Eureka! น้องใหม่ SME ไทยในแดนภารตะ

 

 

เหตุที่ต้องดีใจกันถึงขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาเว็บไซต์ของเราก็มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดยมีเป้าหมายหลักคือให้เอกชนไทยมองเห็นโอกาสและเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในอินเดียกันมากขึ้น แต่แน่นอนว่าที่ผ่านมามันไม่ง่าย เพราะเอกชนไทยยังยึดติดภาพเดิมๆ ของอินเดียจนมองข้ามโอกาสทางธุรกิจไป ที่จะมีก็แต่เอกชนรายใหญ่ๆ ที่สายป่านยาวหน่อยและเข้ามาคลุกวงในในอินเดีย ศึกษาตลาดและศึกษาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจจนเจนจัดและสามารถทำธุรกิจจนเกิดผลกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ 

 

แต่บริษัทใหญ่เหล่านี้ก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นระบบราชการอินเดียที่มีความยุ่งยากซับซ้อน ทำให้การจะเข้าไปเปิดธุรกิจหรือเปิดโรงงานนั้นยากแสนยาก ต้องขอใบอนุญาตเป็นสิบๆ ใบ ต้องวิ่งเข้าออกสำนักงานนั้นสำนักงานนี้กันอุดตะหลุด ยังไม่นับถึงความซับซ้อนของระบบภาษีของอินเดียที่มีทั้งภาษีส่วนกลาง ภาษีของแต่ละรัฐที่แตกต่างกันไป สำหรับบริษัทขนาดย่อม หรือที่เราเรียกจนติดปากว่า SME การเข้าไปลงทุนทำธุรกิจในอินเดียจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

 

ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงอดที่จะชมเชย Eureka Design ไม่ได้ ที่แม้จะเป็นเพียง SME ก็วิสัยทัศน์กว้างไกล มองข้ามสิ่งที่ทำให้เอกชนรายอื่นๆ ขยาด และมองเลยไปเห็นโอกาสที่กำลังบานสะพรั่ง ทีนี้เราลองมารู้จัก Eureka Design กันหน่อยว่า ไปยังไงมายังไงถือได้มาลงหลักปักฐานที่อินเดียได้

 

บริษัท Eureka Design เป็นบริษัทสัญชาติไทยโดยแท้ ที่ทำธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องจักรสำหรับใช้ผลิต/ประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นบริษัท SME ขนาดกลาง-ใหญ่ ที่เกิดมาจากการร่วมกันลงทุนของคน 3 คน ด้วยเงินทุนจดทะเบียนเริ่มต้นเพียง 33,000 ดอลลาร์ และประสบความสำเร็จจนสามารถขยายกิจการและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SME หรือ MAI ได้ในเวลาประมาณ 10 ปี จนขณะนี้มีเงินทุนประมาณ 2,833,334 ดอลลาร์ และบุคลากร 180 คน และได้รับรางวัล SME ดีเด่นจากหลายเวที (คลิกที่นี่ เพื่อชมวีดีโอแนะนำบริษัท)

 

เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจของ Eureka Design เติบโตมาจากการเกาะติดไปกับบริษัทผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในไทย ทำให้สามารถเข้าถึงแวดวงผลิตชิ้นส่วนยายนต์และได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีทันสมัยจากญี่ปุ่น แล้วเอามาปรับเปลี่ยนให้เป็นสไตล์ไทย แต่ยังคงคุณภาพญี่ปุ่นไว้ได้อย่างดี ด้วยเหตุนี้ Eureka Design จึงได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาดไทยและอาเซียน จนเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ขยายสาขาไปเปิดสำนักงานและโรงงานผลิตที่อินโดนีเซีย 

 

สำหรับตลาดอินเดีย ซึ่งธุรกิจยานยนต์กำลังบูมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จนอินเดียกลายเป็นแหล่งผลิตรถยนต์หลากหลายยี่ห้อ ทำให้ Eureka Design ก็ตามลูกค้าญี่ปุ่นเข้ามาในตลาดอินเดียได้ตั้งแต่ปี 2550 จนฐานลูกค้าขยายเพิ่มขึ้น มีรายใหญ่ๆ อย่างเช่น Maruti Suzuki, Ahresty และ Rane NSK จนการให้บริการหลังการขายโดยการบินไปมาเริ่มไม่สะดวก บริษัทจึงตัดสินใจเปิดสำนักงานแห่งแรกที่เมืองกูร์กาวน์ รัฐหรยาณะ ชานกรุงนิวเดลี เพื่อเป็นสำนักงานให้บริการแก่ลูกค้าชาวอินเดียที่สั่งซื้อเครื่องจักรจากบริษัท เช่นเครื่อง Leak Test ระบบ Assembly Line, Marking Machine สำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ เช่น ถุงลมนิรภัย ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ และระบบเบรก เป็นต้น

 

 

