ทูตไทย และรองเลขาฯ BOI ร่วมสัมมนา
งานนี้ นอกจากจะได้รับความสนใจจากเอกชนไทยเกือบ 100 คน มาร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนทัศนะกันแล้ว ยังได้รับเกียรติจากแขกผู้ใหญ่ฝ่ายไทย ไม่ว่าจะเป็น ดร. โอฬาร ไชยประวัติ ที่ปรึกษานายกฯ และประธาน TTR นายพิศาล มาณวพัฒน์ ทูตไทยประจำอินเดีย และนางวาสนา มุทุตานนท์ รองเลขาฯ BOI มาร่วมกล่าวเปิดการสัมมนาด้วย
เอกชนไทยสนใจเข้าร่วมสัมมนากว่า 100 คน
นายอานิล วัดห์วา ทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงานด้วยการย้ำโอกาสการลงทุนในอินเดียที่มหาศาล จากนโยบายของรัฐบาลอินเดียที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในระดับ 6.5-7% หลังเศรษฐกิจโลกทำพิษ GDP อินเดียแผ่วลงไปในปีที่ผ่านมา
ทูตอินเดียยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลอินเดียต้องเร่งดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะในสาขาโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ และการแปรรูปสินค้าเกษตร โดยการสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรต่อการลงทุน และส่งเสริมการร่วมลงทุนแบบ PPP Model เพื่อดึงดูดแหล่งทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เต็มที่
นายทัลลีน กุมาร อธิบดีกรมนโยบายและส่งเสริมอุตสาหกรรม อินเดีย ยังได้นำเสนอโครงการเม้กกะโปรเจ็คอย่าง เขตเศรษฐกิจพิเศษ Delhi-Mumbai Industrial Corridor (DMIC) และแผน National Manufacturing Policy (NMP) ที่เป็นไม้เด็ดของอินเดียที่จะดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ ตลอดจนนำเสนอ e-Biz Project ซึ่งเป็นโครงการระบบอำนวยความสะดวกนักธุรกิจออนไลน์ ซึ่งจะช่วยนโยบายเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
ด้านภาครัฐไทย พร้อมให้การสนับสนุนเอกชนไทยที่ต้องการไปลงทุนอินเดียเต็มที่ เพราะไม่ต้องการให้เอกชนเข้าไปลงทุนในอินเดียเมื่อสายไป
ดร. โอฬาร ไชยประวัติ กล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางไปเยือนอินเดียมาหมาดๆ และเห็นกับตาตัวเองว่า เศรษฐกิจอินเดียกำลังบูม มีศักยภาพมากสำหรับนักลงทุนไทย จึงอยากให้นักธุรกิจไทยให้ความสำคัญกับอินเดียมากกว่านี้
ทูตไทยโฆษณาเว็บ thaiindia.net
ด้านทูตไทยประจำอินเดีย ประกาศพร้อมให้การสนับสนุนเอกชนไทยรายใหม่ที่สนใจไปลงทุนในอินเดียเต็มที่ ขณะนี้สถานทูตไทยมีเว็บไซต์ thaiindia.net ซึ่งสถานทูตพยายามออกไปแสวงหาข้อมูลและโอกาสทางธุรกิจมาให้เอกชนไทยที่ยังไม่แน่ใจในตลาดอินเดีย และมีทีมงานที่พร้อมให้คำแนะนำและไขข้อข้องใจนักธุรกิจไทย
สำหรับเอกชนไทยที่เข้ามาในอินเดียแล้ว ยังประสบปัญหาสองด้าน คือเรื่องการขอวีซ่าธุรกิจเพื่อเข้าไปประกอบธุรกิจในอินเดียที่มีขั้นตอนมากและใช้เวลานาน กับเรื่องกองทุนประกันสังคมที่คนงานไทยต้องจ่ายให้อินเดีย
