อาหารพร้อมรับประทาน...ตลาดอินเดียพร้อมจะรับประทานแล้ว
แต่ไหนแต่ไรมาคนอินเดียนิยมรับประทานอาหารปรุงสดใหม่ โดยเน้นอาหารที่ปรุงเองที่บ้านเป็นหลัก ขนาดคุณพ่อบ้านเดินทางเข้าไปทำงานในเมืองก็ยังไม่วายต้องหาทางรับประทานอาหารกลางวันฝีมือคนที่บ้านที่ปรุงเสร็จใหม่ๆให้จงได้ จนในเมืองใหญ่อย่างมุมไบเกิดธุรกิจบริการจัดส่งอาหารกลางวันอันมีชื่อเสียงก้องโลกขึ้นที่เรียกว่า Dabbawala ซึ่งบริการดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่แบ่งออกเป็นสายตระเวณไปตามบ้านลูกค้าเพื่อรวบรวมอาหารกลางวันที่เพิ่งปรุงเสร็จร้อนๆ ฝีมือคนที่บ้านซึ่งบรรจุอยู่ในปิ่นโต แล้วทำการรวบรวมปิ่นโตอาหารเหล่านี้จัดส่งไปถึงมือคุณพ่อบ้านถึงที่ทำงานในเมืองทันเวลาอาหารกลางวันพอดี โดยผู้ใช้บริการจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน ซึ่งเหตุผลหลักในการใช้บริการนี้ก็เพื่อจะได้รับประทานอาหารปรุงสด สะอาด ถูกอนามัย ด้วยฝีมือคนที่บ้าน แถมยังเป็นการประหยัดเงินค่าอาหารกลางวันได้อีกต่างหาก
พูดถึงเรื่องความสดใหม่ของอาหารตามความรู้สึกของคนอินเดียแล้วละก็ จะเป็นคนละเรื่องกับความสดใหม่ตามความรู้สึกของคนไทยอย่างสิ้นเชิง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคนอินเดียจะซื้อเนื้อไก่สดสำหรับบริโภค ก็จะต้องไปที่ร้านขายไก่ในตลาดสดที่ขายไก่ตัวเป็นๆ หลังจากนั้นลูกค้าก็จะชี้ว่าต้องการไก่ตัวไหนในกรง แล้วก็สั่งให้คนขายจัดการเชือดและถลกหนังไก่ตัวนั้นทันที นี่คือ สดแบบอินเดีย ในขณะที่สดแบบไทยก็แค่ไก่สดชำแหละแช่เย็นขายเป็นแพ็คในซูเปอร์มาร์เก็ตหรือไฮเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป แค่นี้คนไทยก็ถือว่าสดพอแล้ว แต่อินเดียบอกว่ายังสดไม่พอ
ในอดีตที่ผ่านมา ด้วยความคิดและความเชื่อแบบนี้ของคนอินเดีย สินค้าอาหารประเภทพร้อมรับประทานในอินเดียที่เรียกกันว่า Ready-to-Eat Food หรือ RTE Food จึงสอบตกตั้งแต่เริ่มต้นแนะนำเข้าสู่ตลาดอินเดียเมื่อปี 2530 ทั้งๆที่อาหารพร้อมรับประทานเหล่านี้จะช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้นและประหยัดเวลามากขึ้นก็ตาม แต่ขณะนั้นคนอินเดียยังไม่คุ้นเคยกับพฤติกรรมการซื้ออาหารประเภทนี้มารับประทาน อีกทั้งมองว่าเป็นของฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็นเนื่องจากแม่บ้านสามารถปรุงอาหารได้เองอยู่แล้ว และที่สำคัญคือ อาหารพวกนี้ยัง “สดไม่พอ” ตามมาตรฐานของคนอินเดีย
ผ่านมา 20 กว่าปีจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่าพฤติกรรมผู้บริโภคชาวอินเดียเกี่ยวกับอาหารพร้อมรับประทานได้มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปแล้วอย่างสิ้นเชิง โดยผู้บริโภคชาวอินเดียมีการยอมรับอาหารประเภทนี้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ขนาดตลาดของอาหารพร้อมรับประทานในอินเดียในปี 2555 ที่ผ่านมามีมูลค่าสูงถึงประมาณ 1,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ร้อยละ 21 และคาดว่าจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ได้มีการประมาณการว่า จากปี 2543 จนถึงปี 