กรมอุตุนิยมวิทยาอินเดีย (IMD) คาดการณ์ ปีนี้ อินเดียฝนตกน้อยลง แต่ไม่แล้ง
ช่วงเกือบสองเดือนที่ผ่านมา อินเดียได้เผชิญกับคลื่นความร้อนซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในดินแดนรัฐ ทางตอนใต้ โดยเฉพาะในรัฐอานธรประเทศและรัฐเตลังคานาไปมากกว่า ๒,๒๐๐ คน
พอผ่านภัยจากคลื่นความร้อนไปแล้ว ช่วงถัดจากนี้ อินเดียอาจต้องเผชิญกับปัญหาฝนตกน้อยลงในช่วงในฤดูมรสุม แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอินเดียก็ยังยืนยันว่า อินเดียยังไม่น่าต้องเผชิญกับภัยแล้งในปีนี้
ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกษตรกรและรัฐบาลอินเดียต่างแสดงความกังวล เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย หรือ Indian Meteorological Department (IMD) ได้คาดการณ์ว่า ในช่วงฤดูฝนนี้ ฝนซึ่งเกิดจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่จะพัดผ่านมายังอินเดียในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนกันยายนจะตกน้อยลง เหลือเพียงประมาณร้อยละ ๙๓ ของปริมาณฝนที่ตกปกติ โดยมีปริมาณฝนเฉลี่ยรวม ๘๘๖.๙ มิลลิเมตร ทั้งนี้ เนื่องจาก ปรากฏการณ์เอลนิโญ
และล่าสุด IMD ออกรายงานพยากรณ์มาอีกเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่า ปีนี้ ปริมาณฝนที่ตกในอินเดียจะน้อยกว่าที่คาดไว้เดิม ร้อยละ ๙๓ เป็นเหลือเพียงร้อยละ ๘๘ โดยพื้นที่ที่จะมีปริมาณฝนลดลงจะเป็นพื้นที่ในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย
การคาดการณ์ดังกล่าว ทำให้เกษตรกรและประชาชนเกิดความตื่นตระหนก เนื่องจากไม่อยากเผชิญกับภาวะภัยแล้งอีกครั้ง
และเพื่อเป็นบรรเทาความกังวลของเกษตรกร รัฐบาลอินเดียจึงได้ประกาศว่า ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับกับภาวะภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้น หากเกิดภาวะฝนตกน้อยในช่วงฤดูมรสุม โดยพร้อมจะให้เงินอุดหนุนแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบหากปริมาณฝนตกน้อยและมีพืชผลการเกษตรได้รับความเสียหาย
โดยขณะนี้ รัฐบาลอินเดียได้เตรียมการอุดหนุนเกษตรกรไว้แล้ว โดยจะออกมาตรการจำหน่ายน้ำมันดีเซลในราคาลิตรละ ๑๐ รูปี และลดราคาเมล็ดพันธุ์พืชลงเหลือครึ่งหนึ่ง รวมทั้งให้เกษตรกรใช้ไฟฟ้าฟรีใน การสูบน้ำ นอกจากนี้ รัฐบาลอินเดียจะเริ่มใช้นโยบายประกันราคาพืชผลเพื่อสร้างหลักประกันให้กับเกษตรกรว่า จะได้รับเงินประกันแน่ๆ หากประสบปัญหาพืชผลได้รับความเสียหาย
เมื่อปี ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา อินเดียก็ประสบปัญหาปริมาณฝนตกลดลงถึงร้อยละ ๑๒ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตธัญพืช ฝ้าย และเมล็ดพืชน้ำมัน (Oilseeds) ทำให้อัตราการเติบโตของภาคเกษตรกรรมในอินเดียในปีที่ผ่านมาขยายตัวเพียงร้อยละ ๐.๒ และผลผลิตธัญพืชลดลงจากเดิม ๒๖๕.๐๔ ล้านตันเมื่อปี ๒๕๕๖ เหลือเพียง ๒๕๑.๑๒ ล้านตัน
อย่างไรก็ดี เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ได้พัดเข้าสู่อินเดียทางฝั่งรัฐ เกรละมาแล้ว แม้จะมาล่าช้าไปกว่าปกติ ซึ่งทำให้สถานการณ์ความกังวลเรื่องฝนตกน้อยและภัยแล้งเบาบางลง
โดยปริมาณฝนที่ตกเฉลี่ยตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน จนถึง ๑๕ มิถุนายน ทั่วประเทศอินเดียไม่น่ากลัวอย่างที่คิด โดยมีปริมาณรวม ๕๓.๕ มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่าเฉลี่ยที่ ๕๐.๕ มิลลิเมตร
ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียมีปริมาณฝนตกสูงกว่าเฉลี่ยปกติร้อยละ ๒๒ ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนตกน้อยกว่าเฉลี่ยร้อยละ ๔ ภาคกลางฝนตกน้อยกว่าเฉลี่ยร้อยละ ๖ และภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ฝนตกน้อยกว่าเฉลี่ยร้อยละ ๑๐
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดียคาดการณ์ใหม่ว่า ในเขตอินเดียตอนใต้และตะวันออกเฉียงเหนือน่าจะมีปริมาณฝนตกร้อยละ ๙๐ ยกเว้นทางตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งอาจจะเผชิญกับภาวะฝนน้อย โดยจะมีปริมาณฝนตกประมาณร้อยละ ๘๕ จากเกณฑ์ค่าเฉลี่ยปริมาณฝนตกในปีฐาน
หันมาสำรวจสต็อกธัญพืชของอินเดียบ้าง ว่าจะมีปัญหาหรือได้รับผลกระทบหากเกิดปัญหาฝนแล้งหรือไม่
จากข้อมูลของ องค์กรอาหารแห่งอินเดีย หรือ Food Corporation of India (FCI) ณ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๘ ระบุว่า อินเดียมีสต็อกธัญพืช (food grain) ลดลงจากปี ๒๕๕๕ ร้อยละ ๒๐ แต่ปริมาณสต็อกที่ลดลงดังกล่าว ยังไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากยังใช่ระดับที่ต่ำสุด
โดยสต็อกรวมของธัญพืชในปี ๒๕๕๗ มีรวม ๗๔,๗๘๑ ล้านตัน แยกเป็นสต็อกข้าว ๒๐,๖๔๕ ล้านตัน และสต็อกข้าวสาลีรวม ๔๑,๕๘๖ ล้านตัน และในปี ๒๕๕๘ (จนถึง ๑ มิ.ย.) อินเดียมีสต็อกธัญพืชรวม ๖๖,๒๕๐ ล้านตัน โดยแยกเป็นสต็อกข้าว ๑๖,๔๘๓ ล้านตัน และสต็อกข้าวสาลีรวม ๔๐,๓๕๑ ล้านตัน
ยอดสต็อกที่ลดลงนี้ ทาง FCI ระบุว่า เป็นเพราะส่วนหนึ่งมีการจำหน่ายธัญพืชในตลาดมากขึ้น เพื่อลดภาวะเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวระบุว่า ในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา มีปริมาณธัญพืชที่ได้รับความเสียหายในโกดังเก็บผลผลิตทั่วประเทศของ FCI เพิ่มขึ้นรวมมากกว่า ๔๐,๐๐๐ ตัน โดยเป็นผลมาจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติ เช่น อุทกภัยและพายุไซโคลน
โดยในช่วงปี ๒๕๕๖-๒๕๕๗ มีปริมาณธัญพืชได้รับความเสียหายในโกดังที่เก็บรวม ๒๔,๖๙๕.๔๕ ตัน ขณะที่ในปี ๒๕๕๗-๒๕๕๘ มีความเสียหายรวม ๑๘,๘๔๗ ตัน
และนับตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ มีความเสียหายของข้าวในโกดังเก็บสินค้าทั่วอินเดียรวม ๒๗,๐๐๐ ตัน และข้าวสาลีในโกดังเก็บเสียหาย ๒๖,๐๐๐ ตัน
รัฐที่มีความเสียหายของธัญพืชที่เก็บในโกดังของ FCI มากที่สุดคือ รัฐโอริสสา เสียหายรวม ๗,๑๐๘.๘๑ ตัน รัฐจัมมูและแคชเมียร์ รวม ๖,๑๒๐ ตัน รัฐอานธรประเทศ รวม ๒,๒๖๒.๑๒ ตัน รัฐกรณาฏกะ ๗๔๗ ตัน และรัฐทมิฬนาฑู ๓๗๖.๙๘ ตัน
ทั้งนี้ หลายฝ่ายได้เรียกร้องให้ FCI ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว โดยเฉพาะการหมั่นตรวจตราโกดังเก็บธัญพืชให้มากขึ้นและบ่อยขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่า อินเดียจะไม่มีปัญหาขาดแคลนเมล็ดธัญพืชหากต้องประสบปัญหาภัยแล้งจริงในอนาคต
คงจะต้องติดตามเรื่องฟ้าฝนของอินเดียต่อไป ว่าจะกระทบต่อผลผลิตข้าวและธัญพืชอื่นๆ ของอินเดียหรือไม่ ในช่วงฤดูมรสุมนี้ เพื่อผู้ส่งออกข้าวไทยได้พิจารณาใช้ประโยชน์ประกอบการระบายข้าวในสต็อกของไทยต่อไป
*****************************
รายงานโดย ดร. พรพิมล สุคันธวณิช
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน