ฟูลมูนปาร์ตี้ที่กัวของอินเดีย
กัวเป็นรัฐที่มีพื้นที่เล็กที่สุดของอินเดียแต่มีรายได้ต่อหัวสูงถึง 2,029 เหรียญสหรัฐ สูงเป็นอันดับ 2 รองจาก
รัฐจัณฑีครห์ และสูงเกือบ 3 เท่าของรายได้ต่อหัวเฉลี่ยของอินเดีย กัวและจัณฑีครห์จึงจัดเป็นรัฐที่ร่ำรวยที่สุดของอินเดีย
รายได้หลักของกัวเป็นการท่องเที่ยว ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 ล้านคนไปเยือนกัว ในจำนวนนี้ 4 แสนคนเป็นชาวต่างชาติ อาหารของกัวเลื่องชื่อโดยเฉพาะเมนูปลาเป็นแบบผสมผสานระหว่างอาหารปิ้งย่างแบบโปรตุเกสและแกงกะทิของอินเดีย เทศกาล และคาร์นิวัลแบบแคธอลิคมีให้พบเห็นได้ตลอดปี บรรยากาศก็ไม่ต่างจากสมุยบ้านเรานัก อีกทั้งยังเป็นต้นตำรับฟูลมูนปาร์ตี้ การร่ำเมรัยชายหาดยามค่ำคืนเป็นเรื่องธรรมดาของที่นี่มาตั้งแต่ยุคบุปผาชน
ฤดูท่องเที่ยวของกัวมี 2 ช่วง คือ ฤดูหนาว และฤดูร้อน โดยฤดูหนาวชาวยุโรปนิยมไปหลบลมหนาวกันที่นี่ ส่วนฤดูร้อน(ซึ่งเป็นฤดูฝนของกัว) เป็นเวลาของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย
เมืองหลวงของรัฐกัวคือ Panaji แต่เมืองใหญ่ที่สุดเป็นเมืองวัสโกดากามา เขตเมืองเก่าคือเขต Margao มีสิ่งก่อสร้างและโบสถ์แบบโปรตุเกสมากมาย เนื่องจากโปรตุเกสเข้ายึดครองกัวตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ยาวนานกว่า 450 ปี และกลับไปเป็นของอินเดียเมื่อปี 1961 นี้เอง
ข้อมูลทั่วไปของรัฐกัว |
|
GDP |
2,734 ล้านเหรียญสหรัฐ (2009) |
GDP/capita |
2,029เหรียญสหรัฐ(2009) |
GDP growth |
8.4% |
ประชากร |
1.4 ล้านคน (2009) |
พื้นที่ |
3,702 km2 |
ที่ตั้ง |
ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของอินเดีย |
อุตสาหกรรมสำคัญ |
การท่องเที่ยว เหมืองแร่ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย ยางรถยนต์ ยางในรถยนต์ รองเท้า เคมีภัณฑ์ ยา ผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลี เหล็กม้วน ผลไม้ ปลากระป๋อง สิ่งทอ และสุรา |
สินค้าเกตรที่สำคัญ |
ข้าว มะม่วงหิมพาน หมาก มะพร้าว |
แร่ธาตุสำคัญ |
เหล็ก บอกไซต์ แมงกานิส ดินเหนียว ไลม์สโตน และซิลิกา |
ความหนาแน่นของประชากร |
364/km2 |
ภาษาราชการ |
Konkani, English |
ความสูงของพื้นดิน |
1 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล |
การค้ากับไทย |
ส่วนใหญ่ของสินค้าไทยขึ้นที่ท่าเรือมุมไบ |
สินค้าที่มีศักยภาพ |
น้ำผลไม้ ของตกแต่งบ้าน สิ่งปรุงแต่งรสอาหาร เฟอร์นิเจอร์ ไม้อัด ไฟเบอร์บอร์ด กระดาษ เครื่องสำรองไฟฟ้า เครื่องปั่นไฟ สินค้าอาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ ผลไม้แปรรูป โทรทัศน์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ หม้อแปลง ของเล่น พลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์ อลูมิเนียม |
อุตสาหกรรมที่สำคัญเป็นอันดับสองของกัวคือ เหมืองแร่ โดยมีแร่ธาตุที่สำคัญ คือ เหล็ก บอกไซต์ แมงกานิส ดินเหนียว ไลม์สโตน และซิลิกา ในแต่ละปีท่าเรือ Marmagao Port ของกัวมีการส่งออกแร่เหล็กสูงถึง 39% ของอินเดีย อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้แก่ ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย ยางรถยนต์ ยางในรถยนต์ รองเท้า เคมีภัณฑ์ ยา ผลิตภัณฑ์จากแป้งสาลี เหล็กม้วน ผลไม้ ปลากระป๋อง สิ่งทอ และสุรา (ภาษีสุราของกัวถูกมาก)
ภาคเกษตรได้ลดความสำคัญลงเป็นลำดับในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา สินค้าเกษตรสำคัญได้แก่ ข้าว หมาก มะม่วงหิมพาน และมะพร้าว มีการทำประมงพื้นบ้านบ้างแต่ไม่มากนัก ปัจจุบันรัฐบาลกัวมีนโยบายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่แข้มแข็ง โดยไม่อนุญาตให้มีการเปิดนิคมอุตสาหกรรมใหม่ๆ อีก เนื่องจากกระแสการต่อต้านของพรรคการเมืองและโบสถ์แคธอลิค
กัวเป็นเมืองที่มีศักยภาพสำหรับสินค้าไทยหลายชนิดโดยเฉพาะสินค้าอาหาร และของตกแต่งบ้าน เนื่องจากเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวตลอดปี อีกทั้งเป็นเมืองชายทะเลอันดับ 1 ของอินเดียที่ไม่ไกลจากยุโรปนัก ผู้ประกอบการด้านโรงแรมและสปาจึงไม่ควรมองข้ามตลาดกัวเช่นกัน
ดร.ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าฯ
ณ เมืองเจนไน
บทความที่เกี่ยวข้อง
กงสุลใหญ่มุมไบปิ๊งไอเดีย ปั้นโครงการเมืองแฝดไทย-อินเดีย ผลักดันอุตฯ ท่องเที่ยว