ไทย ซัมมิท นีล ออโต้ ให้คุณภาพพูดแทน ตั้งโรงงานขนาบลูกค้า ได้ใจ ได้ราคา
เริ่มต้นจากการเชิญชวนของลูกค้าบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทย ที่ต้องการมาขยายธุรกิจในอินเดีย บริษัทไทย ซัมมิท นีล ออโต้ (Thai Summit Neel Auto Pvt. Ltd.) ผู้ผลิตอะไหล่ยานยนต์ชั้นนำของไทย จึงตามมาลงทุนในอินเดีย และเติบโตควบคู่ไปกับธุรกิจยานยนต์ของอินเดียที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นอกจากจะมีลูกค้าญี่ปุ่นในมือที่เชื่อฝีมือแล้ว คุณภาพของไทย ซัมมิท ยังได้รับการยอมรับจาก JMB Group บริษัทชั้นนำของอินเดียให้เป็นผู้ผลิตอะไหล่รถจักรยานยนต์ 2 ล้อ (มอเตอร์ไซค์ และสกูตเตอร์) และอะไหล่รถสามล้อ ซึ่งในปี 2553 ที่ผ่านมาอินเดียมียอดขายรถจักรยานยนต์ 2 ล้อ รวม 11.79 ล้านคัน และ 526,022 คันสำหรับรถสามล้อ ยอดจำหน่ายรถรวมทั้งประเทศอินเดียในปีที่แล้วอยู่ที่ 15.5 ล้านคัน
บริษัท JMB เป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ 2 ล้อ ยี่ห้อ TVS มียอดขายอันดับ 3 ในอินเดีย โดยในปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายรถรวมเติบโต 33.2% มาอยู่ที่ 2.05 ล้านคัน จาก 1.54 ล้านคันในปีก่อน ในส่วนของยอดขายรถจักรยานยนต์ 2 ล้อเติบโต 31.9% มาอยู่ที่ 2.0 ล้านคัน จาก 1.52 ล้านคันในปีก่อน
บริษัทฮีโร่ ฮอนด้า (Hero Honda) ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดในส่วนของรถจักรยานยนต์ 2 ล้อซึ่งเติบโต 17.4% มาอยู่ที่ 5.4 ล้านคัน บริษัทบาจั๊ด ออโต้ (Bajaj Auto) ตามมาที่อันดับ 2 ด้วยยอดขาย 3.4 ล้านคัน โต 35.1%
แม้ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยอดขายรถนั่งส่วนผู้คนจะชะลอตัวลงต่อเนื่อง แต่ยอดขายรถจักรยานยนต์ 2 ล้อยังคงเติบโตต่อเนื่อง และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ทั้งต่างชาติและของอินเดียเองต่างมีแผนขยายธุรกิจไปยังเมืองต่างๆ ตามการเติบโตของอินเดีย โดยในขณะนี้รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียกำลังเป็นที่หมายตาของบริษัทผลิตรถทั้งหลายที่จะเป็นศูนย์การผลิตใหม่หลังจากประสบความสำเร็จจากการตั้งโรงงานที่เมืองเจนไน ปูเน่ และกูร์กาวน์
ผู้บริหารของบริษัทไทย ซัมมิท นีล ออโต้กล่าวกับ thaiindia.net ว่า หากลูกค้าขยายโรงงาน บริษัทก็พร้อมจะไปตั้งโรงงานผลิตอะไหล่ขนาบข้างบริษัทลูกค้าเพื่ออำนวยความสะดวก
นอกจากผลิตอะไหล่ยานยนต์แล้ว บริษัทไทย ซัมมิท นีล ออโต้ยังผลิตอะไหล่ประกอบเครื่องจักร มีการใช้เหล็ก 1,250 ตันต่อเดือนเป็นวัตถุดิบในการผลิต
พนักงานกำลังประกอบเชื่อมระบบในรถมอเตอร์ไซค์
มอเตอร์ไซค์ทุกคันจะได้รับการทดสอบวิ่งจริง
สำหรับบริษัทไทยที่ต้องการมาทำธุรกิจยานยนต์ในอินเดีย ควรคำนึงถึง
- การหาคู่ค้าที่ลงตัว ตอนนี้ทั้งผู้เล่นอินเดียและต่างชาติเข้ามาในตลาดยานยนต์เกือบทุกรายแล้ว ผู้ประกอบการไทยคงต้องทำการบ้านในการเข้าเจรจา ตามมาเป็นซัพพลายเออร์ แต่การร่วมทุนกับบริษัทอื่น ก็ต้องพิจารณาให้รอบคอบถึงความยั่งยืน เพราะการร่วมทุนกันก็คล้ายกับการแต่งงาน หากประคับประคองไม่ดี ก็อาจมีอันต้องร้างรา ดังเช่นที่มีตัวอย่างให้เห็นในวงการธุรกิจอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นฮอนด้า, เรโนลด์ และที่ระหองระแหงกันอยู่อย่างเทเลนอร์กับยูนิเทค
- เรื่องวีซ่า หากต้องการส่งผู้บริหารคนไทยมาดูแลงาน เพราะตามกฎหมายของอินเดีย แรงงานต่างชาติที่จะได้วีซ่าทำงานในอินเดียต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 25,000 เหรียญต่อปี บริษัทต่างชาติบางรายใช้วิธีขอวีซ่านักธุรกิจแทน เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าวีซ่านักธุรกิจมีอายุเพียง 6 เดือน
- เรื่องทักษะฝีมือแรงงาน เพราะอาจจะเป็นราคาที่บริษัททั้งหลายต้องจ่ายหากต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายเรื่องต้นทุนแรงงาน รวมไปถึงเรื่องปัญหาสหภาพแรงงาน ซึ่งอาจจะลุกลามทำให้ธุรกิจหยุดชะงักไปได้อย่างกรณีของ Maruti Suzuki ผู้ผลิตรถยนต์ยอดขายอันดับ 1 ในอินเดีย
ประวัติย่อ |
บริษัท Thai Summit Neel Auto Pvt. Ltd. เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ไทย ซัมมิท กรุ๊ป (Thai Summit group) ของไทย กับ JBM group ของ India ในปี 2548 ทั้งสองฝ่ายถือหุ้นในสัดส่วน 50-50 กลุ่มบริษัทไทย ซัมมิท มีบริษัทในเครือมากกว่า 30 แห่ง ดำเนินธุรกิจผลิตอะไหล่ยานยนต์ อะไหล่จักรยานยนต์ 2 ล้อ และสามล้อ และอะไหล่เครื่องจักรเกษตรกรรมมานานกว่า 30 ปี ในขณะที่ JBM Group เป็นผู้นำด้านแผ่นเหล็กในอุตสาหกรรมยานยนต์ในอินเดีย ดำเนินธุรกิจมากว่า 20 ปี |
โรงงาน |
มีพนักงานรวมมากกว่า 1,200 คน มีรายได้รวมมากกว่า 2 พันล้านรูปี และเงินลงทุนรวมมากกว่า 600 ล้านรูปีตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทร่วมทุนมา |
ปิยรัตน์ เศรษฐศิริไพบูลย์