ฐานเศรษฐกิจ : มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 120 - ตลาดเสื้อผ้าเด็กแดนภารต : ขุมทรัพย์ใกล้มือ)
ใครๆก็ทราบนะครับว่าอินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน โดยปัจจุบันอินเดียมีจำนวนประชากรประมาณ 1.27 พันล้านคน แต่ด้วยอัตราการเกิดที่น่าจะอยู่ในระดับสูงที่สุดในโลกจึงทำให้มีแนวโน้มว่าอินเดียน่าจะมีจำนวนประชากรแซงหน้าจีนขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกภายในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
แต่สิ่งที่หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบก็คือ อินเดียถือเป็นประเทศที่ประชากรมีอายุเฉลี่ยต่ำที่สุดในโลกโดยคาดว่าภายในปี 2020 หรือ พ.ศ. 2563 อายุเฉลี่ยของคนอินเดียทั้งประเทศน่าจะอยู่ที่ประมาณ 29 ปี เพิ่มขึ้นจากในอดีตที่เคยอยู่ในระดับ 24 ปีเท่านั้น แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ เกินกว่า 50% ของประชากรอินเดียจะมีอายุต่ำกว่า 25 ปี นั่นคือ ตลาดเด็กในอินเดียมีขนาดใหญ่มหาศาล โดยเด็กที่ว่านี้เราจะมุ่งเจาะไปที่กลุ่มตั้งแต่แรกเกิดจนถึงประมาณอายุ 14 ปีเป็นสำคัญ และกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการเสื้อผ้าซึ่งถือเป็น 1 ในปัจจัย 4 ของมนุษย์เพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นด้วย
ตลาดเสื้อผ้าเด็กในอินเดียคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของตลาดเสื้อผ้ารวมในประเทศอินเดียด้วยมูลค่าในปัจจุบันกว่า 8.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.55 แสนล้านบาท และคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10.5% ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งถ้าหากการขยายตัวเป็นไปตามอัตราที่คาด ก็จะทำให้ตลาดเสื้อผ้าเด็กในอินเดียมีมูลค่าสูงกว่า 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณเกือบ 7 แสนล้านบาทเลยทีเดียว แต่ก็เช่นเคยตามสไตล์อินเดีย การจำหน่ายเสื้อผ้าเด็กในอินเดียส่วนใหญ่จะเป็นการจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ที่เรียกกันว่า Unorganized Sector ที่เน้นขายสินค้าราคาถูกแต่หวังปริมาณขายจำนวนเยอะมากกว่า
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ตลาดเสื้อผ้าเด็กในอินเดียขยายตัวอย่างรวดเร็วก็มีสาเหตุมาจากการที่ประชากรวัยเด็กมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น พ่อแม่และเด็กมีโอกาสได้รับข่าวสารมากขึ้นและกว้างขวางขึ้นจนทำให้เกิดความสนใจติดตามแนวโน้มใหม่ๆของแฟชั่นเด็ก การที่พ่อแม่ทำงานทั้งคู่ทำให้มีรายได้ 2 ทาง ซึ่งส่งผลให้พ่อแม่รุ่นใหม่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น การมีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปในต่างประเทศมากขึ้น และประเทศมีการพัฒนาสู่สังคมเมืองมากขึ้น ปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศอินเดียเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ทันสมัยมากขึ้น
จากการศึกษาของบริษัทวิจัยตลาด Technopak พบว่าปัจจุบันนี้กุมาราและกุมารีชาวภารตเหล่านี้มีบทบาทในการตัดสินใจเลือกซื้อเสื้อผ้าของตนเองมากขึ้น ไม่เหมือนอย่างในอดีตที่เฉพาะพ่อแม่เท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเองว่าลูกๆควรจะสวมใส่เสื้อผ้าแบบไหน เพราะปัจจุบันเด็กยุคใหม่เข้าถึงสื่อทันสมัยมากขึ้นและได้รับอิทธิพลจากโฆษณาต่างๆมากขึ้น รวมทั้งได้รับอิทธิพลในการแต่งตัวจากเพื่อนๆที่โรงเรียนที่ให้ความสำคัญกับแฟชั่นทันสมัยใหม่ล่าสุด รวมถึงการแนวทางการแต่งตัวของดารายอดนิยม และตัวการ์ตูนที่ตนเองชื่นชอบเป็นพิเศษ กุมาราและกุมารีเหล่านี้จึงไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะพวกเขาเหล่านี้รู้ความต้องการของตนเองอย่างชัดเจนว่าต้องการแต่งตัวสไตล์ไหน พ่อแม่จึงทำหน้าที่เป็นเพียงสปอนเซอร์หลักเท่านั้น โดยไม่กล้าขัดใจลูกค้าตัวน้อยเหล่านี้แต่ประการใด
สำหรับตลาดเสื้อผ้าเด็กในอินเดียมีการจัดแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มคร่าวๆตามฐานะทางเศรษฐกิจของลูกค้า คือ กลุ่มหรูสุด ราคาอยู่ในระดับเกิน 2.5 พันรูปี กลุ่มหรู ราคาอยู่ระหว่าง 1-2.5 พันรูปี กลุ่มระดับปานกลาง ราคาอยู่ระหว่าง 500-1 พันรูปี กลุ่มประหยัด ราคาอยู่ระหว่าง 250-500 รูปี และกลุ่มระดับล่าง ราคาอยู่ในระดับต่ำกว่า 250 รูปี โดยเสื้อผ้าเด็กแบรนด์ระดับโลกจะจัดอยู่ในกลุ่มแรก คือ กลุ่มหรูสุด และเป็นกลุ่มที่พ่อแม่รุ่นใหม่ในอินเดียนิยมมากเสียด้วย
สำหรับผู้ประกอบการไทยถ้าหากมุ่งเน้นสร้างแบรนด์และยกระดับสินค้าของไทยให้เป็นระดับสากลได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีอยู่หลายแบรนด์แล้ว ตลาดอินเดียก็เป็นขุมทรัพย์มหาศาลที่ท่านจะเข้ามาตักตวงได้ แต่ก่อนอื่นต้องปรับตัว ปรับใจ และปรับทัศนคติเสียก่อนนะครับ
โดย อดุลย์ โชตินิสากรณ์
สคร. ณ เมืองมุมไบ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,935
วันที่ 30 มีนาคม - 2 เมษายน พ.ศ. 2557