ฐานเศรษฐกิจ : มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 56)
IABF ครั้งที่ 2 โอกาสธุรกิจไทยในกรอบอาเซียน-อินเดีย
ปีนี้เป็นปีทองของความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย ที่วนมาบรรจบครบ 20 ปี ซึ่งอินเดียกับอาเซียนได้ร่วมกันจัดกิจกรรมฉลองโอกาสนี้ หลายกิจกรรมเชิญภาคธุรกิจให้เข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะในด้านการเชื่อมโยงการคมนาคม (connectivity) และด้านการค้าการลงทุน กิจกรรมหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม 2555 ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมสุดยอดของผู้นำอาเซียนและอินเดียที่กรุงนิวเดลี คือการจัดงาน India-ASEAN Business Fair and Business Conclave ครั้งที่ 2 หรือเรียกสั้นๆ ว่า IABF
อินเดียเชิญประเทศอาเซียนทั้ง 10 ประเทศเข้าร่วมงานนี้ ระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2555 ที่ศูนย์แสดงสินค้า Pragati Maidan กลางกรุงนิวเดลี โดยมีกิจกรรมทั้งในรูปแบบ Conclave คือการสัมมนาด้านธุรกิจ ที่รัฐมนตรีพาณิชย์ของอินเดียและประเทศอาเซียน จะมากล่าววิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจในพิธีเปิด และเชิญนักธุรกิจชั้นนำและผู้บริหารธุรกิจในอินเดีย-อาเซียนมาสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างในวันแรกของงาน
สำหรับงานลักษณะ Fair จะเปิดควบคู่ไปด้วยกัน จนถึงวันที่ 20 ธันวาคม อินเดียใจกว้าง ให้พื้นที่แต่ละประเทศฟรี 100 ตารางเมตร สำหรับจัดสรรให้เอกชนเปิดบูทแสดงศักยภาพและพบปะหารือกับนักธุรกิจอินเดียในสาขาที่ตรงกัน (B2B Meeting) และเปิดโอกาสให้มีการพบปะระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขาย (buyer-seller meeting)
7 สาขาหลักที่จะเน้นในกิจกรรม B2B Meeting ปีนี้ได้แก่ ยานยนต์และวิศวกรรมเบา (รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า), เคมีและเคมีภัณฑ์ (ยา ผลิตภัณฑ์พลาสติก), โครงสร้างพื้นฐานและการก่อสร้าง, อัญมณีและเครื่องประดับ, เกษตรกรรมและอาหารแปรรูป, สิ่งทอ หัตถกรรม เครื่องตกแต่งบ้าน และเฟอร์นิเจอร์ และ การบริการไอที สุขภาพ อยุรเวท ซึ่งเอกชนไทยก็มีความแข็งแกร่งอยู่ในหลายสาขา
ผู้ประกอบการค้าปลีกอาจจะผิดหวังในปีนี้ เพราะประเทศอาเซียนได้หารือกับเจ้าภาพอินเดีย ให้เน้นกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ B2B ไม่เหมือนกับงานค้าปลีกที่เคยจัดประจำ แม้ฝ่ายอินเดียจะอนุญาตให้จัดค้าปลีกเป็นน้ำจิ้มบ้าง ตามคำเรียกร้องของบางประเทศ แต่ครั้งนี้จะเน้นนักธุรกิจตัวจริงที่เอาจริงกับตลาดอินเดีย พร้อมจับคู่กับคู่ค้าอินเดียสร้างแผนการลงทุนและค้าขายในระยะยาว
ในการเข้าร่วมงานครั้งแรกของไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2554 ไทยจัด Thailand Pavilion ขนาดใหญ่งดงาม ในครั้งนี้ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ รับหน้าเสื่อดูแลพื้นที่ที่ไทยจองไว้ 285 ตารางเมตร ซึ่งจะใช้ในการจัดแสดงศักยภาพการลงทุนของไทย หลายประเทศก็จะใช้โอกาสนี้แสดงศักยภาพในการลงทุนของตน เพื่อชี้ช่องและประชาสัมพันธ์โอกาสให้นักธุรกิจอินเดียที่สนใจได้รับรู้
