ฐานเศรษฐกิจ: มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 79)
อินเดีย-ไทยร่วมมือร่วมใจดันตลาดกลางอี-คอมเมิร์ซ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเดินทางมาร่วมประชุมผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจากทั่วโลกที่กรุงเทพฯ พร้อมทั้งนำคณะผู้ซื้อจากประเทศอินเดียมาเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า THAIFEX: World of Food Asia 2013 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 พฤษภาคม 2556 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีด้วย ซึ่งงานแสดงสินค้า THAIFEX นี้ต้องถือว่าเป็นงานแสดงสินค้าอาหารระดับนานาชาติที่สุดยอดงานหนึ่งของทวีปเอเชียที่นักธุรกิจด้านอาหารจากทั่วโลกจะพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
ที่พิเศษสุดๆสำหรับงาน THAIFEX ในปีนี้ นอกจากจะมีนักธุรกิจต่างชาติตัวเป็นๆจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาเจรจาธุรกิจภายในงานกันอย่างคึกคักแล้ว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังได้จัดให้มีการจับคู่เจรจาธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายผ่านช่องทางพิเศษของกรม คือ เว็บไซต์ thaitrade.com ซึ่งเป็นตลาดกลางอี-คอมเมิร์ซในลักษณะ B2B E-Marketplace ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับแนวโน้มใหม่ของการค้าระหว่างประเทศที่นักธุรกิจนิยมทำการซื้อ-ขายสินค้าผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซมากขึ้น โดยผู้ซื้อและผู้ขายที่จะเข้ามาเจรจาธุรกิจบนเว็บไซต์นี้จะต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่าภายในงาน thaitrade.com Business Matching @ THAIFEX 2013 มีผู้ซื้อ-ผู้ขายที่เป็นสมาชิก thaitrade.com เจรจากันอย่างคึกคักถึง 156 คู่ในช่วง 3 วัน โดยมีผู้ซื้อจากทั่วโลก อาทิ สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ออสเตรเลีย, เนเธอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, ฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย, ไต้หวัน, อินเดีย, ปากีสถาน, กานา ฯลฯ ต่างให้ความสนใจสั่งซื้อสินค้าอาหารของผู้ขายไทยหลากหลายรายการ อาทิ อาหารกระป๋อง อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ขนมขบเคี้ยว น้ำมะพร้าว ข้าวโพดหวาน ข้าว ผลไม้สดและแปรรูป เครื่องปรุงรส ปลาแห้ง อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น คาดว่ายอดสั่งซื้อรวมทั้งหมดผ่าน thaitrade.com ในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท
แต่ที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ในช่วงพิธีเปิดงานแสดงสินค้าดังกล่าวได้มีพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจแสดงเจตจำนงที่จะร่วมมือกันระหว่างตลาดกลางอี-คอมเมิร์ซของไทย คือ thaitrade.com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกับตลาดกลางอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ของอินเดีย คือ tradeindia.com ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบได้ทำหน้าที่เป็นพ่อสื่อเชื่อมความสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้เป็นเวลาหลายเดือนจนเกิดความร่วมมือครั้งใหญ่ในครั้งนี้ขึ้นได้
สำหรับ tradeindia.com ถือเป็นตลาดกลางอี-คอมเมิร์ซใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในประเทศอินเดีย มีสมาชิกที่ลงทะเบียนแล้วจำนวน 2.5 ล้านราย จำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์เดือนละ 20.5 ล้านราย และจำนวนหน้าที่มีผู้เข้าเยี่ยมชมเดือนละ 30 ล้านหน้า เป็นผู้เข้าเยี่ยมชมจากประเทศต่างๆกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ซึ่งต้องถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียวสำหรับตลาดกลางอี-คอมเมิร์ซจากแดนภารตรายนี้ โดยทั้ง 2 ฝ่ายได้เริ่มมีการแลกเปลี่ยนแบนเนอร์ของกันและกันไปแล้ว เพื่อให้สมาชิกของทั้ง 2 เว็บไซต์สามารถใช้เป็นช่องทางในการค้นหาสินค้าในแต่ละเว็บไซต์นอกเหนือจากเว็บไซต์ที่ตนเป็นสมาชิกอยู่เดิม
และขณะนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมกันประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ของแต่ละฝ่ายในเว็บไซต์ของตนทั้งในรูปแบบ Online และ Offline รวมถึงการลงโฆษณาในจดหมายข่าวเกี่ยวกับงานแสดงสินค้าและกิจกรรมต่างๆ นอกจากนั้นก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลการซื้อขายผ่านระบบ Buying/Selling Request System ของแต่ละเว็บไซต์ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลสมาชิก (ผู้ซื้อ/ผู้ขาย) และข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อที่แต่ละฝ่ายจะสามารถค้นหาสมาชิกที่มีศักยภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้น ยังสนับสนุนการจัดเจรจาธุรกิจระหว่างทั้ง 2 ประเทศและแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน ตลอดจนให้ความช่วยเหลือสมาชิกของทั้ง 2 เว็บไซต์ในการทำการค้าผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซอีกด้วย
อุตส่าห์ลงทุนเป็นพ่อสื่อจนตลาดกลางของ 2 ประเทศมาเกี่ยวดองกันแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของนักธุรกิจผู้ประกอบการไทยเองที่จะต้องหาประโยชน์จากความเกี่ยวดองนี้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะวันนี้เรามีช่องทางในการซื้อขายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งช่องทางแล้ว และที่สำคัญตลาดอี-คอมเมิร์ซของอินเดียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง...
ถ้าตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก ก็ขอบอกให้ไปสมัครเป็นสมาชิกของ thaitrade.com ก่อน แล้วจะพบว่าโอกาสอยู่ที่ปลายนิ้วมือนี่เอง
โดย อดุลย์ โชตินิสากรณ์
ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มุมไบ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,849 วันที่ 2 - 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556