ทูตไทยเห็นว่า เป็นเรื่องที่ภาครัฐของไทยต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในเรื่องวีซ่า กระทรวงต่างประเทศจะผลักดันให้สถานทูตอินเดียกำหนดหลักเกณฑ์ที่จะอำนวยความสะดวกนักธุรกิจมากขึ้น เช่น การขอวีซ่าธุรกิจได้ในวันเดียว เช่นที่อังกฤษประกาศจะทำให้นักธุรกิจอินเดีย ส่วนเรื่องประกันสังคม กระทรวงแรงงานก็คงต้องเร่งสรุปข้อตกลงที่คั่งค้างกับอินเดีย
นางวาสนา มุทุตานนท์ รองเลขาฯ BOI กล่าวว่า BOI ต้องการส่งเสริมการลงทุนใน ตปท. ของเอกชนไทย ในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา อินเดียกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายการส่งเสริมการลงทุนของ BOI สำหรับสาขาการแปรรูปอาหารและยานยนต์ ก็เป็นสาขาที่เอกชนไทยก็มีศักยภาพ แต่ต้องได้การสนับสนุนด้านข้อมูลและระเบียบ วิธีการ และกฎเกณฑ์การลงทุนในอินเดีย
จากนั้น การสัมมนาได้แยกออกเป็นกลุ่มย่อย ได้แก่ สาขาการแปรรูปอาหารและชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนไทยที่สนใจได้รับข้อมูลเชิงลึก
ซ้าย: สัมมนากลุ่มย่อยด้านการแปรรูปอาหาร ขวา: สัมมนากลุ่มย่อยชิ้นส่วนยานยนต์
ในสาขาการแปรรูปอาหารนั้น มีผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรมอาหารอินเดีย กลุ่มบริษัท Grant Thornton และกลุ่มบริษัท GMR Group ร่วมสัมมนา โดยเชิญชวนให้ภาคเอกชนไทยที่มีศักยภาพไปลงทุนใน Mega Food Parks ที่รัฐบาลอินเดียสนับสนุนให้เปิดในหลายแห่งทั่วประเทศ
จุดเด่นของธุรกิจสาขานี้ คือมีขั้นตอนไม่ซับซ้อน มีหน่วยงานเอกชนที่ได้รับสัมปทานดูแลการลงทุน โดยในกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ รัฐบาลอินเดียอนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 100% ลดภาษีนำเข้าและภาษีรายได้ และยังให้การสนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายขนส่งและห้องเย็นด้วย
สำหรับการสัมมนากลุ่มย่อยสาขาชิ้นส่วนยานยนต์นั้น มีผู้แทนจากสมาคมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แห่งอินเดีย สถาบันยานยนต์ไทย กลุ่มบริษัท GMR Group และบริษัทไทยซัมมิท ซึ่งเป็นบริษัทไทยที่เข้าไปทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนในอินเดียอย่างกว้างขวาง ร่วมสัมมนา
ผู้แทนทั้งสองประเทศเห็นพ้องกันว่า การที่อินเดียและไทยส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์เป็นอันดับ 6 และ 9 ของโลก ตามลำดับ ทำให้สามารถร่วมมือกันในสาขานี้ได้ โดยเฉพาะในด้าน R&D เพราะทั้งสองฝ่ายต่างมีความเชี่ยวชาญ ตลาดยานยนต์อินเดียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ไทยสามารถเข้าไปลงทุนเพื่อเสริมให้อุตสาหกรรมนี้ครบวงจรมากขึ้นในอินเดีย โดยผู้ลงทุนสามารถถือหุ้นได้ 100% ไม่มีขั้นตอนการขออนุญาตทำธุรกิจมากนัก
ทูตไทยและอินเดียพร้อมร่วมมือส่งเสริมการลงทุนทั้งสองฝ่าย
การสัมมนาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฉลองความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย ครบรอบ 20 ปี ของรัฐบาลอินเดีย ซึ่ง Invest India จะจัดสัมมนาลักษณะเดียวกันนี้ในประเทศอาเซียนอื่นๆ อีก 4 ประเทศ โดยมีสาขาเป้าหมายที่ต่างกันไป
ประพันธ์ สามพายวรกิจ
รายงานจากกรุงนิวเดลี
22 มีนาคม 2556