ยามาฮ่าอินเดียเตรียมพัฒนามอเตอร์ไซค์ราคาถูก ฤาภารตะจะกลายเป็นแหล่งยานยนต์ราคาประหยัด
ยามาฮ่าอินเดียตามรอยทาทา บริษัทยานยนต์ท้องถิ่นที่เคยผลิตรถยนต์ราคาถูกที่สุดในโลกอย่างทาทานาโน โดยล่าสุด ผู้บริหารยามาฮ่าเปิดเผยว่า บริษัทวางแผนจะผลิตรถจักรยานยนต์ราคาถูกที่สุดในโลกจากฐานการผลิตของบริษัทในอินเดีย
นายฮิโรยูกิ ซูซูกิ ซีอีโอยามาฮ่าอินเดีย เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ยามาฮ่าอินเดียมีแผนจะพัฒนารถจักรยานยนต์ราคาถูกที่สุดในโลก เพียง 500 เหรียญสหรัฐ หรือเท่ากับ 27,000 รูปี หรือเพียง 14,500 บาท โดยจักรยานยนต์มหาประหยัดรุ่นนี้จะถูกผลิตในอินเดีย จากศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งที่ห้าในโลกของบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นในอินเดีย
ข่าวเรื่องนี้เล็ดรอดออกมาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว สื่อมวลชนท้องถิ่นเคยรายงานว่าบริษัทมีแผนจะทำให้อินเดียเป็นศูนย์ผลิตรถจักรยานยนต์ราคาถูกระดับโลก เพื่อส่งออกไปประเทศในแอฟริกาและละตินอเมริกา
ศูนย์วิจัยและพัฒนาของยามาฮ่าที่ชื่อ Yamaha Motor Research and Development India Pvt. Ltd. (YMRI) เพิ่งก่อตั้งขึ้นที่เมืองสุราชปูร์ในรัฐอุตตรประเทศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้ ศูนย์ฯ ได้เริ่มงานพัฒนาจักรยานยนต์รุ่นประหยัดรุ่นนี้ที่จะเปิดตัวในอินเดียแล้ว นายโตชิคาสึ โคบายาชิ กรรมการผู้จัดการของศูนย์ฯ ยืนยันว่าเป้าหมายของ YMRI คือการผลิตจักรยานยนต์รุ่นราคาถูกที่สุดในโลกที่ใช้ชิ้นส่วนที่ราคาถูกที่สุด
จักรยานยนต์รุ่นใหม่นี้เป็นยุทธศาสตร์หลักของยามาฮ่าที่ต้องการจะเพิ่มบทบาทเป็นผู้นำหลักในธุรกิจยานยนต์สาขาพาหนะสัญจร (commuter) ในอินเดีย ซีอีโอยามาฮ่าอินเดียกล่าวว่า ที่ผ่านมา ยามาฮ่าพุ่งเป้าไปที่จักรยานยนต์ประเภทสปอร์ต รูปแบบสวยงาม และเน้นสมรรถนะ แต่ตอนนี้ ยามาฮ่ากำลังพุ่งเป้าจะเพิ่มบทบาทของบริษัทในสาขา commuter มากขึ้น การผลิตในอินเดียจะได้เปรียบเรื่องต้นทุนและได้เปรียบเรื่องราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ยอดขายจักรยานยนต์และสกู้ตเตอร์ของยามาฮ่าในปี 2556 นี้ อยู่ที่ 710,000 คัน ซึ่งในจำนวนนี้ 210,000 คันจะผลิตสำหรับการส่งออก ปีที่แล้ว ยอดขายของยามาฮ่าอยู่ที่ 490,000 คัน ห่างไกลคู่แข่งรายใหญ่ที่เป็นอันดับหนึ่งเรื่องจักรยานยนต์ในอินเดียอย่าง Hero Moto Corp ที่ยอดขายปีที่แล้วสูงถึง 6.1 ล้านคัน
อย่างไรก็ดี ยามาฮ่าอินเดียตั้งเป้ายาวถึงปี 2561 ว่าจะเพิ่มยอดขายให้เป็น 2.8 ล้านคัน และขายให้ได้ 1 ล้านคันในปี 2558 ซึ่งรวมถึงยอดการส่งออกด้วย
แม้แผนเข็นจักรยานยนต์รุ่นดังกล่าวออกสู่ตลาดจะยังไม่ชัดเจน มีการเปิดเผยว่าจักรยานยนต์รุ่นนี้จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 100 ซีซี โดยยามาฮ่าให้เหตุผลว่าเครี่องยนต์ขนาดเล็กจะสร้างปัญหาเรื่องการทรงตัว อย่างไรก็ดี ปกติแล้วการพัฒนายานยนต์สองล้อรุ่นใหม่จะใช้เวลาราว 2 ปี
ปัจจุบัน บริษัทไทยหนึ่งเดียวคือ กลุ่มไทยซัมมิท ได้เข้ามาเปิดโรงงานในอินเดียผลิตชิ้นส่วนจักรยานยนต์ป้อนให้บริษัทใหญ่ๆ จากญี่ปุ่นที่มาตั้งฐานในแดนภารตะ รวมถึงยามาฮ่าอินเดียด้วย ผู้บริหารของไทยซัมมิทเปิดเผยกับ Thaiindia.net ว่า บริษัทเพิ่งได้รับเลือกให้อยู่ใน 200 ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (supplier) ของยามาฮ่าโกลบอล์ (Yamaha Global) จากจำนวนผู้ผลิตเดิม 400 รายทั่วโลก (Thaiindia.net เคยรายงานเกี่ยวกับไทยซัมมิทและอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของอินเดียที่นี่)
แม้การเปิดตัวรถยนต์รุ่นนาโนของทาทาเมื่อปี 2552 จะเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก และตลาดภายในของอินเดียจะให้ความสนใจอย่างมากในช่วงแรกๆ ยามาฮ่าอาจจะต้องวางแผนการเข็นยานยนต์รุ่นประหยัดอย่างรอบคอบ เพราะมีรายงานว่าเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา ยอดขายทาทานาโนรั้งท้ายอันดับสิบในกลุ่มยานยนต์รุ่นประหยัดของอินเดีย โดยมียอดขายเพียง 76,747 คัน แม้ราคาเริ่มต้นจะอยู่เพียง 1.47 แสนรูปี สำหรับรถที่มียอดขายอันดับหนึ่งคือ Maruti Suzuki รุ่น Alto ที่มีราคาถูกเป็นอันดับสองรองจากทาทานาโน
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ผู้บริโภคอินเดียเริ่มเลือกซื้อสินค้าอย่างชาญฉลาดมากขึ้น โดยไม่มองปัจจัยเรื่องราคาเพียงด้านเดียว นอกจากการแข่งขันที่รุนแรงจากรถยนต์ค่ายอื่นแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเบนซินที่แพงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคอินเดียส่วนใหญ่หันไปใช้รถยนต์ดีเซลรุ่นอื่นๆ แทน
คณิน บุญญะโสภัต
รายงานจากกรุงนิวเดลี
11 เมษายน 2556