ฐานเศรษฐกิจ : มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 68)
รัฐคุชราตกับโอกาสสินค้าประดับยนต์ของไทย
ผมไปเยือนเมืองสุราต ในรัฐคุชราตมาอีกแล้วครับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา !!
จั่วหัวมาอย่างนี้ หลายท่านอาจจะสงสัยว่าไปทำอะไรกันนั กันหนาที่รัฐคุชราต แม้แต่คนรู้จักคุ้นเคยหลายท่านก็ยังรำพึงว่าอะไรๆก็รัฐคุชราต มีอะไรดีนักหนาหรือถึงขยันกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ อันนี้ก็ต้องขอเรียนว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คนไทยจำนวนมากได้ยินชื่อรัฐคุชราตมากขึ้น และรู้จักรัฐคุชราตกันมากขึ้นกว่าเดิมจากการที่ทีมประเทศไทยในประเทศอินเดียได้ช่วยกันทำงานเพื่อเสาะหา “โอกาส” ให้แก่นักธุรกิจไทยที่สนใจการค้าและการลงทุนในต่างประเทศ และรัฐคุชราตในประเทศอินเดียนี่แหละที่ทีมประเทศไทยได้ค้นพบและพยายามนำ “โอกาสทางธุรกิจ” ในรัฐนี้มาสู่ประเทศไทย
ในเบื้องต้นก็ต้องขอเรียนเพื่อความเข้าใจก่อนว่าคนไทยยังรู้จักอินเดียแต่เพียงด้านเดียวเท่านั้น คือ อินเดียที่ยากจนและล้าหลัง อันนี้ก็เพราะในแต่ละปีจะมีคนไทยเดินทางเข้าไปประเทศอินเดียเพียงประมาณ 6-7 หมื่นคนเท่านั้น และส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่เดินทางไปเพื่อสักการะบูชาและปฏิบัติธรรม ณ สังเวชนียสถาน ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ที่ยากจนที่สุดของอินเดีย ภาพความยากจนและล้าหลังของอินเดียจึงติดไปกับชาวไทยเหล่านี้และได้กระจายไปอยู่ในความคิดของคนไทยจำนวนมาก ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่เคยมองเห็นภาพอินเดียในอีกด้านหนึ่งซึ่งมีโอกาสซ่อนอยู่อย่างมหาศาล
การเดินทางไปเมืองสุราตของผมในครั้งนี้ก็เพื่อจะไปเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า Surat International Auto Expo 2013 ซึ่งจัดขึ้นโดยหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งรัฐคุชราตใต้ ทุกๆ 2 ปี โดยนอกจากจะไปเพื่อพบปะนักธุรกิจในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์ของอินเดียแล้ว วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางไปเยือนงานแสดงสินค้าฯ ในครั้งนี้ ก็คือ ไปเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนบริษัทเล็กๆหนึ่งเดียวจากประเทศไทยที่หาญกล้านำสินค้าประดับยนต์ยี่ห้อ Zercon ของไทยเข้าไปผงาดในงานนี้อย่างสมศักดิ์ศรีประเทศไทยและเป็นที่กล่าวขวัญอย่างมากจากนักธุรกิจผู้เข้าชมงานจำนวนหลักแสนคน รวมทั้งสื่อมวลชนท้องถิ่นอีกด้วย
บริษัท เบสท์ อินเตอร์เทรด จำกัด เป็นบริษัทเล็กใจใหญ่จากประเทศไทยที่สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ได้ฟูมฟักดูแลให้การสนับสนุนมาตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยังไม่รู้จักและไม่สนใจตลาดอินเดีย รวมทั้งยังมองไม่ออกว่าจะเข้าตลาดอินเดียอย่างไร จนกระทั่งเริ่มมองเห็นโอกาสและได้คว้าโอกาสมหาศาลนั้นมาครอบครองไว้ได้โดยแทบจะปราศจากคู่แข่งขันเลยทีเดียว ทุกวันนี้ บริษัทฯ มีผู้แทนจำหน่ายสินค้าประดับยนต์ของบริษัทฯ อยู่ที่เมืองสุราต ในรัฐคุชราตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านี้ก็เป็นการเข้าไปเพื่อสนับสนุนผู้แทนจำหน่ายให้สินค้าของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดอินเดีย ซึ่งก็ต้องขอเรียนว่าการเข้าร่วมงานฯ ประสบความสำเร็จเกินคาด มีบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่เกือบทุกค่ายให้ความสนใจชุดแต่งรถของบริษัทฯ อย่างมาก เพราะชุดประดับยนต์ของบริษัทฯ ได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม โดดเด่นและทันสมัยกว่าสินค้าของอินเดียอย่างเห็นได้ชัด ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นบุกตลาดอินเดียที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามของบริษัทฯ เล็กใจใหญ่รายนี้ ซึ่งสำหรับอนาคตข้างหน้ายังมีอีกหลายรัฐให้บริษัทฯ นี้เข้าไปตักตวงผลประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่อย่างมหาศาล ทั้งนี้ ก็ต้องอย่าลืมว่าอินเดียประกอบไปด้วยรัฐต่างๆถึง 28 รัฐ ซึ่งก็เปรียบเหมือนกับ 28 ประเทศนั่นเอง
สำหรับตลาดสินค้าประดับยนต์ในประเทศอินเดียต้องถือว่าเป็นขุมทรัพย์ที่ไม่ได้อยู่สุดขอบฟ้า แต่ว่าอยู่ใกล้แค่มือเอื้อมสำหรับนักธุรกิจไทย เฉพาะรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลในปีที่ผ่านมาก็มียอดจำหน่ายถึง 2.9 ล้านคัน และคาดว่าปีหน้าจะมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 3.2 ล้านคัน นั่นคือยิ่งมีคนซื้อรถยนต์เพิ่มมากขึ้นเท่าใด โอกาสของสินค้าประดับยนต์ของไทยก็จะมีมากขึ้นเท่านั้นเป็นเงาตามตัว แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ประเทศไทยมีความล้ำหน้าในเรื่องของการออกแบบสินค้าประดับยนต์ที่สวยงาม ทันสมัย คุณภาพสูง การติดตั้งเรียบร้อยอย่างมืออาชีพ ราคาสามารถแข่งขันได้ และที่สำคัญที่สุด ก็คือ คำว่า “Made in Thailand” ยังเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดนี้ นี่คือ จุดแข็งที่จะทำให้สินค้าไทยประสบความสำเร็จในตลาดอินเดียได้อย่างไม่ยากนัก การเข้าตลาดอินเดียโดยเริ่มต้นจาก “รัฐเศรษฐี” อย่างรัฐคุชราตจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม
มาถึงจุดนี้ หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจแล้วว่าทำไมยังถึงต้องพูดถึง ”รัฐคุชราต” กันอยู่อีก...โอเคนะครับ
---------------------------------------------------------------
อดุลย์ โชตินิสากรณ์
ผู้อำนวยการ
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
21 กุมภาพันธ์ 2556