ฐานเศรษฐกิจ : มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 57)
เมื่อนักช้อปอินเดียเปลี่ยนไป
แต่ไหนแต่ไรมา นักช้อปอินเดียส่วนใหญ่จะเก็บเงินรอไว้ช้อปปิ้งในช่วงเทศกาลที่สำคัญที่สุด คือ เทศกาลดิวาลีซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดู ซึ่งในปีนี้ตรงกับช่วงวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 2555 ที่เพิ่งผ่านมา แต่จากการสำรวจของบริษัทวิจัยตลาดหลายแห่งพบว่า ปัจจุบันพฤติกรรมนักช้อปอินเดียได้เปลี่ยนไปจากอดีตแล้วอย่างสิ้นเชิง โดยนักช้อปเหล่านี้จับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งมีพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยอื่นๆที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าสนใจ ซึ่งหนังสือพิมพ์ The Economic Time Magazine ได้สรุปว่าพฤติกรรมนักช้อปที่เปลี่ยนไปนี้ได้รับผลกระทบมาจากปัจจัยสำคัญ 5 ประการ คือ
1. เทศกาลอื่นๆได้รับความนิยมจากคนอินเดียมากขึ้น
ปัจจุบันนักช้อปอินเดียไม่รอที่จะจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้มากเหมือนในอดีตแล้ว เนื่องจากมีเทศกาลสำคัญๆอื่นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น เทศกาลปีใหม่ เทศกาลคริสต์มาส เทศกาลวาเลนไทน์ รวมไปถึงอีเว้นต์ต่างๆที่บริษัทต่างๆร่วมทำการส่งเสริมการขายด้วย เช่น รายการฟุตบอลโลก รายการฟุตบอลลีกของอังกฤษ รายการแข่งขันคริกเก็ต เป็นต้น นักช้อปอินเดียจึงถูกกระตุ้นให้จับจ่ายใช้สอยอยู่ตลอดเวลา
2. วิธีชีวิตที่เปลี่ยนไปของคนอินเดียทำให้ต้องออกไปจับจ่ายใช้สอยคนเดียวมากขึ้น
ในอดีตนักช้อปอินเดียจะออกไปจับจ่ายใช้สอยและเลือกซื้อสินค้าต่างๆด้วยกันเป็นครอบครัว แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มใหม่เกิดขึ้น เนื่องจากวิถีชีวิตของคนอินเดียรุ่นใหม่มีความเร่งรีบและมีเวลาอยู่กับครอบครัวน้อยลง รวมทั้งนักช้อปอินเดียรุ่นใหม่เริ่มมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น คือ แต่ละคนเลือกใช้สินค้าที่ไม่เหมือนกัน จึงไม่จำเป็นต้องออกไปช้อปปิ้งด้วยกันทั้งครอบครัวเหมือนอย่างในอดีต
3. การเติบโตของธุรกิจค้าปลีกผ่านระบบอินเตอร์เน็ท
บริษัทวิจัยตลาด Technopak Advisors รายงานว่าปัจจุบันมูลค่าการค้าปลีกผ่านระบบอินเตอร์เน็ทในอินเดียมีมูลค่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 18,600 ล้านบาท) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.1% ของมูลค่าค้าปลีกรวมของทั้งประเทศอินเดีย แต่คาดว่าภายในปี 2563 มูลค่าการค้าปลีกผ่านระบบอินเตอร์เน็ทของอินเดียจะเติบโตขึ้นเป็น 7-8% ของมูลค่าค้าปลีกรวมของทั้งประเทศอินเดีย โดยปัจจุบันนักช้อปอินเดียรุ่นใหม่หันมานิยมช้อป Online เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะมีความสะดวกมากกว่าและราคาถูกกว่าซื้อจากร้านค้าปกติ
4. รายได้ที่เพิ่มขึ้นทำให้คนอินเดียรุ่นใหม่จับจ่ายใช้สอยง่ายขึ้นและมากขึ้น
ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นักช้อปอินเดียจะเลือกซื้อสินค้าตามความจำเป็นเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันนักช้อปอินเดียรุ่นใหม่จะซื้อสินค้าตามความอยากเป็นหลักและซื้อง่ายขึ้น เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีของคนอินเดียได้เพิ่มขึ้นจาก 11,535 รูปี (ประมาณ 6,921 บาท) ในช่วงปี 2533-2534 เป็นเกือบ 60,000 รูปี (ประมาณ 36,000 บาท) ต่อคนต่อปีในปัจจุบัน และจากรายงานของบริษัท McKinsey พบว่า ปัจจุบัน 36% ของครัวเรือนในประเทศอินเดียมีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนละ 250,000-800,000 รูปีต่อปี (ประมาณ 150,000-480,000 บาท) และคาดว่าภายในปี 2563 สัดส่วนดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็น 58% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในประเทศอินเดีย ซึ่งถ้าคิดเป็นจำนวนประชากรอินเดียก็ประมาณ 100 ล้านคน
5. การส่งเสริมการขายและการลดราคาสินค้าของธุรกิจค้าปลีก
ปัจจุบันอินเดียมีธุรกิจค้าปลีกที่เป็นระบบ รวมทั้งธุรกิจค้าปลีกผ่านระบบอินเตอร์เน็ทเพิ่มมากขึ้น ทำให้นักช้อปอินเดียไม่สามารถต่อรองราคาได้เหมือนในอดีต ทางออกของนักช้อปอินเดียรุ่นใหม่ก็คือการหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบข้อเสนอและการลดราคาสินค้าของร้านค้าปลีกแต่ละแห่ง เพื่อที่จะเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าหรือเว็บไซต์ที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุดและลดราคามากที่สุด นั่นคือ นักช้อปอินเดียรุ่นใหม่จะเป็นผู้ที่ไม่มีความจงรักภักดีต่อตรายี่ห้อหรือร้านค้าใดเลย เพราะยังให้ความสำคัญกับราคาและโปรแกรมการส่งเสริมการขายเป็นหลัก
จากการสำรวจของบริษัท Nielsen ในปี 2555 เพื่อศึกษาถึงแนวโน้มของนักช้อปอินเดียพบว่า
สัดส่วนของนักช้อปอินเดียที่ชอบเปลี่ยนร้านค้าไปยังอีกที่หนึ่งที่ขายสินค้าราคาถูกกว่าและให้ข้อเสนอที่ดีกว่าเพิ่มขึ้นเป็น 19% ในปี 2555 เทียบกับ 13% ในปี 2552 และยังพบอีกว่าสัดส่วนของนักช้อปอินเดียรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการเสาะแสวงหาแหล่งขายสินค้าที่ให้ข้อเสนอที่ดีกว่าและราคาถูกกว่าเพิ่มขึ้นเป็น 54% ในปี 2555 เทียบกับ 37% ในปี 2552 ในขณะที่นักช้อปประเภทนี้ในประเทศไทยมีสัดส่วนอยู่ 40% และอินโดนีเซีย 48% ในปี 2555
แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักช้อปอินเดียในปัจจุบันเป็นสิ่งที่น่าสนใจและติดตามเนื่องจากพฤติกรรมต่างๆที่เปลี่ยนแปลงกำลังเป็นไปในทิศทางเดียวกับกระแสโลก คือ มีความเป็นสากลมากขึ้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะเข้าตลาดอินเดียอย่างจริงจังจึงต้องมีความเข้าใจถึงแนวโน้มพฤติกรรมนักช้อปอินเดียรุ่นใหม่เพื่อจะได้ปรับกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องกับพฤติกรรมที่กำลังเปลี่ยนไปนี้
---------------------------------------------------------------
อดุลย์ โชตินิสากรณ์
ผู้อำนวยการอาวุโส
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
16 พฤศจิกายน 2555