ฐานเศรษฐกิจ (มองอินเดียใหม่ ตอนที่ 122: 'มองอินเดียใหม่'หนังสือที่เอกชนไทยควรอ่าน)
สัปดาห์นี้ทีมงาน thaiindia.net ขอถือโอกาสเปิดตัวหนังสือ "มองอินเดียใหม่" ซึ่งเป็นหนังสือที่ทีมประเทศไทยในอินเดียซุ่มจัดทำมาตั้งแต่ปลายปีก่อนเพื่อรวบรวมบทความที่เกี่ยวกับโอกาสทางธุรกิจในอินเดียจากมุมมองของผู้ที่อยู่ในพื้นที่มาเผยแพร่ให้กับเอชนไทยและประชาชนทั่วไปได้อ่านกัน
หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเอาบทความที่หน่วยงานไทยในอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นสถานทูต สถานกงสุล สำนักงานพาณิชย์ ตลอดจนสื่อมวลชนได้เขียนลงไว้ในคอลัมน์ "มองอินเดียใหม่" ของ “ฐานเศรษฐกิจ” และคอลัมน์ "Inside India" ของกรุงเทพธุรกิจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากประสบการณ์ตรงของผู้ที่ได้ไปสัมผัสและเห็นโอกาสทางธุรกิจในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศอินเดีย มาไว้ในทั้งหมด 9 บท 239 หน้า
แม้จะมีเป้าหมายเบื้องต้นเป็นผู้อ่านจากภาคธุรกิจและเอกชนที่อาจจะสนใจการค้าการลงทุนในอินเดีย แต่ชื่อหนังสือ "มองอินเดียใหม่" ยังสะท้อนความหวังของคณะผู้จัดทำที่จะให้หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติเดิมๆ ของคนไทยที่มีต่ออินเดีย เพราะอินเดียยุคปัจจุบันได้เปลี่ยนไปมาก คนไทยจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดให้ทันเหตุการณ์
หนังสือเล่มนี้เริ่มต้นด้วยการชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในอินเดียที่กำลังทำให้อินเดียไม่ใช่อินเดียเดิมที่คนไทยรู้จัก การพัฒนาทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนอินเดียมีรายได้มากขึ้น มีกำลังซื้อมากขึ้น มีอภิมหาเศรษฐีระดับที่เศรษฐีไทยเทียบไม่ติดมากขึ้น และด้วยจำนวนประชากรที่มากโขถึงกว่า 1.2 พันล้านคน แม้เพียงเสี้ยวหนึ่งของกลุ่มประชากรนี้มีความสามารถในการออกไปจับจ่ายใช้สอยในตลาดอินเดียและต่างประเทศได้ ก็ทำให้อินเดียกลายเป็นตลาดที่น่าสนใจขึ้นทันตาเห็น
ถ้ามองในด้านการลงทุน อินเดียในฐานะประเทศที่กำลังพัฒนา ก็กำลังมุ่งนโยบายเปิดกว้างนำการพัฒนาและเทคโนโลยีจากต่างประเทศมาช่วยในการปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่ จะช่วยให้เศรษฐกิจอินเดียแข็งแกร่งขึ้นและสามารถแข่งขันกับโลกภายนอกได้ ด้วยเหตุนี้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อินเดียจึงได้เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และญี่ปุ่น รวมถึงเอกชนไทยเข้าไปลงทุนกันถ้วนหน้า
หนังสือ "มองอินเดียใหม่" จึงได้รวบรวมประสบการณ์การลงทุนของเอกชนไทยรายใหญ่ๆ ทั้งหลายที่เข้าไปประสบความสำเร็จในอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างซีพี ที่เข้าไปเติบโตทั้งในด้านสัตว์บกและสัตว์น้ำ บริษัทอิตาเลียนไทยฯ ที่ได้ไปสร้างทั้งอาคารผู้โดยสารสนามบิน เขื่อน ถนนหนทาง และรถไฟฟ้าใต้ดินบนดินทั่วอินเดีย บริษัทไทยซัมมิทฯที่จับมือกับญี่ปุ่นและหุ้นส่วนอินเดียผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานผลิตจักรยานยนต์ และศรีไทยซุปเปอร์แวร์ที่กำลังประสบความสำเร็จกับธุรกิจขายตรงที่ยังถือว่าเป็นคอนเซ็ปต์ใหม่สำหรับคนอินเดีย
