อุตสาหกรรมกระดาษทิชชู่ในอินเดียและโอกาสสำหรับประเทศไทย
อุตสาหกรรมกระดาษทิชชู่ในอินเดียและโอกาสสำหรับประเทศไทย
Tissue Paper Industry in India and potential for Thailand
แม้ในอดีตการอุปโภคกระดาษทิชชูในอินเดียจะไม่ได้รับความนิยมนัก แต่ในปัจจุบันกลับพบว่าอุตสาหกรรมกระดาษทิชชูในอินเดียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นภาคส่วนที่กำลังเติบอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรชั้นกลางและประชากรคนรุ่นใหม่ ที่มีค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมการบริโภคที่เน้นสุขอนามัยมากขึ้น มีความตระหนักในเรื่องความสะอาดและสุขอนามัยส่วนบุคคลเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความต้องการกระดาษทิชชูในอินเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการรักษาสุขอนามัยเป็นพิเศษ
นอกจากนี้ อินเดียมีแนวโน้มที่จะมีศักยภาพอย่างมากในด้านการอุปโภคกระดาษทิชชู โดยคาดว่าอุตสาหกรรมกระดาษทิชชูจะเติบโตประมาณ 20-25% ต่อปี แม้ตัวเลขการเติบโตจะขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค แต่ในภาพรวมมีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากศักยภาพที่สูงมากของอุตสาหกรรมดังกล่าว ทำให้การผลิตเปลี่ยนจากขนาดเล็กไปสู่การผลิตขนาดใหญ่ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่เอื้ออำนวยหลายประการ อาทิ การเปลี่ยนแปลงทางอุตสาหกรรม (เช่น การเติบโตของภาค IT การท่องเที่ยว และบริษัทข้ามชาติ) การเปลี่ยนแปลงทางสังคมวิทยา (เช่น การเติบโตของชนชั้นกลางระดับสูง) ทั้งหมดนี้ ช่วยเพิ่มการบริโภคกระดาษทิชชู่ขึ้นในประเทศ และอุตสาหกรรมดังกล่าวอาจเป็นโอกาสสำคัญของนักลงทุนชาวไทยที่สนใจในการดำเนินธุรกิจในประเทศอินเดียที่มีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน

การเติบโตของอุตสาหกรรมกระดาษทิชชู่
อินเดียถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตของอุตสาหกรรมกระดาษทิชชู การเติบโตของตลาดดังกล่าวมีอัตราการเติบโตของความต้องการ (demand) อยู่ที่ 8.7% ต่อปี (CAGR จนถึงปี 2030) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกและของเอเชีย โดยมีอัตราความต้องการกระดาษทิชชู่เพิ่มขึ้นประมาณ 0.2 ล้านตัน ทั้งนี้การเติบโตของอุตสาหกรรมกระดาษทิชชู่ในอินเดียมีสาเหตุสำคัญ กล่าวคือ
ในปัจจุบัน อินเดียมีประชากรจำนวนมากและมีการขยายตัวของเมืองทั้งเมืองหลักและเมืองรองอย่างต่อเนื่อง ความต้องการใช้กระดาษทิชชูในอินเดียจึงทำให้มีอัตราที่เพิ่มมากขึ้น โดยครอบคลุมทั้งการใช้งานในครัวเรือน การใช้ในสถานประกอบการ โรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ซึ่งล้วนมีความต้องการใช้กระดาษทิชชูเพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัจจุบันที่อินเดียมีการรณรงค์และให้ความสำคัญถึงความตระหนักในประเด็นสุขอนามัยที่เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ การขยายตัวสังคมสมัยใหม่ ส่งผลให้อุตสาหกรรมกระดาษทิชชูขยายตัวมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก การขยายตัวของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรม อาทิ การเติบโตของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยวในอินเดีย ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชูในอุตสาหกรรมการบริการเพิ่มขึ้น รวมไปถึง การขยายตัวของเมืองและรายได้ที่เพิ่มขึ้น: การเพิ่มขึ้นของประชากรในเขตเมืองและการขยายตัวของชนชั้นกลางในอินเดีย มีผลต่อการเพิ่มความต้องการใช้กระดาษทิชชู โดยเฉพาะการใช้ในครัวเรือนและในชีวิตประจำวัน อีกทั้ง ความสะดวกในการซื้อ: การเพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลาย เช่น การขายผ่านห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ รวมถึงการขายออนไลน์ ทำให้ผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชูเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น และส่งเสริมให้เกิดการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ในประเทศอินเดีย
