ฐานเศรษฐกิจ: มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 80)
100 ปีอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียที่มีมากกว่าบอลลีวูด
เมื่อพูดถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย “บอลลีวูด” หรือเมืองบอมเบย์ คงเป็นที่แรกที่ท่านผู้อ่านจะนึกถึงแต่ท่านจะทราบหรือไม่ว่า “บอลลีวูด” เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียที่ในปีนี้จะมีอายุครบ 100 ปีบริบูรณ์
คอลัมน์ “มองอินเดียใหม่” เดือนมิถุนายนนี้จะถือโอกาสร่วมฉลองครบรอบ 100 ปีอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย โดยร่วมกับสถานทูตและสถานกงสุลทั่วอินเดียเจาะลึกอุตสาหกรรมหนังภารต และแนะนำให้ท่านรู้จักกับทั้ง“บอลลีวูด” “ทอลลีวูด” และ “คอลลีวูด” ที่ล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับโลกนี้
อินเดียเป็นประเทศที่ผลิตภาพยนต์ได้มากที่สุดในโลกถึง 1000 เรื่องต่อปี (ภาพจาก indiatoday.co.in)
ประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียที่จริงแล้วเริ่มต้นที่เมืองกัลกัตตา ไม่ใช่บอมเบย์ (มุมไบในปัจจุบัน) อย่างที่หลายคนคิด โดยในช่วงปี ค.ศ. 1890-1900ที่อินเดียยังอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ภาพยนตร์ได้ถูกนำเข้าไปสู่สังคมอินเดียเป็นครั้งแรกที่เมืองกัลกัตตาซึ่งในขณะนั้นเป็นเมืองหลวงและเป็นศูนย์กลางความเจริญที่รุ่งเรืองของอินเดีย
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่ถูกผลิตที่เมืองกัลกัตตาคือRaja Harishchandra ซึ่งเป็นหนังเงียบขาวดำ เรื่องราวที่ดัดแปลงมาจากมหากาพย์ภาษาสันสกฤต ผลิตโดย Mr.Dadasaheb Phalke เมื่อปี ค.ศ. 1913 นั่นจึงเป็นจุดกำเนิดที่แท้จริงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย และทำให้Mr. Phalke ได้รับสมญาว่า “บิดาแห่งภาพยนตร์อินเดีย”
ความรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในเมืองกัลกัตตา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเบงกอลีทางด้านตะวันออกของอินเดีย ทำให้ Bengali Cinema หรืออุตสาหกรรมภาพยนตร์ภาษาเบงกอลี ได้รับการขนานนามล้อกับ “ฮอลลีวูด” ของอเมริกาว่า “ทอลลีวูด” ตามชื่อพันตรีวิลเลียม ทอลลี (William Tolly) ผู้บุกเบิกแห่งเบงกอลก่อนที่คำว่า “บอลลีวูด” จะเกิดขึ้นมาเสียอีก
อุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียในปีนี้จะมีอายุครบ 100 ปี บริบูรณ์
100 ปีผ่านไป อุตสาหกรรมหนังอินเดียก็ได้ขยายความนิยมไปในพื้นที่ต่างๆ ของอินเดียอย่างกว้างขวางโดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ เสน่ห์และชื่อเรียกขานที่ต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น “บอลลีวูด” ในภาคตะวันตก หรือ“คอลลีวูด” ในภาคใต้ ความนิยมภาพยนตร์ของชาวอินเดียกว่า 1,200 ล้านคนนี้เองที่ทำให้อุตสาหกรรมนี้ในอินเดียมีมูลค่ามหาศาลถึงกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และขณะนี้อินเดียได้แซงหน้าอเมริกา กลายเป็นประเทศที่ผลิตภาพยนตร์ได้มากที่สุดในโลกถึง 1,000 เรื่องต่อปี โดยมีจีนตามมาห่างๆ เป็นอันดับที่ 3
สิ่งที่น่าจะทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียรุ่งวันรุ่งคืน ก็คงจะเป็นความคลั่งไคล้การชมภาพยนตร์ในโรงของชาวอินเดีย โดยจากสถิติพบว่า รายได้ของภาพยนตร์เรื่องหนึ่งๆ มาจากการขายตั๋วในโรงภาพยนตร์ถึง 72% ที่เหลือมาจากการขายสินค้าโปรโมตและสิทธิ์ภาพยนตร์ ซึ่งสวนทางกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศอื่นๆ ที่การไปดูหนังในโรงกำลังซบเซาเพราะถูกตีกินโดยอินเตอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
ความคลั่งไคลการชมภาพยนตร์ของชาวอินเดีย ทำให้รายได้ของภาพยนตร์เรื่องหนึ่งๆ มาจากการขายตั๋วในโรงภาพยนตร์ถึง 72% ซึ่งสวนทางกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศอื่นๆ
จึงไม่น่าแปลกใจที่โรงภาพยนตร์ ทั้งแบบโรงเดี่ยวและหลายโรง (multiplex) ในอินเดีย แข่งกันผุดขึ้นมาให้เห็นเป็นดอกเห็ด อย่างเครือโรงภาพยนตร์ใหญ่อย่าง PVRที่ปัจจุบันมีจอภาพยนตร์ 350 จอ ใน 48 เมืองทั่วอินเดียยังเตรียมขยายเพิ่มอีกปีละ 100 จอ ควบคู่ไปกับการดึงดูดผู้ชมด้วยการนำเข้าเทคโนโลยีสมัยใหม่ทั้งภาพและเสียงตลอดจนเพิ่มความหรูหราสะดวกสบายของโรงภาพยนตร์
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของหนังอินเดียที่ช่วยหนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ ก็คือการผูกเอาอุตสาหกรรมเพลงเข้ากับภาพยนตร์แบบแยกไม่ออก ด้วยสไตล์การทำหนังที่มักจะมีการร้องรำทำเพลงสนุกสนานในท้องเรื่อง โดยดารานำดังๆ ถ้าทั้งร้องทั้งเต้นได้ ก็ยิ่งสร้างความนิยมในภาพยนตร์และยังทำให้ผู้ผลิตหนังมีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์เพลงประกอบภาพยนตร์อีกถึง 4-5% ของรายได้ของหนังทั้งหมด
ผู้ผลิตหนังและธุรกิจบันเทิงอินเตอร์รายใหญ่ๆ อย่าง 20th CenturyFox, Sony Pictures, VIACOM,Warner Brothers และ Walt Disney’sต่างเล็งเห็นโอกาสในตลาดภาพยนตร์ในอินเดียนี้ จึงได้ตบเท้าเข้าไปลงทุนในอินเดียกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยถือโอกาสที่รัฐบาลอินเดียสนับสนุนให้ต่างชาติลงทุนในสาขานี้ได้ 100% และให้สิทธิพิเศษด้านภาษีด้วย
สัปดาห์หน้า สถานกงสุลใหญ่ที่เมืองมุมไบจะนำเรื่องราวที่น่าสนใจจากใจกลาง “บอลลีวูด” ฐานการผลิตภาพยนตร์ของอินเดียอันเลื่องชื่อมาฝาก อย่าลืมติดตามตอนต่อไปกับการร่วมฉลอง 100 ปี อุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดียนะครับ
โดย ประพันธ์ สามพายวรกิจ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,851 วันที่ 9 - 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556