สำหรับเอกชนที่สนใจ นอกจากจะติดต่อผ่านสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม หรือสภาธนาคารที่ท่านสังกัดอยู่ก็ยังสามารถติดต่อกับกรมส่งเสริมการส่งออก เพื่อขอรับข้อมูลเข้าร่วมงาน IABF ได้ หรือจะลงทะเบียนโดยตรงที่ www.india-aseanbusinessfair.com ซึ่งขอแนะนำว่าเร่งลงทะเบียนโดยด่วน พร้อมระบุสาขาของธุรกิจให้ชัดเจน เพื่อฝ่ายอินเดียจะได้ไปทำการบ้าน หานักธุรกิจอินเดียที่ตรงสาขาและสนใจจริงจังมาพบกัน
แม่งานฝ่ายอินเดียที่จัดงานนี้ คือ สมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย หรือชื่อเต็มภาษาอังกฤษ Federation of Indian Chambers of Commerce and Industry เรียกสั้นๆ ว่า FICCI เป็นหอการค้าที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย เริ่มเตรียมงานครั้งนี้มาตั้งแต่ต้นปี และปรึกษาหารือกับประเทศอาเซียนอย่างใกล้ชิดโดยตลอด เพื่อให้งานออกมาประสบความสำเร็จและเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย
ปีนี้ ฝ่ายอินเดียสัญญาว่าจะพยายามให้มีความยุ่งยากในการนำเข้าสิ่งของที่จะนำมาใช้จัดนิทรรศการให้น้อยที่สุด ผู้ค้าหรือผู้แสดงสินค้าตัดความกังวลใจและยุ่งยากในการนำเข้าสินค้าและอุปกรณ์นิทรรศการเข้ามาในอินเดียได้
อินเดียยังประชาสัมพันธ์งาน IABF แก่ภาคธุรกิจรวมถึงสาธารณชนอย่างเต็มที่ เพื่อจะได้มีผู้เข้าร่วมงานอย่างอุ่นหน้าฝาคั่ง และอีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้มีผู้สนใจงานนี้มากขึ้น ก็คือการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนอินเดีย ที่กรุงนิวเดลี ต่อจากงาน IABF ระหว่างวันที่ 20-21 ธันวาคม ซึ่งย่อมดึงดูดความสนใจของภาคธุรกิจอินเดียให้คึกคักอย่างแน่นอน
อาเซียนเป็นตลาดใกล้บ้านที่สำคัญของธุรกิจอินเดีย ภายใต้กรอบความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-อินเดีย การค้าสองฝ่ายในปี 54-55 เพิ่มขึ้นกว่า 37 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 79,860 ล้านเหรียญสหรัฐ สวนทางกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ในด้านการบริการและการลงทุนที่อยู่ระหว่างการเจรจาเปิดเสรี ไทยก็รั้งอันดับสี่ของประเทศที่มาลงทุนในอินเดียมากที่สุด รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
นักธุรกิจหลายรายที่ยังลังเลกับการเข้ามาวางรากฐานธุรกิจในอินเดีย นอกจากการรวมตัวกันสร้างความเข้มแข็งในเครือข่ายนักธุรกิจด้วยกันเอง ในการเข้าสู่ตลาดอินเดียแล้ว ยังมีโอกาสมากมายอื่นๆ ที่ง่ายและสะดวกสบาย คือการจัดงานพบปะทางธุรกิจแบบนี้ ที่อินเดียนิยมจัดเป็นประจำ
ภาคธุรกิจอินเดียมีการรวมตัวกันหลายกลุ่มและเข้มแข็ง การรวมตัวของเขาไม่หยุดนิ่งและจะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ การจัดกิจกรรมลักษณะนี้เรื่อยๆ จะสร้างเครือข่ายนักธุรกิจระหว่างรัฐต่างๆ ของอินเดียที่มีความกว้างใหญ่ไพศาล ในขณะเดียวกัน อินเดียก็อ้าแขนต้อนรับต่างชาติให้เข้าร่วมงานด้วย เพื่อจะได้ขยายโอกาสทางธุรกิจไปนอกอินเดีย รวมทั้ง ยกระดับงานให้เป็นสากล มีความเป็น international ให้สมกับการก้าวโตเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก
ในขณะเดียวกัน ต่างชาติก็จะได้ใช้โอกาสนี้เข้ามาอินเดีย ในงานที่เจ้าบ้านกรุยทางและวางรากฐานไว้แล้ว ไม่ต้องเหนื่อยกับการหาข้อมูลและใช้เวลาในการดำเนินงานต่างๆ เอง
ถ้าเอกชนไทยพร้อมและจะเอาจริงกับตลาดอินเดีย ก็อย่ารอช้า ใช้โอกาส IABF ครั้งนี้ให้เป็นประโยชน์ได้ทันที
คณิน บุญญะโสภัต