ฐานเศรษฐกิจ (มองอินเดียใหม่ ตอนที่ 114: แอร์อินเดียเตรียมติดดาวพันธมิตร Star Alliance)
ท่านผู้อ่านที่เป็นนักเดินทางและได้มีโอกาสบินกับสายการบินไทย สายการบินประจำชาติของเราบ่อยๆ ก็คงจะคุ้นหูกับชื่อกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ ที่พนักงานต้อนรับสาวสวยของสายการบินจะประกาศคู่กับชื่อสายการบินไทยในแทบทุกโอกาส
สตาร์อัลไลแอนซ์เป็นกลุ่มพันธมิตรสายการบินพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีสายการบินเป็นสมาชิกถึง 28 สายการบิน บินไปยังจุดหมายต่างๆ ใน 195 ประเทศ ด้วยเครื่องบินรวมกัน 4,700 ลำ จึงเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจสูงสุดในอุตสาหกรรมการบินทั้งในด้านคุณภาพและบริการ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างสกายทีม (SkyTeam) และวันเวิลด์ (OneWorld)
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้บังเอิญได้มีโอกาสไปอ่านพบในนิตยสาร Shubh Yatra ซึ่งเป็นนิตยสารประจำเครื่องบินสายการบินแอร์อินเดีย ขณะที่ผมกำลังเดินทางภายในประเทศอินเดียว่า สตาร์อัลไลแอนซ์กำลังจะรับสายการบินประจำชาติของอินเดียนี้เป็นสมาชิกน้องใหม่ของกลุ่มในเร็วๆ นี้
ผมต้องยอมรับว่า ข่าวนี้ทำให้ผมตกใจอยู่ไม่น้อย เพราะสำหรับผมแล้วสตาร์อัลไลแอนซ์คือแบรนด์แห่งคุณภาพและการบริการระดับเวิลด์คลาส ดูจากสมาชิกอย่างสายการบินไทย สิงคโปร์แอร์ไลน์ส ออลนิปปอนแอร์เวย์ ลุฟท์ฮันซ่าและสวิสแอร์ ก็ล้วนแต่ติดอันดับสายการบินระดับ 4-5 ดาวจากการให้คะแนนของ Skytrax ทั้งสิ้น ผิดกับแอร์อินเดีย ที่จากประสบการณ์ตรงของผม รวมถึงจากการสอบถามเพื่อนฝูงทั้งฝรั่งและอินเดีย ก็ต่างตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสายการบินที่จะเลือกบินเฉพาะในกรณีที่ไม่มีทางเลือกอื่นเท่านั้น
แต่จากการทำการค้นคว้าเพิ่มเติม ก็ทำให้ผมพอมองเห็นเหตุผลว่าทำไมสตาร์อัลไลแอนซ์จึงน่าจะอยากจับมือเป็นพันธมิตรกับแอร์อินเดีย เหตุผลนั้นก็คือสตาร์อัลไลแอนซ์ได้เล็งเห็นแล้วว่า ตลาดการบินในอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นโอกาสให้เข้าไปหาผลประโยชน์ คู่แข่งของสตาร์อัลไลแอนซ์ก็ได้เริ่มเข้าไปรุกตลาดอินเดียกันแล้ว จึงน่าจะถึงเวลาที่สตาร์อัลไลแอนซ์จะต้องเคลื่อนตัวแล้วเช่นกัน
จากการคาดการณ์ของรัฐบาลอินเดีย อินเดียจะมีผู้โดยสารเครื่องบินเพิ่มขึ้นจาก 160 ล้านคนในปีที่ผ่านมาเป็น 421 ล้านคนในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยในจำนวนนี้จะเป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 337 ล้านคนและผู้โดยสารระหว่างประเทศ 84 ล้านคน (มากกว่าจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ) และนี่เป็นเพียงส่วนเดียวของประชากรอินเดียที่คาดว่าจะโตไปถึง 1,300 ล้านคนในปี 2020 ดังนั้น หากกลุ่มสตาร์อัลไลแอนซ์ต้องการเข้ามาแบ่งเค้กก้อนนี้ กลุ่มจะต้องพึ่งพาหุ้นส่วนท้องถิ่น
สายการบินหลายสายได้เริ่มเข้าไปหาพันธมิตรท้องถิ่นในตลาดอินเดียแล้วในหลายรูปแบบ เช่น สายการบินเอทิฮัดของยูเออีเข้าไปซื้อหุ้นของสายการบินเจ็ทแอร์เวย์ แอร์เอเชียร่วมหุ้นกับเอกชนอินเดียเปิดสายการบินแอร์เอเชียอินเดีย และสิงคโปร์แอร์ไลน์สจับมือบริษัทอินเดียเตรียมเปิดสายการบินใหม่ ซึ่งล้วนแต่เป็นกลยุทธ์เพื่อกรุยทางเข้าสู่ตลาดในประเทศและเพิ่มช่องทางเชื่อมต่อระหว่างประเทศให้กับสายการบินแม่
ดูเผินๆ จึงเหมือนสตาร์อัลไลแอนซ์จะมาช้าไปหน่อย แต่ความคิดของสตาร์อัลไลแอนซ์ที่จะดึงเอาแอร์อินเดียมาเป็นหุ้นส่วนถือว่าฉลาดเฉลียวพอสมควร เพราะในบรรดาสายการบินอินเดียที่ทำการบินภายในอินเดียทั้งหมด แอร์อินเดียถือว่าทำการบินได้ครอบคลุมพื้นที่ประเทศอินเดียอันกว้างใหญ่ไพศาลได้มากที่สุด เรียกได้ว่าจุดหมายเล็กๆ ในรัฐห่างไกลคนอื่นไม่ไปแต่แอร์อินเดียไป ซึ่งนั่นก็หมายความว่า สตาร์อัลไลแอนซ์จะสามารถเสนอทางเลือกการบินให้ผู้โดยสารมากกว่า
ทั้งนี้ทั้งนั้นการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ความเสี่ยงของการร่วมมือกับแอร์อินเดียนอกจากเรื่องคุณภาพที่ยังไม่ถึงมาตรฐานสตาร์อัลไลแอนซ์แล้ว แอร์อินเดียยังเป็นสายการบินที่มีปัญหาการจัดการ รัฐบาลเป็นเจ้าของและบริหารขาดทุนมาโดยตลอด ปัจจุบันมีหนี้สินถึง 2.6 แสนล้านรูปี (1.3 ล้านบาท) แม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้น แต่รายได้ก็ยังน้อยกว่ารายจ่ายถึง 4 หมื่นล้านรูปี (2 หมื่นล้านบาท)
เพราะฉะนั้นหากสตาร์อัลไลแอนซ์จริงจังกับแผนบุกตลาดอินเดีย แอร์อินเดียก็น่าจะเป็นหุ้นส่วนที่ช่วยให้สตาร์อัลไลแอนซ์แข่งกับคู่แข่งได้ดีที่สุด แต่คงจะต้องเข้มงวดเรื่องการดึงมาตรฐานแอร์อินเดียให้ขึ้นมาทัดเทียมมาตรฐานของกลุ่ม ทั้งในด้านคุณภาพและบริการ ตลอดจนการบริหารจัดการสายการบิน เพื่อให้เป็นพันธมิตรที่สร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในที่สุด
โดย ประพันธ์ สามพายวรกิจ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,923 วันที่ 16 - 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557