2560 อัตราการเจริญเติบโตเฉลี่ยของตลาดอาหารพร้อมรับประทานในอินเดียจะอยู่ที่ร้อยละ 22.4 โดยคาดว่าในปี 2560 ขนาดตลาดอาหารพร้อมรับประทานในอินเดียจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,828 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่ามูลค่าจะดูไม่มากนักเมื่อเทียบกับขนาดตลาดของสินค้าชนิดอื่นและประชากรจำนวนกว่า 1,200 ล้านคนของอินเดีย แต่ด้วยแนวโน้มการเจริญเติบโตของตลาดที่อยู่ในอัตราสูงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ตลาดอาหารพร้อมรับประทานในอินเดียจึงเริ่มเป็นที่จับตามองของบริษัทต่างๆอย่างไม่กระพริบตา
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคชาวอินเดียเปลี่ยนแปลงไปโดยหันมาบริโภคอาหารพร้อมรับประทานมากขึ้นก็คือ ชาวอินเดียมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวเพิ่มขึ้นและมีการบริโภคมากขึ้น การขยายตัวของเมืองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้คนอินเดียกลายเป็นคนเมืองมากขึ้น ซึ่งหมายถึง คนอินเดียรุ่นใหม่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบมากขึ้นแต่มีเวลาส่วนตัวน้อยลง นอกจากนั้นจำนวนผู้หญิงที่ออกไปทำงานนอกบ้านก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีกด้วยเนื่องจากมีการศึกษาดีขึ้น นั่นหมายความว่าวิถีชีวิตแบบเดิมที่ผู้หญิงเป็นแม่บ้านคอยหุงหาอาหารสำหรับสมาชิกครอบครัวจะค่อยๆลดน้อยลง ประกอบกับมีการขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกสมัยเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ และการอัดแคมเปญทางการตลาดของบริษัทต่างๆที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง ซึ่งปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ได้ส่งผลให้คนอินเดียรุ่นใหม่ต้องหันมาบริโภคอาหารพร้อมรับประทานมากขึ้น เพราะอาหารพร้อมรับประทานสามารถตอบโจทย์วิถีชีวิตของคนอินเดียรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
เวลาพูดถึงอาหารพร้อมรับประทาน คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงอาหารแช่แข็งที่ผู้บริโภคต้องนำไปอุ่นให้ร้อนในเตาอบไมโครเวฟก่อนรับประทานซึ่งน่าจะเป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกที่สุด แต่น่าจะยังไม่เหมาะกับตลาดอินเดียเนื่องจากระบบการขนส่งสินค้าที่ยังไม่พัฒนาและจำนวนเตาอบไมโครเวฟก็ยังมีคนครอบครองในอัตราไม่มากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้วตลาดอาหารพร้อมรับประทานในอินเดียประกอบไปด้วยอาหารแช่แข็งที่ต้องพึ่งพาเตาอบไมโครเวฟในสัดส่วนเพียงร้อยละ 10 เท่านั้น ที่เหลือเป็นส่วนใหญ่อีกร้อยละ 90 กลับเป็นอาหารพร้อมรับประทานที่บรรจุในถุงรีทอร์ตซึ่งเป็นภาชนะรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยโดยไม่ต้องใส่สารกันบูดหรือนำไปแช่เย็น/แช่แข็งแต่ประการใด แต่อาหารพร้อมรับประทานนั้นกลับมีอายุยาว 1-3 ปีเลยทีเดียว
