ฐานเศรษฐกิจ (มองอินเดียใหม่ ตอนที่ 110 : จับตา'ภัตตาคารออนไลน์' ในอินเดีย : แนวโน้มใหม่ไฉไลแน่นอน)
ใครๆอาจจะคิดว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีคนยากจนเยอะ ส่วนคนที่ไม่ยากจนก็ประหยัดซะจนน่ากลัว ไปทำงานนอกบ้านก็ต้องหอบหิ้วอาหารจากบ้านไปรับประทานที่ที่ทำงาน หรือไม่ก็ใช้บริการจัดส่งอาหารกลางวันจากบ้านไปให้ถึงที่ทำงาน เรียกว่าไม่ยอมเสียเงินรับประทานอาหารนอกบ้านกันเลยทีเดียว แล้วหยั่งงี้ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในอินเดียจะไปรอดหรือ
ก็ขอเรียนว่าที่กล่าวมาข้างต้นมีทั้งที่คิดถูกและคิดผิดครับ ที่คิดถูกคือเรื่องที่อินเดียมีคนยากจนเยอะและคนอินเดียส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเงินมาก (อย่างน้อยก็มากกว่าคนไทยหลายเท่าเลยละครับ) แต่ที่คิดผิดคือ ธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในอินเดียไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะครับ เพราะในปีงบประมาณ 2556 ที่ผ่านมา ตลาดร้านอาหารและภัตตาคารในอินเดียมีมูลค่าถึง 2.48 ล้านล้านรูปีหรือประมาณ 1.33 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว โดยอัตราการขยายตัวเฉลี่ยในช่วงปี 2551-56 อยู่ในอัตราปีละ 6.6% แต่ส่วนใหญ่ตลาดร้านอาหารและภัตตาคารในอินเดียถึง 69.7% จะเป็นร้านอาหารตามข้างทางและภัตตาคารท้องถิ่นที่เป็นแบบบ้านๆ หรือที่เรียกว่า Unorganized Market
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนอย่างยิ่งต่อการเติบโตของตลาดร้านอาหารและภัตตาคารในอินเดียก็คือ กลุ่มประชากรหนุ่มสาวที่อยู่ในวัยระหว่าง 15-44 ปี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน มีรายได้เป็นของตนเอง และมีพฤติกรรมที่นิยมการรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มมากขึ้นกว่าคนรุ่นเก่า โดยนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านตามร้านอาหารและภัตตาคารที่เป็นเชนมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะประเภทอาหารจานด่วนมากขึ้น ส่งผลให้ร้านอาหารและภัตตาคารในกลุ่มนี้ที่เรียกว่า Organized Market มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีสัดส่วนในตลาดร้านอาหารและภัตตาคารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ร้านอาหารและภัตตาคารในกลุ่ม Unorganized Market กลับมีสัดส่วนลดลงมาโดยตลอด แต่ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งก็คือ "ภัตตาคารออนไลน์" ซึ่งเป็นแนวโน้มใหม่ในตลาดร้านอาหารและภัตตาคารในประเทศอินเดีย และกำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้
ผู้เล่นรายสำคัญในอุตสาหกรรม "ภัตตาคารออนไลน์" ในอินเดียไม่ใช่ร้านอาหารและภัตตาคารแต่ละแห่งที่ให้บริการผ่านระบบออนไลน์ แต่เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในการเป็นตัวกลางระหว่างร้านอาหารและภัตตาคารกับผู้บริโภคโดยผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวจะให้บริการนำเสนอเมนูอาหารที่หลากหลายจากร้านอาหารและภัตตาคารที่มีสัญญากับบริษัทผ่านเว็บไซต์ของบริษัท และรับคำสั่งซื้อจากผู้บริโภคแล้วส่งต่อคำสั่งซื้อที่ได้รับให้กับร้านอาหารและภัตตาคารที่ผู้บริโภคเลือกเมนูอาหารนั้นๆ เพื่อดำเนินการจัดส่งอาหารให้กับผู้บริโภคถึงที่บ้านหรือที่ทำงานต่อไปอย่างตรงเวลา โดยผู้บริโภคสามารถเลือกชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือชำระเป็นเงินสดเมื่อได้รับสินค้าก็ได้
ผู้เล่นรายสำคัญในอุตสาหกรรม "ภัตตาคารออนไลน์" ในอินเดียปัจจุบันมีอยู่ 3 ราย คือ justeat.in จากอังกฤษกับอีก 2 รายจากอินเดียเอง คือ foodpanda.in และ TastyKhana ซึ่งมีรายได้รวมกันในปีงบประมาณที่ผ่านมากว่า 700 ล้านรูปี โดย justeat.in เป็นผู้นำในตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาด 64.1% ตามมาด้วย foodpanda.in 22.3% และ TastyKhana 13.6% ตามลำดับ ซึ่งทั้ง 3 บริษัทนี้มีเครือข่ายร้านอาหารและภัตตาคารในอินเดียรวมกันถึง 5,500 แห่ง โดย justeat.in มีเครือข่ายมากที่สุดจำนวน 2,500 แห่ง รองลงมาคือ foodpanda.in จำนวน 2,000 แห่ง และ TastyKhana จำนวน 1,000 แห่งตามลำดับ
แม้ว่ายอดขายในตลาด "ภัตตาคารออนไลน์" ในอินเดียเมื่อเทียบกับมูลค่าของธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารของอินเดียโดยรวมทั้งประเทศแล้วจะยังดูไม่มากนัก แต่แนวโน้มการขยายตัวของภัตตาคารออนไลน์ในอินเดียจะต้องสดใสไฉไลแน่นอน เพราะประเทศอินเดียในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีความเป็นเมือง (Urbanization)มากขึ้น ทำให้คนมีเวลาน้อยลง ภัตตาคารออนไลน์จึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปของคนรุ่นใหม่ แต่ที่สำคัญและเป็นปัจจัยผลักดันการขยายตัวของภัตตาคารออนไลน์อย่างมากก็คือ ประชากรของอินเดียสามารถเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2556 ที่ผ่านมา จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในอินเดียมีจำนวนทั้งสิ้น 159 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง 23.9% จากปีงบประมาณก่อนหน้าซึ่งมีจำนวน 128 ล้านคน
การเติบโตของตลาด "ภัตตาคารออนไลน์" จึงเป็นกลไกใหม่ที่สำคัญในธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารในประเทศอินเดีย โดยถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะสามารถเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารและภัตตาคารต่างๆได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของอาหารไทยที่จะสามารถเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าในประเทศอินเดียได้มากขึ้น...เอ่อ อันนี้ผมหมายถึงอาหารไทยแบบแท้ๆนะครับ ส่วนอาหารไทยแบบที่หาสัญชาติไม่เจอ ตอนนี้ก็แพร่หลายอยู่ตามเมืองใหญ่ๆทั่วอินเดียอยู่แล้ว
อดุลย์ โชตินิสากรณ์
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,915 วันที่ 19 - 22 มกราคม พ.ศ. 2557