ผู้บริหารทาทา มอเตอร์ ประเทศไทย ยืนยันบริษัทยังไม่มีแผนย้ายการผลิตออกจากไทย พร้อมแจ้งให้ไทยช่วยส่งเสริมการลดภาษีในการนำเข้ารถยนต์จากอินเดีย เพื่อส่งเสริมการส่งออก
Thaiindia.net ได้รับแจ้งจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ ว่า เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 นายณัช ภิญโญวัฒนชีพ กงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ พร้อมนางสาวกนกพร โชติปาล ผอ.สำนักงานบีโอไอประจำมุมไบ ได้ไปเข้าพบกับนาย Sanjay Mishra กก.ผจก. และนาย Abhishek Sinha รอง ปธ.ฝ่ายการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ บ.ทาทา มอเตอร์ (ปทท.) นายวีระชัย ชาญเชาวน์กิจ บ.ธนบุรีประกอบรถยนต์ (ซึ่งทั้ง 3 คนได้เดินทางมาประชุม Board ที่เมืองมุมไบ ซึ่งเป็นที่ตั้ง สนง.ใหญ่ของกลุ่มทาทา) และนาย A.S. Puri รอง ปธ.ฝ่าย ราชการ บ.ทาทามุมไบ เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานะการดำเนินการของ บ.ทาทา มอเตอร์ (ปทท.) และชักชวนการลงทุนของ บ.ทาทา ในประเทศไทย
ผู้บริหารของบริษัทแจ้งว่า บ.ทาทาได้ดำเนินธุรกิจด้านรถยนต์ในไทยตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา โดยร่วมกับบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ ซึ่งถือหุ้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นผู้ผลิตรถปิ๊กอัพทาทา ซีนอน 2.2 L เครื่องยนต์ดีเซล และกระบะซุปเปอร์ เอซ ให้กับบริษัทฯ ซึ่งกลุ่มลูกค้าคือเกษตรกรสำหรับบรรทุกพืชผล
นาย Sanjay Mishra ยืนยันว่าบริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับไทยและจะมีการลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังผลิต และเพิ่มตัวแทนจำหน่ายรวมถึงศูนย์บริการ นอกจากนั้น บริษัทฯ มีแผนจะทำตลาดรถยนต์ทาทา นาโน (รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ขนาดเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,000 ซีซี ประหยัดพลังงาน และหาที่จอดง่าย) ในประเทศไทยและประเทศอาเซียน โดยจะนำรถที่ผลิตในอินเดียเข้าไปจำหน่าย สำหรับข่าวที่จะมีการย้ายการผลิต บ.ทาทา (ประเทศไทย) ไปยังอินโดนีเซียนั้น เกิดจากความคลาดเคลื่อนในการนำเสนอข่าวของสื่อ
อย่างไรก็ตาม อัตราอากรขาเข้าสำหรับการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปอยู่ในระดับที่สูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ นอกจากอัตราอากรขาเข้าแล้ว ภาษีสรรพสามิตก็เป็นภาระในการเพิ่มต้นทุนของบริษัทฯ ด้วย ทั้งนี้ บริษัทให้ความเห็นว่ารถยนต์ทาทานาโน เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก วัตถุประสงค์เพื่อการใช้งานสำหรับครอบครัว ไม่น่าเข้าข่ายสินค้าฟุ่มเฟือย ขณะนี้บริษัทได้หารือกับกระทรวงการคลังใน 2 ประเด็นหลัก ซึ่งหากรัฐบาลไทยสามารถลดภาษีให้ได้ ก็จะช่วยขยายการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ โดยบริษัทขอให้ BOI ช่วยผลักดันอีกทางหนึ่ง
กงสุลใหญ่ณัช ประจำมุมไบ บอกแก่ บ.ทาทา มอเตอร์ (ปทท.) ว่า บริษัทน่าจะพิจารณาขยายการลงทุนในไทยเพื่อขอส่งเสริมการลงทุนที่เข้าข่ายตามระเบียบการลงทุน เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ โดย BOI จะแจ้งข้อมูลนโยบายการส่งเสริม Eco Car 2 ให้บริษัททราบเพิ่มเติม
ส่วนคุณวีระชัยฯ ได้ให้ความเห็นว่า บริษัทฯ น่าจะนำบริการทางด้านการเงินเพื่อไปสนับสนุนลูกค้าในประเทศไทยด้วย บริษัทฯ แจ้งว่า อาจจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับธนาคารแห่งชาติของอินเดีย (RBI) และธนาคารแห่งประเทศไทยต่อไป
คณิน บุญญะโสภัต
รายงานจากกรุงนิวเดลี