บริษัทได้จัดพิธีเปิดสำนักงานดังกล่าวไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา สำนักงานใหม่ของยูเรก้านี้ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม IMT-Manesar ซึ่งมีบริษัทญี่ปุ่นน้อยใหญ่มาตั้งโรงงานผลิตจำนวนไม่น้อย ที่เห็นเด่นชัดก็จะมี Mitsibishi ที่ผลิตเครื่องปรับอากาศ งานนี้ Eureka Design ได้เชิญผู้ใหญ่จากสถานทูตไทยในอินเดีย คือคุณสุนทร ชัยยินดีภูมิ อัครราชทูต ไปกล่าวเปิด ต่อหน้าหุ้นส่วนและลูกค้าในอินเดียที่มาร่วมงาน 

 

คุณนรากร ราชพลสิทธิ์ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร Eureka Design ซึ่งบินมาเปิดสำนักงานด้วยตนเอง เล่าให้เราฟังว่า "เราตัดสินใจมาเปิดสำนักงานที่อินเดียเพราะเห็นว่า อินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และเราเข้ามาในอินเดียแบบมีโพซิชั่นที่ชัดเจน คือเราต้องการเข้ามาชิงตลาดกลาง คือผลิตเครื่องจักรที่มีราคาถูกกว่าเครื่องจักรที่อินเดียนำเข้าจากญี่ปุ่น ขณะเดียวกันคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่นเมื่อเทียบกับเครื่องจักรราคาถูกที่ผลิตในอินเดียเอง" 

 

เมื่อถามถึงความยากง่ายในการเปิดสำนักงานและประสบการณ์การทำธุรกิจในอินเดีย คุณนรากรกล่าวว่า "แน่นอนว่ามีอุปสรรคไม่น้อย เช่นกว่าเราจะหาที่เปิดสำนักงานแห่งนี้ได้ก็ใช้เวลาและความพยายามไม่น้อย เพราะในอินเดียมีกฎระเบียบที่ซับซ้อน และเนื่องจากเป็นประเทศใหญ่ ทำให้ต้องใช้ความรอบคอบในการพิจารณาหาคู่ค้าและหุ้นส่วนที่ไว้ใจได้ ที่ผ่านมาเราก็โชคดีมีบริษัทที่ปรึกษาอินเดียที่ช่วยเหลือเราเป็นอย่างดี ตั้งแต่เรื่องการเริ่มต้นธุรกิจ การทำตามกฎระเบียบท้องถิ่น จนถึงการจัดพิธีเปิดวันนี้"

 

วิธีการที่ยูเรก้าใช้ในการคัดสรรบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งมีความจำเป็นมากในการทำธุรกิจในอินเดียก็คือ การประกาศรับสมัครบริษัที่ปรึกษา และคัดเลือกจากประวัติการทำงาน และสอบถามไปยังบุคคลอ้างอิงและบริษัที่เคยเป็นลูกค้าของบริษัทนี้มาก่อน เรียกได้ว่า คนที่เคยทำธุรกิจกับอินเดียมาก่อนก็จะต้องรู้ว่าต้องรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วนมากกับทุกอย่าง เพราะอย่างที่กล่าวแล้ว อินเดียเป็นประเทศใหญ่มีบริษัทประเภทที่ปรึกษาเยอะมากและก็มีอีกเยอะที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกเอกชนต่างชาติที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

อีกหนึ่งกลเม็ดเคล็ดลับที่ทำให้ Eureka Design บริหารกิจการในอินเดียได้คล่องตัว คือการใช้บุคลากรท้องถิ่นที่คุยกับคนอินเดียรู้เรื่อง เพื่อช่วยผ่อนแรงให้คนไทยแทนที่จะต้องไปต่อล้อต่อเถียงกับคนอินเดียที่มักคิดคนละมุม ก็มอบหน้าที่นี้ให้คนที่รู้ไส้รู้พุงกันแทน โดยบริษัทเลือกที่จะจ้างบุคลากรทั้งชาวอินเดียและและเนปาล ที่คัดเลือกมาจากสถาบัน AIT ที่ไทย เพราะนอกจากคนเหล่านี้จะรู้จักวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างดีแล้ว ยังเข้าใจความคิดคนไทยและการทำธุรกิจแบบไทยด้วย การมีตัวกลางในการทำธุรกิจกับอินเดียที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย จึงถือเป็นทีเด็ดอีกอย่างของ Eureka Design

 

 

สำหรับแผนในอนาคตของ Eureka Design นอกจากจะเตรียมเปิดโรงงานในต่างประเทศอีกแห่งที่เวียดนามแล้ว Eureka Design ยังมีแผนจะขยายไปตั้งโรงงานการผลิตที่ใหญ่ขึ้นทั้งทางใต้ของอินเดียและรัฐคุชราต เพราะทั้งสองที่ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ของอินเดีย ดังนั้น ลูกค้าของยูเรก้าก็จะกระจุดอยู่ตามทั้งสองพื้นที่นี้จำนวนมาก

 

จึงน่าคอยติดตามเอาใจช่วยบริษัท SME ดาวเด่นของไทยรายนี้ให้ประสบความสำเร็จ เพื่อที่จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้เอกชนไทยรายอื่นๆ หันไปลงทุนในอินเดียกันมากขึ้น แต่เชื่อแน่ว่า Eureka Design จะโลดแล่นในอินเดียได้อีกนานด้วยปรัชญาการทำธุรกิจที่เน้นคุณภาพดีราคาย่อมเยากว่า ที่น่าจะถูกอกถูกใจชาวอินเดียอยู่แล้ว