หนังสือพิมพ์ Business Standard ของอินเดียรายงานว่ารัฐบาลอินเดียจะทบทวนบางมาตราของร่างกฎหมายผู้ให้บริการด้านการศึกษาต่างชาติ (Foreign Education Providers Bill) ทั้งนี้เพื่อเพิ่มแรงดึงดูดความน่าสนใจเรื่องการศึกษาในอินเดีย โดยเงื่อนไขแรกที่สถาบันการศึกษาต่างชาติเริ่มยิ้มที่มุมปากได้คือการลดเงินทุนขั้นต่ำในการตั้งสถาบันจาก 500 ล้านรูปี
นอกจากนี้ประเด็นเรื่องการส่งรายได้กลับประเทศบ้านเกิดก็กำลังเป็นที่พิจารณากันอยู่ ในขณะเดียวกันกฎข้อบังคับเรื่องการไม่อนุญาตให้ใช้เงินเกิน 75% ของรายได้ในการพัฒนาสถาบันการศึกษาในอินเดียอาจจะได้รับการทบทวน และทางการอินเดียอาจจะอนุญาตให้สถาบันการศึกษาต่างประเทศใช้ดอกผลจากการดำเนินงานเพื่อการลงทุนได้หลังจากผ่านช่วงเวลาที่กำหนดแล้วระยะหนึ่ง
หลังจากร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นจากคณะรัฐมนตรี ได้มีเสียงตอบรับจากสถาบันการศึกษานานาชาติมากมายที่แสดงความสนใจจะขยายฐานการศึกษามาที่อินเดีย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเยล, เวอร์จิเนีย เทค, สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซทส์, มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย, มหาวิทยาลัยเซาท์เธิร์น แคลิฟอร์เนีย และมหาวิทยาลัยอลาบามา
ร่างกฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อได้รับการรับรองจากกระทรวงยุติธรรมและประธานาธิบดีของอินเดีย
นอกจากนี้ยังมีร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาอีก 15 ฉบับที่รอการพิจารณาจากสภา โดยหนึ่งในจำนวนนี้คือ ร่างกฎหมายมหาวิทยาลัยเพื่อนวัตรกรรม ซึ่งจะอนุญาตให้ตั้งมหาวิทยาลัยพิเศษที่เน้นเรื่องนวัตรกรรมและการวิจัย โดยมหาวิทยาลัยเยลได้ออกตัวแสดงความสนใจเข้ามาช่วยพัฒนาในเรื่องนี้
หลักสูตรที่เป็นที่นิยมในอินเดียราว 26% เป็นหลักสูตรด้านการจัดการและการบริหารธุรกิจ มากกว่า 22% เป็นหลักสูตรเกี่ยวกับวิศวกรรมและเทคโนโลยี/ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ในขณะที่ราว 20% เป็นหลักสูตรเกี่ยวกับการจัดการด้านการโรงแรม โดยสถาบันการศึกษาต่างชาติกระจุกตัวอยู่ในรัฐมหาราษฎระ และเดลี ตามมาด้วยรัฐทมิฬนาฑู
ปิยรัตน์ เศรษฐศิริไพบูลย์
19 สิงหาคม 2554