ฐานเศรษฐกิจ : มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 69)
สัมมนาโอกาสธุรกิจในอินเดียสาขาอาหาร ก่อสร้าง และยานยนต์ 19 มีนาคมนี้
หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนอินเดียเอาจริงอย่างต่อเนื่อง จับมือภาครัฐไทยและอินเดีย ยกทีมผู้บริหารนโยบายการลงทุนและนักธุรกิจที่มีประสบการณ์จัดสัมมนาที่กรุงเทพฯ เจาะลึกการลงทุนสาขาอาหาร ประมง ก่อสร้าง และยานยนต์ พร้อมเสนอโอกาสทางธุรกิจในสองรัฐสำคัญคือปัญจาบและอานธรประเทศ 19 มีนาคม ศกนี้
การสัมมนาครั้งนี้ มีความพิเศษเพราะเป็นครั้งแรกที่ InvestIndia จัดการสัมมนาแบบนี้ขึ้นที่ไทย โดย InvestIndia เป็นหน่วยงานที่รัฐบาลอินเดียโดย Department of Industrial Policy and Promotion (DIPP) ที่สังกัดกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม ลงขันร่วมกับรัฐบาลรัฐต่างๆ ทั่วประเทศ และสมาพันธ์หอการค้าและอุตสาหกรรม (FICCI) จัดตั้งขึ้นเพื่อชักชวนและช่วยเหลือนักลงทุนจากต่างชาติให้เข้าไปลงทุนในอินเดียได้สะดวกโยธินมากขึ้น
InvestIndia จึงทำหน้าที่คล้ายๆ กับสำนักงานบีโอไอของเรา งานสัมมนา Investment Roundtable งานนี้ แสดงให้เห็นว่า อินเดียเห็นศักยภาพของนักลงทุนไทย ทั้งที่อยู่ในอินเดียและน่าจะขยายธุรกิจให้ชาวภารตะได้ประโยชน์มากกว่านี้ และทั้งที่ยังรีๆ รอๆ จะเข้าเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ เพราะภาครัฐของเขาต้องการการลงทุนจากต่างชาติอีกมาก เพื่อพัฒนาอินเดียให้ก้าวหน้า
โครงการหลักๆ ของประเทศที่ภาครัฐให้การสนับสนุนส่วนใหญ่ จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และการพัฒนามูลค่าและปริมาณการผลิตของประเทศ ซึ่งทั้งสองด้าน ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ตัวอย่างของโครงการโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ที่รัฐบาลภารตะให้ความสำคัญอย่างยิ่งก็คือ Delhi-Mumbai Industrial Corridor (DMIC) ส่วนนโยบายที่สนับสนุนภาคการผลิตของประเทศ ก็คือ National Manufacturing Policy (NMP)
โดย InvestIndia จัดให้อธิบดีกรม DIPP ที่ดูแลนโยบายโครงการใหญ่ทั้งสอง มาอธิบายไขข้อสงสัยให้เอกชนไทยที่สนใจกันในงานนี้ด้วย
ภาคเอกชนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปปักหลักลงทุนทำธุรกิจที่ไหนในอินเดีย ก็จะมีโอกาสฟังการบรรยายของผู้แทนจากรัฐชั้นแนวหน้าสองรัฐของแดนภารตะ คือรัฐปัญจาบ และรัฐอานธรประเทศ ว่าเขามีศักยภาพมากแค่ไหน และมีแผนจะส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติอย่างไร
รัฐต่างๆ ในอินเดียกำลังแข่งขันกันดึงดูดต่างชาติให้มาลงทุนในรัฐตัวเองมากขึ้น ประโยชน์จะตกกับทั้งสองฝ่ายคือนักลงทุนต่างชาติและประชาชนของรัฐที่จะมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ปัญจาบและอานธรประเทศก็เป็นสองรัฐที่มีศักยภาพ ธุรกิจไทยก็ไปปักธงในสองรัฐนี้แล้ว ทั้งซีพีในปัญจาบ และซีพีและร็อคเวิร์ธในอานธรประเทศ
ที่น่าสนใจมากสำหรับงานนี้ก็คือการจัดกลุ่มสัมมนาลงลึกรายสาขาเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มการแปรรูปอาหารและประมง และกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและชิ้นส่วนยานยนต์
