อนาคตสินค้าอาหารไทยไปได้สวย
ปัจจุบันสินค้าประเภทอาหารสำเร็จรูป (Packaged Food) และเครื่องดื่ม ที่นำเข้าจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในตลาดอินเดียโดยเฉพาะสินค้าจากประเทศไทย สินค้าไทยหลากหลายชนิดและหลากหลายยี่ห้อมีวางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ตตามเมืองใหญ่ของอินเดียอย่างกว้างขวาง
ในปี 2554 ตลาดอินเดียมีการนำเข้าสินค้าอาหารสำเร็จรูปคิดเป็นมูลค่าประมาณ 64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา นับเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 3 รองจากผลิตภัณฑ์นมและไวน์ โดยสินค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วย ซ๊อสและเครื่องปรุงรส เส้นพาสต้า ช๊อคโกแล๊ต และโกโก้
ปัจจัยหลักที่ทำให้สินค้าดังกล่าวมีการขยายตัวสูงขึ้นมาก ได้แก่ การที่ผู้บริโภคอินเดียโดยเฉพาะในเมืองใหญ่มีแนวโน้มที่จะต้องการบริโภคสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาดมากขึ้น ทำให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตในอินเดียต้องวางจำหน่ายสินค้าให้หลากหลายเพื่อดึงดูดลูกค้า และสินค้านำเข้าที่มีราคาเหมาะสมก็สามารถจำหน่ายได้ดีและมีส่วนต่างกำไรที่ผู้จำหน่ายเองก็พอใจ
จากการให้สัมภาษณ์ของผู้เกี่ยวข้องในธุรกิจการนำเข้าและค้าปลีกสินค้าอาหารทำให้ทราบว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้าดังกล่าวของไทยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในตลาดอินเดียมีหลายปัจจัย
ผู้บริหารของบริษัท Max Foods ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสินค้าอาหารรายสำคัญในกรุงนิวเดลี และผู้บริหารของบริษัท Le Marche ซึ่งมีเครือข่ายร้านค้าเฉพาะสำหรับสินค้าอาหารนำเข้าในกรุงนิวเดลี ได้ให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ปัจจัยด้านต้นทุนและระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่งสินค้าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ผู้ค้าปลีกหันมานำเข้าสินค้าจากประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปต้องใช้เวลาขนส่งประมาณ 3-5 เดือน ในขณะที่ผู้นำเข้าใช้เวลาเพียง 1-2 เดือนเท่านั้นในการขนส่งสินค้าจากประเทศไทยมาอินเดีย อีกทั้งยังมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าการนำเข้าสินค้าจากประเทศทางฝั่งตะวันตกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ค่าเงินรูปีอ่อนลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐฯ ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ที่ผ่านมายังประสบกับปัญหาคุณภาพสินค้าจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่นำเข้าผ่านทางดูไบมีคุณภาพไม่คงที่ บางครั้งเป็นสินค้าที่ใกล้จะหมดอายุหรือไม่ก็เป็นสินค้าที่ล้นตลาดและต้องการนำมาระบายในตลาดอินเดีย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้สินค้าไทยโดดเด่นขึ้นมาจากสินค้าของประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกันน่าจะได้แก่ความมั่นใจในคุณภาพของสินค้าไทยในฐานะที่เป็นผู้นำด้านการผลิตและส่งออกสินค้าอาหารโดยเป็นศูนย์กลางในการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นมาเป็นระยะเวลานาน
ผู้บริหารของบริษัท Spencer’s Retail Ltd. ซึ่งมีเครือข่ายซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 200 แห่ง กล่าวว่า สินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและสามารถจำหน่ายได้ในช่วงราคาที่เหมาะสม ถึงแม้ว่าสินค้าจากจีนและมาเลเซียจะมีราคาที่ต่ำกว่าแต่โดยรวมแล้วในเรื่องของคุณภาพยังคงสู้สินค้าจากไทยไม่ได้ ในปีที่ผ่านมาทางบริษัทมีการนำเข้าสินค้าอาหารสำเร็จรูปจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเฉพาะสินค้าไทยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15-25 และในปัจจุบันมีการ วางจำหน่ายสินค้าอาหารนำเข้าเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 8 ของสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านค้าของบริษัท
นอกจากปัจจัยหลักๆ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยเสริมที่ทำให้สินค้าอาหารนำเข้าได้รับความนิยมแพร่หลายในตลาดอินเดียมากขึ้นได้อีก คือ การเผยแพร่ข้อมูลตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการโทรทัศน์ เช่น MasterChef ซึ่งสามารถกระตุ้นความสนใจให้ผู้บริโภคอินเดียหันมาสนใจอาหารต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ผู้บริหารของกลุ่มบริษัท Future Group ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย กล่าวว่า ในบรรดาสินค้าอาหารนำเข้าที่วางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตของบริษัท สินค้าอาหารไทยได้รับความนิยมเป็นอันดับ 3 รองจากอาหารอิตาเลียนและอาหารจีน แต่มีความโดดเด่นและมีอัตราการขยายตัวที่สูงมาก โดยเป็นผลมาจากการปรากฏให้เห็นมากขึ้นของเมนูอาหารไทยตามรายการโทรทัศน์และจำนวนร้านอาหารไทยที่เพิ่มขึ้น ในปีที่ผ่านมาทางบริษัทมีการนำเข้าสินค้าอาหารเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 5 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
สิงหาคม 2555