มองไปรอบๆ ตัว หลายคนคงเห็นเฟอร์นิเจอร์ของบริษัทร้อกเวิธเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทำงาน และวันนี้ตลาดไทยไม่เพียงพอเสียแล้วสำหรับร้อกเวิธ บริษัทขนาดกลางแต่คิดไกลได้ลงมือแล้วกับการขยายธุรกิจไปกว่า 32 ประเทศ และจุดหมายต่อไปคือการวางให้อินเดียเป็นฐานผลิตรองรับความต้องการจากเอเชียใต้และตะวันออกกลาง ในขณะที่โรงงานในประเทศไทยจะเป็นฐานผลิตรองรับตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับการเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558
การมาอินเดียของร้อกเวิธอาจจะไม่สมบุกสมบั่นเท่ากับบริษัทไทยอื่นที่เข้ามาก่อนในประเทศอินเดีย เพราะร้อกเวิธได้พันธมิตรที่รู้จักตลาดอินเดียเป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นบริษัทกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาจับจองพื้นที่ใน Sri City นิคมอุตสาหกรรมเอกชนแห่งแรกและแห่งเดียวทางตอนใต้ของอินเดีย ซึ่งถูกจัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี สิทธิการส่งรายได้กลับประเทศ ไม่มีปัญหาเรื่องสาธารณูปโภคขัดข้อง หมดปัญหาเรื่องการจัดซื้อสรรหาที่ดิน และขจัดปัญหาเรื่องสหภาพแรงงาน สำหรับบริษัทที่ตั้งในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้
บริษัท Rockworth Systems Furniture (India) Private Limited ก่อตั้งขึ้นในปี 2552 โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท Rockworth Plc. กับบริษัท Al Reyami Group (Dubai) โรงงานบนพื้นที่กว่า 30 ไร่ ของบริษัทประกอบไปด้วยคนงานเริ่มต้นที่ 300 คนในช่วงแรก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 800 คนในช่วงไม่เกินสามปีข้างหน้าเพื่อรองรับการเติบโตในตลาดเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา
นายชาคริต วรชาครียนันท์ กรรมการบริหารบริษัทร้อกเวิธกล่าวกับ thaiindia.net ว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทเข้ามาในตลาดอินเดียได้อย่างค่อนข้างราบเรียบคือการได้คู่ค้าที่ดี โดยบริษัทเป็นคู่ค้าที่ดีกับบริษัท Al Reyami Group มาตั้งแต่การไปบุกตลาดดูไบเมื่อหลายปีก่อน
บริษัทตั้งเป้าบรรลุยอดขายที่ 45 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 2 พันล้านรูปีภายในห้าปี คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2554 โดยที่ 35% จะเป็นรายได้จากการส่งออก และมองกำไรเติบโตเฉลี่ยปีละ 10%
การเติบโตของอินเดียเป็นที่หมายปองของบริษัทข้ามชาติทั่วโลก ทำให้บริษัทสัญชาติต่างๆ พากันมาตั้งสำนักงาน และโรงงานที่อินเดียกันไม่ขาดสาย แนวโน้มดังกล่าวก่อให้เกิดความต้องการอย่างมหาศาลในตลาดอาคารสำนักงาน โดยมีอัตราเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 25%-30% ต่อปี ปัจจุบันขนาดอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์สำนักงานมีมูลค่าราว 1.6 พันล้านเหรียญ หรือ 8 หมื่นล้านรูปี
เมื่อมองเห็นศักยภาพการเติบโตของตลาดเหล่านี้ การขยายฐานการผลิตมาที่อินเดียดูจะเป็นกลยุทธ์ที่สามารถรองรับความต้องการ เหมาะสมในแง่ต้นทุนการผลิต และการขนส่ง และที่สำคัญเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพของบริษัทไทย ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวอย่างนำร่องให้บริษัทไทยอื่นที่กำลังตกตะกอนความคิดว่าควรก้าวเข้ามาในตลาดอินเดียหรือไม่
ปิยรัตน์ เศรษฐศิริไพบูลย์
23 สิงหาคม 2554