ไทยขึ้นชื่อว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของโลก และอุตสาหกรรมการผลิตอาหารของไทยก็ไม่เป็นสองรองใคร บริษัทใหญ่ๆ ติดอันดับโลกที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอย่างซีพีก็เป็นที่คุ้นหูของอินเดียมาพอควร จึงไม่น่าแปลกที่อินเดียอยากให้นักธุรกิจไทยไปลงทุนในสาขานี้มากๆ เพราะนอกจากศักยภาพและเทคโนโลยีการผลิตที่ไทยมีแล้ว ปัญหาเรื่องคุณภาพการผลิตอาหารก็กำลังเป็นที่พูดถึงในอินเดีย ที่กว่า 35 เปอร์เซ็นต์ของอาหารจำเป็นต้องทิ้งเพราะเน่าเสีย เนื่องจากการผลิต ระบบการขนส่งและจัดเก็บยังไม่พัฒนาเพียงพอ
ในสาขาประมง สดๆ ร้อนๆ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ ทูตไทยประจำอินเดียก็ถูกชักชวนจากมุขมนตรีประจำรัฐคุชราต นายนาเรนทรา โมดิ ให้ช่วยชี้ช่องให้เอกชนมาลงทุนในสาขาประมงและการพัฒนาชายฝั่งของคุชราต เพราะหลายบริษัทมีความสามารถในเรื่องนี้ ซึ่งในส่วนของทีมประเทศไทยในอินเดีย สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ที่มุมไบ จะมีโครงการผลักดันในเรื่องนี้ในไม่ช้า
ส่วนในด้านโครงสร้างพื้นฐานและชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ หลายบริษัทของไทยก็ได้เข้ามาทำธุรกิจในอินเดียจนโด่งดัง ทั้งบริษัท อิตาเลี่ยน-ไทย ดีเวลล๊อปเม้นท์ หรือไทยซัมมิทโอโตพาร์ท โดยสำหรับไทยซัมมิทฯ นั้น ลูกค้าญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า ซูซูกิ ติดใจคุณภาพการผลิตขอให้ติดตามมาลงทุนร่วมกันเพื่อป้อนโรงงานของเขาในอินเดียเลยทีเดียว
การสัมมนาแยกรายสาขาทั้งสองกลุ่มนี้ จะมีผู้แทนจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และสมาคมผู้ผลิตของอินเดียที่เกี่ยวข้องมาร่วมให้ข้อมูลแก่นักธุรกิจไทย นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยและอินเดียที่ประสบความสำเร็จในสาขาทั้งสองแล้วก็จะมาร่วมเสวนาแชร์ประสบการณ์การทำธุรกิจให้ผู้เข้าร่วมงานด้วย
หลังจากการสัมมนา ธุรกิจไทยที่มีแผนลงทุนชัดเจนยังสามารถพบปะกับนักธุรกิจอินเดียที่มาร่วมงาน เพื่อหารือแผนการลงทุนที่เป็นรูปธรรม และในวันรุ่งขึ้นคือ 20 มีนาคม ยังเปิดโอกาสให้นัดหมายกันไปดูโรงงานในไทย เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะเป็นคู่ค้าธุรกิจกันต่อไปหลังจากจบงาน
การสัมมนา Investment Roundtable จะจัดขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม 2556 ระหว่าง 09.00-17.00 น. ที่โรงแรม Centara Grand at Central World รายละเอียดกำหนดการและข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จากเว็บไซต์ข้อมูลธุรกิจของทีมประเทศไทยในอินเดีย Thaiindia.net ซึ่งจะทยอยแจ้งให้ทราบ ระหว่างที่รอข้อมูลไปพลางๆ ก็กรุณาบันทึกในตารางนัดหมายของท่านว่าจะไม่ไปไหนหรือรับนัดอะไรในวันสัมมนาดังกล่าว แล้วพบกันครับ
คณิน บุญญะโสภัต
*ผู้สนใจเข้าร่วมการสัมมนา สามารถแจ้งสถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทยเพื่อลงทะเบียนเข้าร่วมได้ โดยติดต่อ MR. SAIKAT SEN SHARMA, FIRST SECRETARY (ECONOMIC & COMMERCE) โทร. 02-2580300 อีเมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. และ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.