ความท้าทายของอุตสาหกรรมกระดาษทิชชูในอินเดีย
แม้ว่าอุตสาหกรรมกระดาษทิชชูในอินเดียจะมีโอกาสเติบโตสูง แต่ก็ยังคงมีความท้าทายที่สำคัญ เช่น ต้นทุนการผลิตที่สูง: วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตกระดาษทิชชู เช่น เยื่อกระดาษ ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งส่งผลต่อราคาขายปลีกและการเข้าถึงของผู้บริโภคในชนบท เมื่อมีราคาสูงทำให้กระดาษทิชชู่มักถูกมองว่าเป็น "สินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น" ด้วยเหตุดังกล่าวจึงทำให้ในแง่ของการบริโภคต่อหัว ตลาดอินเดียบริโภคกระดาษทิชชู่ไม่ถึง 0.5 กิโลกรัมต่อคน ซึ่งต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างมีนัยสำคัญ หากจัดอันดับประเทศตามการบริโภคต่อหัว การบริโภคกระดาษทิชชู่ต่อหัวของอินเดียจะอยู่ในอันดับที่ 77 จึงเป็นความท้าทายสำคัญของผู้ลงทุน
อนึ่ง อินเดียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก การใช้กระดาษทิชชู่ที่เพิ่มมากขึ้นอาจเพิ่มปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการผลิตกระดาษทิชชูต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก เช่น น้ำและไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีการปล่อยของเสียที่ต้องได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี ซึ่งสร้างความกังวลในด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ตลาดกระดาษทิชชูในอินเดียมีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีผู้ผลิตทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เข้ามาทำตลาด ทำให้ผู้ประกอบการต้องใช้กลยุทธ์ที่หลากหลายในการแข่งขัน ดังนั้นผู้ผลิตและเจ้าของแบรนด์ต้องทำงานอย่างมากในการเจาะเข้าสู่ตลาดกระดาษทิชชู่ที่เติบโตในอินเดีย ซึ่งจะต้องมีการปรับสมดุลอย่างระมัดระวังในการให้ความรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้ผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชู่แบบใช้แล้วทิ้ง พร้อมกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชู่นุ่มคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม
โอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมกระดาษทิชชูของไทยในอินเดีย
อุตสาหกรรมกระดาษทิชชูในอินเดียเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น การขยายตัวของเมือง การตระหนักถึงสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตของธุรกิจบริการ แม้ว่าจะมีความท้าทายด้านต้นทุนและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่อุตสาหกรรมนี้ยังคงมีโอกาสสำหรับการลงทุนและการขยายตลาดในอนาคต นักลงทุนชาวไทยมีโอกาสที่ดีในการลงทุนและส่งออกผลิตภัณฑ์กระดาษทิชชูในอินเดีย ดังนี้
ประการที่ 1 ตั้งโรงงานผลิตในอินเดีย: การตั้งโรงงานผลิตกระดาษทิชชู่ในอินเดียจะช่วยลดต้นทุนการขนส่งและเข้าถึงตลาดท้องถิ่นได้รวดเร็ว นักลงทุนไทยสามารถเลือกทำเลที่มีระบบขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เช่น เมืองหลักในอินเดีย เพื่อผลิตและขยายสู่ภูมิภาคอื่น ๆ การใช้เทคโนโลยีทันสมัยและการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุนการผลิต อนึ่งในการตั้งโรงงานจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