จากการสำรวจของบริษัท Netscribes เมื่อปี 2555 พบว่าอาหารพร้อมรับประทานที่จำหน่ายอยู่ในประเทศอินเดียถึงร้อยละ 93 เป็นอาหารมังสวิรัติ (ไม่มีส่วนผสมของไข่) ส่วนอาหารที่ไม่ใช่มังสวิรัติมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น และจากการสำรวจผู้บริโภคในเมืองหลักของอินเดีย ได้แก่ มุมไบ เดลี ปูเน่ ไฮเดอราบัด และบังกาลอร์ ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2556 พบว่าร้อยละ 74 ของกลุ่มตัวอย่างบริโภคอาหารพร้อมรับประทานอยู่แล้ว โดยร้อยละ 50 บริโภคเป็นครั้งคราว มีเพียงร้อยละ 4.1 เท่านั้นที่บริโภคเป็นประจำทุกวัน สำหรับพฤติกรรมการเลือกซื้ออาหารพร้อมรับประทาน พบว่าร้อยละ 78.7 ของกลุ่มตัวอย่างซื้อจากร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดยปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อจะมาจากรสชาติและกลิ่นของอาหาร ความเชื่อถือในตรายี่ห้อ ราคา และความสะดวกในการซื้อ ตามลำดับ อาหารพร้อมรับประทานที่วางจำหน่ายในตลาดอินเดียส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอินเดียเป็นหลัก ส่วนอาหารต่างชาติยังมีไม่มากนัก โดยในปัจจุบันผู้เล่นรายสำคัญในตลาดคือ บริษัท MTR Foods ของอินเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารอินเดียพร้อมรับประทานที่มีส่วนแบ่งตลาดถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
เห็นแนวโน้มการขยายตัวของตลาดอาหารพร้อมรับประทานในประเทศอินเดียแล้วก็คิดถึงอาหารไทยพร้อมรับประทานของเราขึ้นมาทันที เพราะอะไรๆที่เป็นไทยนี่ดูแล้วจะเป็นที่ชื่นชอบของคนอินเดียเสียเหลือเกิน บอกตรงๆว่า “ความเป็นไทย” เป็นที่ยอมรับของคนอินเดียเป็นอย่างมาก ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 23 เมษายน 2556 ที่ผ่านมาหมาดๆ สำนักงาน ททท. ที่มุมไบ ก็เพิ่งได้รับอีกสองรางวัลเกียรติยศจากการโหวตของผู้อ่านนิตยสาร Travel & Leisure (India Edition) ซึ่งเป็นนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังของอินเดียให้ประเทศไทยได้รับรางวัลThe Best Destination of the World กับรางวัล The Best Wedding Destination ส่วนบริษัทการบินไทยที่มุมไบก็ไม่น้อยหน้า ได้รับรางวัล The Best Asia Airline จากการโหวตของผู้อ่านนิตยสารฉบับดังกล่าวด้วยเช่นกัน
สำหรับอาหารไทย แม้ว่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอินเดียอันเป็นผลมาจากการที่นักท่องเที่ยวอินเดียนิยมเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย แต่ร้านอาหารไทยแท้ๆในอินเดียกลับมีอยู่น้อยมากเนื่องจากยังมีคนไทยสนใจเข้าไปลงทุนเปิดร้านอาหารไทยในอินเดียไม่มากนัก ถ้าสถานการณ์ร้านอาหารไทยในอินเดียยังขยายตัวไม่มากอย่างนี้ การส่งออกอาหารไทยพร้อมรับประทานไปตลาดอินเดียก็น่าจะเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะทำให้คนอินเดียได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารไทยแท้ๆถึงโต๊ะอาหารในบ้านกันเลยทีเดียว...อินเดียพร้อมรับประทานแล้วครับ
----------------------------------------------
อดุลย์ โชตินิสากรณ์
ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
(ลงตีพิมพ์ในกรุงเทพธุรกิจ ทัศนะวิจารณ์ 24 เมษายน 2556)