ฐานเศรษฐกิจ : มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 64)
เจาะตลาดอินเดีย โอกาสธุรกิจท่องเที่ยวใหญ่มหึมา
ประพันธ์ สามพายวรกิจ
วันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา สำนักงาน ททท. นิวเดลี จัดปาร์ตี้ใหญ่กลางนครหลวงแห่งอินเดีย ฉลองนักท่องเที่ยวอินเดียไปไทยทะลุล้านคนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ งานนี้ ผู้ว่า ททท. บินมาให้กำลังใจคนทำงานด้วยตัวเอง และร่วมขอบคุณหุ้นส่วนทั้งไทยและอินเดียที่ให้การสนับสนุน ททท. มาโดยตลอด
ทีม thaiindia.net ขอถือโอกาสนี้แสดงความยินดีกับ ททท. และทีมประเทศไทยในอินเดียทุกท่าน ที่ร่วมกันปลุกปั้นจนยอดนักท่องเที่ยวอินเดียถล่มทลาย ทั้งปี 2555 ไปไทยทั้งสิ้น 1.1 ล้านคน ทำให้ไทยเป็นเป้าหมายท่องเที่ยวอันดับ 1 ของชาวอินเดีย ขณะที่นักท่องเที่ยวอินเดียไปไทยสูงเป็นอันดับ 6 โดยมีนักท่องเที่ยวจีน ญี่ปุ่น เกาหลี นำอยู่ไม่ไกล
แต่เห็นตัวเลขสวยๆ อย่างนี้แล้วก็อย่างเพิ่งดีใจกันเต็มที่ เพราะโอกาสการเติบโตของนักท่องเที่ยวอินเดียยังมีมหาศาล ตัวเลข 1.1 ล้านคน ยังไม่ถึง 0.1 % ของประชากรอินเดียทั้งประเทศ 1,200 ล้านคน และคิดเป็นเพียง 6% ของนักท่องเที่ยวอินเดียที่เดินทางไปต่างประเทศ 18 ล้านคนตลอดปี 2555
หลายสำนักวิจัยทางเศรษฐกิจคาดการณ์ตรงกันว่า ในอีกสองทศวรรศข้างหน้า อินเดีย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ประเทศที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก (BRICS) จะมีกลุ่มหนุ่มสาววัยทำงานที่มีเงินจับจ่ายเดินทางมากขึ้นอีกประมาณ 200 ล้านคน
รสนิยมการท่องเที่ยวของคนอินเดียก็เริ่มมีความหลากหลาย มีทั้งท่องเที่ยวหรูหรา ท่องเที่ยวธรรมชาติ วัฒนธรรม เล่นกอล์ฟ ชิมไวน์ เรียนทำอาหาร และการเดินทางของคนมีกะตังค์อินเดียสมัยนี้ก็ไม่จำกัดอยู่ที่ปีละหน แต่เป็นปีละ 3-4 หน
เสียงตอบรับของฝ่ายอินเดียก็สอดคล้องกับข้อมูลทั้งหมด ระหว่างงาน SATTE 2013 ซึ่งเป็นงานพบปะ B2B จับคู่ธุรกิจการท่องเที่ยวใหญ่ของนิวเดลี ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผู้ประกอบการที่ ททท. เชิญมาร่วม ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รับการตอบรับจากอินเดียดีมากเกินคาด ทั้งโรงแรม รีสอร์ท บริษัทนำเที่ยว บริษัทการบิน และผู้ให้บริการสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
สถิติและข้อมูลเหล่านี้บ่งชี้ถึงโอกาสของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจนำเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ อย่างไม่มีข้อสงสัย
ททท. เล็งเห็นโอกาสตรงนี้ จึงได้เริ่มเดินหน้าขยายฐานนักท่องเที่ยวอินเดีย โดยมุ่งเป้า niche market และเตรียมเจาะตลาดเมืองรองในอินเดีย เช่น ปูเน่ มังกาลอร์ และคอยม์บาตอร์ โดยจะเน้นทั้งปริมาณและคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นตลาดการประชุมสัมมนา ถ่ายภาพยนตร์ และจัดงานแต่ง เตรียมจัดโร้ดโชว์ตระเวนโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เขาใหญ่ ตรัง สุราษฎร์ธานี และเกาะสมุย
ตลาดงานแต่งงานเป็นอีกกลุ่มที่ ททท. เร่งส่งเสริม เพราะในปี 2555 ปีเดียว มีคู่สมรสอินเดียไปลั่นระฆังวิวาห์ที่ไทยแล้วกว่า 150 คู่ ทำเอาโรงแรมในกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ตที่รับจัดงาน ยิ้มรื่นไปตามกัน เพราะตามประเพณีอินเดีย งานแต่งใช้เวลานาน 4-5 วัน แต่ละงานทุ่มงบเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่องาน
เพื่อต่อยอดความนิยม ททท. ได้จัดพิมพ์หนังสือ Weddings & Celebrations in Thailand ครั้งที่ 2 ออกจำหน่ายในอินเดีย เพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจการจัดงานแต่งงานของไทย เชื่อว่าปีนี้ ยอดนักท่องเที่ยวในเซ็คเตอร์นี้เพิ่มขึ้นแน่นอน
สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่คุ้นเคยกับตลาดอินเดีย น่าจะเป็นโอกาสดีขณะที่ภาครัฐให้การส่งเสริม ที่จะเริ่มศึกษาตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพนี้แต่เนิ่น มีผู้ประกอบการท่องเที่ยวหลายรายที่ศึกษาและปรับตัว ประสบความสำเร็จมาแล้ว อย่างซาฟารีเวิร์ลด์และภูเก็ตแฟนตาซี ที่ปรับโฉมเป็นแหล่งเอ็นเตอร์เทนเมนท์ครบวงจร ถูกใจนักท่องเที่ยวอินเดีย ตอนนี้รับทรัพย์จากนักท่องเที่ยวอินเดียเป็นกอบเป็นกำ
ท้ายนี้ ทีม thaiindia.net ก็ขอแสดงความยินดีกับ ททท. อีกครั้งสำหรับความสำเร็จอันงดงาม และขอเป็นกำลังใจให้ ททท. และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย ช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในหมู่นักท่องเที่ยวอินเดียให้ก้าวหน้ากันต่อไป