ในช่วงท้ายของหนังสือ คณะผู้จัดทำยังได้ชี้ช่องทางการลงทุนทั้งรายสาขาและรายรัฐที่ยังมีศักยภาพอีกมากให้เอกชนไทยเข้าไปลองศึกษา โดยหนึ่งในสาขาที่เราเห็นว่าเอกชนไทยทำได้ดีและยังมีช่องว่างในตลาดอินเดียคือสาขาด้านบริการ ไม่ว่าจะเป็นการโรงแรมที่ขณะนี้ก็มีโรงแรมไทยหลายรายเข้าไปแย่งชิงตลาดการท่องเที่ยวของอินเดียที่กำลังบูม เช่น เครือดุสิต เซ็นทารา และเลอบัว หรือด้านการบินซึ่งสายการบินต่างชาติกำลังเปิดศึก "ยุทธการชิงน่านฟ้าภารต" กันอย่างเข้มข้น
ข้อความสำคัญอีกอย่างที่ผู้เขียนหลายท่านต้องการสื่อในบทท้ายๆ นี้ คือคนไทยสามารถทำได้กว่าการส่งออกสินค้าไปอินเดีย เรามีความคิดสร้างสรรค์ มีฝีมือที่ประณีต เราสามารถส่งออกธุรกิจภาคบริการของเราได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าที่เกี่ยวข้องและยังสามารถเข้าไปในตลาดอินเดียได้ยั่งยืนกว่า
ทีมประเทศไทยยังได้นำข้อมูลที่เราได้รวบรวมและกลั่นกรองเกี่ยวกับรัฐที่มีศักยภาพและน่าจะเป็นเป้าหมายของการลงทุนของเอกชนไทยอันดับต้นๆ ในอินเดียมาบรรจุไว้ในหนังสือเล่มนี้ โดยรัฐที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ของอินเดียในด้านการลงทุนคือรัฐคุชราต ที่มีนายนเรนดรา โมดี ซึ่งกำลังแย่งชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในช่วงการเลือกตั้งทั่วไปเดือนนี้ เป็นมุขมนตรี และได้ปฏิรูประบบราชการท้องถิ่นจนทำให้การเข้าไปลงทุนทำธุรกิจขึ้นชื่อว่าสะดวกสบายที่สุดใน3โลก
นอกจากรัฐคุชราตแล้ว ยังมีรัฐอื่นๆ ในภูมิภาคต่างๆ ของอินเดีย เช่น รัฐเจ็ดสาวน้อยทางภาคอีสานของอินเดียที่ติดกับชายแดนเมียนมาร์และจะกลายเป็นจัดเชื่อมต่อกับไทยทางถนนในไม่ช้า รัฐราชสถานที่เป็นขุมทรัพย์น้ำมันที่บริษัทน้ำมันข้ามชาติต่างเข้าไปแก่งแย่งกัน และรัฐมัธยประเทศและเกรละที่กำลังมาแรงมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในประเทศ
ทีมงาน thaiindia.net เชื่อแน่ว่า หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ท่านจะมีมุมมองที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับอินเดีย และจะมองเห็นโอกาสมหาศาลในการเข้าไปลงทุนในอินเดียแน่นอน ท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถติดต่อเราทางอี-เมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. เพื่อขอรับหนังสือ "มองอินเดียใหม่" ได้ฟรี หรือสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันอิเล็กทรอนิกส์มาอ่านได้จากเว็บไซต์ www.thaiindia.net (คลิกที่นี่)
โดย ประพันธ์ สามพายวรกิจ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,941 วันที่ 20 - 23 เมษายน พ.ศ. 2557