รู้จักโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิตของอินเดีย

รู้จักโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิตของอินเดีย

(India's Production Linked Incentive Schemes)

จากความมุ่งมั่นตั้งใจในการเป็นอินเดียที่พึ่งพาตนเองได้ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิ แห่งอินเดียได้ประกาศรณรงค์การพึ่งพาตนเองของอินเดีย หรือ Atmanirbhar Bharat ในปี 2020 และประกาศนโยบายทางเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเร่งรัดและกระตุ้นเศรษฐกิจของอินเดียให้กลับมาฟื้นฟู โดยนโยบายนี้มุ่งให้ประชาชนอินเดียสามารถพึ่งพาตนเองได้ในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน ระบบ ประชากร และอุปสงค์ จึงนำมาสู่การประกาศ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิตของอินเดีย (Production Linked Incentive Schemes) หรือ PLI ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดีย ฯพณฯ นิรมาลา สิทธารามาน ภายใต้งบประมาณ 1,970,000,000,000 รูปี หรือประมาณ 1.97 ล้านล้านรูปี สำหรับการสนับสนุนอุตสาหกรรมใน 14 สาขา มุ่งหวังการสร้างงานกว่า 6 ล้านตำแหน่ง ภายในประเทศ

โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลอินเดียมุ่งดำเนินการเพื่อสนับสนุนการผลิตภายในประเทศ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก โครงการนี้มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทต่างชาติและเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมในประเทศ ด้วยการให้เงินอุดหนุนหรือความช่วยเหลือทางการเงินตามปริมาณการผลิตหรือมูลค่าการผลิตที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้บริษัทขยายการผลิตและสร้างงานเพิ่มขึ้นในหลายภาคอุตสาหกรรม

วัตถุประสงค์ของโครงการ PLI

โครงการ PLI ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์คือการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี พร้อมกับส่งเสริมขีดความสามารถของบริษัทและอุตสาหกรรมในประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก กล่าวคือโครงการ PLI มุ่งเน้น ส่งเสริมการผลิตในประเทศ: เพื่อให้อินเดียพึ่งพาการผลิตในประเทศมากขึ้น ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าที่มีการนำเข้าสูง เช่น ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยารักษาโรค อีกทั้งยังมุ่งหวังให้เกิดการสร้างงานขึ้นในประเทศ เนื่องจากการขยายตัวของภาคการผลิตจะนำไปสู่การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ PLI ยัง เพิ่มการลงทุนจากต่างประเทศ โดยถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดการลงทุนจากบริษัทต่างชาติที่ต้องการขยายการผลิตในอินเดีย โดยเสนอสิ่งจูงใจในการลงทุนที่น่าสนใจ ไปพร้อมกับยกระดับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยต่อการขยายกิจการ อนึ่งบริษัทที่ได้รับคัดเลือกจะได้รับสิ่งจูงใจในรูปแบบการเงินที่ขึ้นอยู่กับระดับการผลิตและการลงทุน โดยมักจะเป็นการให้เงินคืนหรือการลดหย่อนภาษีตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งจะช่วยให้บริษัทเหล่านี้มีแรงจูงใจในการขยายการผลิตในอินเดีย อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังเสริมสร้างการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง: โดยโครงการนี้ยังมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น อิเล็กทรอนิกส์ โทรคมนาคม ยานยนต์ไฟฟ้า และพลังงานหมุนเวียน เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจของอินเดียก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีในอนาคต

อนึ่ง โครงการ PLI คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของ MSME ในประเทศอย่างต่อเนื่อง หน่วยหลักที่ถูกสร้างขึ้นในทุกภาคส่วนมีแนวโน้มที่จะสร้างฐานผู้จัดหาหรือผู้ขายใหม่ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งสอดคล้อง

อุตสาหกรรมเป้าหมายของโครงการ PLI

รัฐบาลอินเดียได้กำหนดอุตสาหกรรมจำนวน 14 กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการผลิต การจ้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภายใต้โครงการ PLI ตัวอย่างของอุตสาหกรรมเหล่านี้ ได้แก่:

1. การผลิตโทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (Mobile Manufacturing and Specified Electronic Components)

2. วัตถุดิบหลักที่สำคัญ/สารตัวกลางของยาและสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม (Critical Key Starting Materials/Drug Intermediaries & Active Pharmaceutical Ingredients)

3. การผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Manufacturing of Medical Devices)

4. รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ (Automobiles and Auto Components) 

5. ยาและเภสัชภัณฑ์ (Pharmaceuticals Drugs)

6. เหล็กพิเศษ (Specialty Steel) 

7. ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคมและเครือข่าย (Telecom & Networking Products)

8. ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์/เทคโนโลยี (Electronic/Technology Products)

9. เครื่องใช้ไฟฟ้า (เครื่องปรับอากาศและหลอดไฟ LED) (White Goods (ACs and LEDs)) 

10. ผลิตภัณฑ์อาหาร (Food Products)

11. ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ: กลุ่ม MMF และสิ่งทอเทคนิค (Textile Products: MMF segment and technical textiles)

12. แผงพลังงานแสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูง (High efficiency solar PV modules) โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างระบบนิเวศสำหรับการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงในอินเดีย และลดการพึ่งพาการนำเข้าในด้านพลังงานหมุนเวียน

13. แบตเตอรี่เคมีขั้นสูง (ACC) (Advanced Chemistry Cell (ACC) Battery) 

14. โดรนและชิ้นส่วนโดรน (Drones and Drone Components)

อนึ่ง โครงการนี้เสนอเงินอุดหนุน รวมถึงสิ่งจูงใจทางการเงินแก่บริษัทและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทั้ง 14 สาขาข้างต้น โดยบริษัทจะได้รับเงินอุดหนุนตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นของสินค้าที่ผลิตได้จากปีฐานที่กำหนดไว้ ซึ่งโครงการนี้ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกอีกด้วย 

โอกาสในสาขาอุตสาหกรรมสำคัญสำหรับนักลงทุนไทย

โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิตของอินเดียเปิดโอกาสให้กับนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนชาวไทยขยายธุรกิจและเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงในอินเดีย ซึ่งนักลงทุนไทยสามารถศึกษาสิทธิประโยชน์ของโครงการ PLI ของอินเดีย เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน ทั้งนี้มีโอกาสนาสาขาอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ อาทิ 

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อินเดียเป็นตลาดใหญ่สำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีอื่น ๆ รัฐบาลอินเดียมุ่งเน้นที่จะทำให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศเติบโตและสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ นักลงทุนไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สามารถใช้โครงการ PLI ในการตั้งโรงงานผลิตหรือขยายธุรกิจในอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นหัวใจหลักของอุปกรณ์ไอที เช่น ชิปและชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงในตลาดโลก

อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EVs) ตลาดยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในอินเดีย โดยรัฐบาลอินเดียสนับสนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ในประเทศอย่างมาก นักลงทุนไทยที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์หรือมีความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยี EV สามารถเข้ามาลงทุนในอินเดียผ่านโครงการ PLI ซึ่งมอบสิ่งจูงใจให้กับบริษัทที่ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ หรือส่วนประกอบที่เกี่ยวข้อง การเข้ามาลงทุนในอินเดียไม่เพียงช่วยขยายตลาดไปยังประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก แต่ยังสามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งจูงใจของรัฐบาลในการผลิตเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมยาทั่วโลก และเป็น "โรงงานยา" ที่ผลิตยาราคาย่อมเยาสำหรับตลาดทั่วโลก โครงการ PLI สนับสนุนการพัฒนาและการผลิตยาและวัคซีนในประเทศ นักลงทุนไทยในอุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์สามารถใช้โอกาสนี้ในการตั้งโรงงานผลิตหรือขยายธุรกิจในอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตยาที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ ยาชีวภาพ (biopharmaceuticals) หรือวัคซีน ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ

อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียน อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่ให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ รัฐบาลอินเดียสนับสนุนการผลิตแผงโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในประเทศเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ หรือเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ สามารถเข้ามาลงทุนในอินเดียผ่านโครงการดังกล่าวได้ 

อุตสาหกรรมอาหารแปรรูป อุตสาหกรรมอาหารเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่รัฐบาลอินเดียให้ความสำคัญผ่านโครงการ PLI เนื่องจากอินเดียมีความต้องการในตลาดอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้น นักลงทุนไทยในอุตสาหกรรมอาหารสามารถเข้ามาลงทุนในด้านการผลิตอาหารแปรรูป หรือการพัฒนาสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าเพิ่ม โดยใช้วัตถุดิบจากภาคเกษตรกรรมของอินเดีย การร่วมทุนในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปสามารถใช้ประโยชน์จากตลาดขนาดใหญ่และแรงจูงใจที่รัฐบาลอินเดียเสนอ

อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและหลอดไฟ LED เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการ PLI ซึ่งรัฐบาลอินเดียจะให้เงินอุดหนุนร้อยละ 4-6 ของยอดขายส่วนเพิ่มแก่ผู้ผลิตสินค้าดังกล่าวในอินเดีย ซึ่งในปัจจุบันเครื่องปรับอากาศเป็นสินค้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วมากที่สุดในอินเดีย มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 7-8 ต่อปี อันเป็นผลมาจากการเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองต่างๆ แม้อินเดียจะมีศักยภาพในด้านการผลิตเครื่องปรับอากาศ แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนชาวไทยที่จะลงทุนในธุรกิจดังกล่าว 

โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการผลิตของอินเดียกับโอกาสของนักลงทุนชาวไทย

โครงการ Production Linked Incentive (PLI) Schemes ของอินเดียเป็นนโยบายที่สำคัญในการส่งเสริมการผลิตในประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก โดยมุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของอินเดียในระยะยาว และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลที่ต้องการให้อินเดียพึ่งพาตนเองได้ และผลักดันการลงทุน การจ้างงาน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

นับว่า PLI เป็นโครงการอันดีที่อินเดียเปิดโอกาสให้นักลงทุนชาวไทยสามารถเข้ามาขยายธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมสำคัญ ๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานหมุนเวียน ยาและเวชภัณฑ์ รวมถึงอาหารแปรรูป ด้วยสิ่งจูงใจทางการเงินและการสนับสนุนจากรัฐบาลอินเดีย นักลงทุนไทยสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้เพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและเติบโตในตลาดที่มีขนาดใหญ่ พร้อมประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน และเป็นประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยณัฐ สร้อยคำ
คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 
และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี

อ่านเพิ่มเติมได้ที่

1. https://www.investindia.gov.in/production-linked-incentives-schemes-india

2. https://www.ditp.go.th/contents_attach/731960/731960.pdf

3. https://pib.gov.in/PressReleasePage.aspx?PRID=1945155

4. https://curadio.chula.ac.th/Program-Detail.php?id=12776

5. https://papers.ssrn.com/sol3/papers.cfm?abstract_id=4693578