- การจดทะเบียนธุรกิจ: เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ให้สถานะทางกฎหมายและการยอมรับ ซึ่งทำได้ผ่านการจดทะเบียนกับ ROC ซึ่งเป็นองค์กรหลักที่ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจในประเทศ
- การขอใบอนุญาตการค้า: ออกโดยหน่วยงานเทศบาลท้องถิ่น โรงงานไม่สามารถเริ่มทำงานได้หากไม่มีใบอนุญาตนี้
- การมีหนังสือรับรองไม่มีข้อโต้แย้งจากคณะกรรมการควบคุมมลพิษ: จำเป็นก่อนเริ่มดำเนินงาน เพื่อยืนยันว่าโรงงานจะไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
- ขอใบอนุญาตโรงงาน: ตามกฎหมายโรงงานปี 1948 เจ้าของธุรกิจต้องขอใบอนุญาตจากหัวหน้าผู้ตรวจโรงงานในพื้นที่ที่จะตั้งโรงงาน
- การลงทะเบียน Udyog Aadhaar MSME: สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
- การลงทะเบียน GST: ธุรกิจที่มีรายได้เกิน 20 แสนรูปีต่อปี หรือตั้งอยู่ในรัฐพิเศษที่มีรายได้เกิน 10 แสนรูปีต้องลงทะเบียน GST
- ขอรหัสนำเข้า-ส่งออก: สำหรับผู้ผลิตที่ต้องการส่งออกสินค้าหรือบริการจากอินเดีย รหัสนี้ใช้ตลอดชีวิตของธุรกิจในการส่งออกและรับชำระเงินจากต่างประเทศ
ประการที่ 2 ร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่น: การร่วมลงทุนกับบริษัทในอินเดียที่มีประสบการณ์ในตลาดจะช่วยลดความเสี่ยงทางธุรกิจและข้อบังคับ รวมถึงช่วยให้เข้าถึงทรัพยากรท้องถิ่น เช่น ที่ดิน แรงงาน และวัตถุดิบได้ง่ายขึ้น การร่วมทุนยังช่วยให้ขยายธุรกิจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ประการที่ 3 ส่งออกสินค้าจากไทย: การส่งออกกระดาษทิชชู่จากไทยเป็นอีกทางเลือก แม้จะมีต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น แต่หากจัดการด้านโลจิสติกส์ได้อย่างดี สินค้าคุณภาพสูงก็สามารถแข่งขันได้ โดยเน้นผลิตภัณฑ์พรีเมียมหรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อดึงดูดผู้บริโภค
ประการที่ 4 ลงทุนในเทคโนโลยีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การใช้น้ำน้อยลงหรือกระดาษรีไซเคิล จะช่วยปฏิบัติตามข้อบังคับด้านสิ่งแวดล้อมของอินเดีย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในตลาดท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมแบรนด์ด้านความยั่งยืนซึ่งจะเป็นที่ยอมรับในตลาดอินเดีย ซึ่งผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ประการที่ 5 ขยายตลาดสู่ภูมิภาคชนบท: แม้ความต้องการกระดาษทิชชู่ในเขตเมืองจะเพิ่มขึ้น แต่ยังมีพื้นที่ชนบทที่ยังไม่คุ้นเคยกับผลิตภัณฑ์นี้ การสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย ราคาย่อมเยา และการให้ความรู้เรื่องสุขอนามัยจะช่วยกระตุ้นความต้องการในพื้นที่ชนบท
แม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่ตลาดกระดาษทิชชูในอินเดียยังมีโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะการลงทุนในเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการขยายตลาดในชนบทและเขตเมืองเล็ก ๆ ซึ่งยังไม่ได้มีการใช้กระดาษทิชชูอย่างแพร่หลาย นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์และการให้ความรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของการใช้กระดาษทิชชูในด้านสุขอนามัยเพื่อขยายส่วนแบ่งตลาด
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยณัฐ สร้อยคำ
คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
1. https://www.tissueworldmagazine.com/departments/marketissues/india-tissue-market-growth-insights/
2. https://papermart.in/the-rise-and-rise-of-tissue/
3. https://enterslice.com/learning/tissue-paper-making-business/
4. https://www.parason.com/blog/tissue-paper-production-line