กรุงนิวเดลี เป็นเมืองศูนย์รวมของการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าที่หลากหลายทั้งในระดับของผู้บริโภคและเครือข่ายทางธุรกิจ อย่างไรก็ตามหนึ่งในงานแสดงสินค้าที่โดดเด่นกว่าใครอื่นทั้งในแง่ของความสำคัญ ขนาดของการจัดงาน และจำนวนของผู้เข้าร่วมงาน จะเป็นงานอื่นไปเสียไม่ได้ นอกจากงาน India International Trade Fair (IITF) ซึ่งจัดขึ้นทุกปีที่ Pragati Maidan กรุงนิวเดลี
เช่นเดียวกันกับงาน IITF ครั้งที่ 32 ปีนี้ที่จัดขึ้นระหว่าง 17- 27 พฤศจิกายน ที่ความยิ่งใหญ่ไม่ได้ลดน้อยลงไปจากปีก่อนๆ ภายใต้แนวคิดหลัก (theme) ของงานว่า “Skilling India” ที่จัดให้มีการเชื่อมโยงทางธุรกิจทั้งในระดับ B2B และ B2C และเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการ/บริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ สิ่งทอ เสื้อผ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องอุปโภคและบริโภค อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและสุขภาพ อัญมณีและเครื่องประดับ ไปจนถึงโทรคมนาคม พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าทางวิศวกรรม รวมถึงส่วนราชการจากรัฐต่างๆเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าและบริการในงานมากกว่า 7,500 บูท
สำหรับการจัดแสดงสินค้าและบริการของ Thailand Pavilion ในงาน IITF ครั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประจำกรุงนิวเดลีนำทีมผู้ประกอบการไทยทั้งหมด 64 ราย ส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับ ดอกไม้ประดับ และเครื่องเรือนเข้าร่วมงาน ในพื้นที่ทั้งหมด 996 ตารางเมตร โดยในช่วงเช้าวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ทูตไทยประจำอินเดียและผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์ประจำนิวเดลี ได้ไปพบปะเยี่ยมเยียนผู้ประกอบการชาวไทย เพื่อสอบถามและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการค้าการลงทุนในประเทศอินเดีย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นยิ่ง
ผู้ประกอบการต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การเข้าร่วมงานครั้งนี้ได้รับประโยชน์มาก ช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสดีในสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ และเปิดตลาดการค้าและบริการในต่างแดน โดยมองว่าประเทศอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านมูลค่าและการพัฒนาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเน้นย้ำถึงโอกาสจากการเติบโตของตลาดของคนชั้นกลางที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และช่องว่างทางการตลาดที่ยังไม่ถูกจับจอง รอให้เก็บเกี่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น สินค้าและบริการของไทยยังมีความได้เปรียบในเรื่อง Thai Brand ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับจากลูกค้า, คุณภาพของสินค้าและบริการ, ดีไซน์ที่โดดเด่นของสินค้า, ความละเอียดของงาน, และฝีมือด้านหัตถกรรมที่มีคุณภาพสูง ที่เป็นตัวการันตีความได้เปรียบในการแข่งขันกับผู้ค้ารายอื่นๆ ได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจจะเข้ามาสู่ตลาดนี้ต้องทำการศึกษาตลาดให้ดีเสียก่อน เนื่องจาก อาจมีปัญหาบ้างในเรื่องกฎระเบียบและการบังคับใช้กฎหมายของทางการที่ซ้ำซ้อน, รสนิยมที่แตกต่างของผู้บริโภค, สภาพความเป็นอยู่และข้อจำกัดทางธุรกิจ, รวมถึงนิสัยใจคอของหุ้นส่วนและลูกค้า ซึ่งต่างต้องทำความเข้าใจและปรับตัวให้เท่าทันกับสภาพของสังคม วัฒนธรรม และพื้นที่ทางการตลาดที่มีลักษณะเฉพาะตัว โดยสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษคือ “ราคา” ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคชาวอินเดีย
ผู้ประกอบการที่มีความสนใจในตลาดอินเดียสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.thaiindia.net และติดต่อสอบถามโดยตรงได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2507-7999 และ 0-2511-5066-77 หรือ www.ditp.go.th
ธนวัฒน์ ไทยแก้ว
รายงานจากกรุงนิวเดลี
22 พฤศจิกายน 2555