สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์ที่ 28 พย - 4 ธค 2558

1. อินเดียทุ่มเงิน 95 พันล้านเหรียญยกเครื่องระบบรถไฟใน 5 ปี

    India may spend $95 billion on railways over 5 years: Morgan Stanley

นิวเดลี : อินเดียวางแผนทุ่มเงิน 95 พันล้านเหรียญ (ประมาณ 6.34 ล้านล้านรูปี) เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและเดินทางทางรถไฟที่ช่วยส่งผลต่อขีดความสามารถในการผลิตของประเทศ

            จากรายงานของ Morgan Stanley ระบุว่าที่ผ่านมาระบบรถไฟของอินเดียประสบปัญหาด้านการลงทุนที่น้อยเกินไปและการดำเนินตามนโยบายที่ไม่เหมาะสมกับสภาพสถานการณ์ในปัจจุบัน

นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมของ Morgan Stanley, Akshay Soni ได้ระบุในรายงานว่าอินเดียจะลงทุนประมาณ 95 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อเพิ่มการเติบโตของ GDP ให้ได้ร้อยละ 12 ในระหว่างปี 2014-15 จนถึง ปี 2018-19  โดยหวังจะให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิตของภาคอุตสากรรมต่างๆ และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งให้อยู่ในระดับตามเป้าหมายที่อินเดียตั้งไว้ในปี 2030

ทั้งนี้ในรายงานของธนาคารโลกได้ระบุถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ของอินเดียที่อยู่ระดับร้อยละ 10-14 ของยอดการจำหน่าย หรือเทียบเท่าประมาณ 2-3 เท่าของระดับต้นทุนเปรียบเทียบที่ดีที่สุด ซึ่งมีผลกระทบต่อระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

สำหรับปัจจัยหลักสำคัญในการถดถอยลงของระดับการให้บริการด้านการขนส่งทางรางของอินเดียในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ การจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาระบบราง  ค่าตั๋วโดยสารรถไฟที่พุ่งสูงขึ้นกว่าร้อยละ 28 และค่าขนส่งสินค้าที่สูงขึ้นไปกว่าร้อยละ 91 ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา จนกระทั่งจำนวนผู้ใช้บริการระบบรถไฟในอินเดียค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และหันไปใช้ระบบคมนาคมขนส่งทางถนนแทนเพิ่มขึ้น

 Source: The Economic Times, November 29, 2015

2. อินเดียส่อห้ามนำเข้าเครื่องประดับทองคำ 24 กะรัต

    India may ban imports of 24-carat gold jewellery

อินเดียวางนโยบายห้ามนำเข้าเครื่องประดับทองคำ 24 กะรัตเพื่อช่วยลดการนำเข้าที่ไม่ถูกต้องภายใต้ข้อตกลงเสรีทางการค้ากับประเทศอาเซียน  ซึ่งที่ผ่านมาอินเดียในฐานะผู้นำเข้าทองคำอันดับสองของโลกได้เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรขาเข้าสินค้าทองคำเป็นร้อยละ 10 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมาเพื่อลดการนำเข้าทองคำจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามก็ยังมีการลักลอบนำเข้าทองคำจากผู้นำเข้าบางรายโดยอาศัยการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ข้อตกลงทางการค้าระหว่างอินเดียและอาเซียน โดยเฉพาะการนำเข้าเครื่องประดับทองคำ 24 กะรัตซึ่งมีอัตรานำเข้าเพียงร้อยละ 2 เท่านั้น

เครื่องประดับทองคำที่นำเข้ามาในอินเดียจะถูกหลอมเหลวเพื่อนำมาทองคำมาทำเป็นทองคำเหรียญและทองคำแท่งและจำหน่ายให้กับผู้ค้าในตลาดท้องถิ่น 

จากแผนการห้ามนำเข้าดังกล่าว จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการนำเข้า โดยรัฐบาลจะอนุญาตให้นำเข้าได้เฉพาะเครื่องประดับทองคำที่มีคุณภาพต่ำ เช่น ทองคำ 18 กะรัต หรือ ทองคำ 22 กะรัต เท่านั้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังอินเดียยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดหรือความเห็นในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

Source: The Hindu, Business Line, New Delhi Edition, December 6, 2015

3. อินเดียและปากีสถานผนึกกำลังจดทะเบียน GI ข้าวบาสมาติ

Basmati unites India, Pak in “joint heritage” claim

นิวเดลี : ข้าวบาสมาติของอินเดียกำลังจะได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) ร่วมกับข้าวบาสมาติของปากีสถาน ซึ่งจะทำให้ข้าวบาสมาติทั้งสองประเทศสามารถระบุประเภทข้าวบาสมาติเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของทั้งสองประเทศในตลาดข้าวโลกได้

            ทั้งนี้ อินเดียและปากีสถานอยู่ระหว่างการขอจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สำหรับข้าวบาสมาติ ซึ่งเป็นข้าวหอมที่มีลักษณะเม็ดข้าวเรียวยาวและปลูกในพื้นที่ราบลุ่มอินเดียตอนเหนือลุ่มน้ำสินธุ-คงคา (Indo-Gangetic Plain) ซึ่งครอบคลุมที่พื้นที่ปลูกข้าวบาสมาติทางตอนเหนือของอินเดียและปากีสถาน

        สำหรับประโยชน์ที่อินเดียจะได้รับภายหลังการได้รับการขึ้นทะเบียนดังกล่าว ได้แก่ จะทำให้ประเทศคู่แข่งส่งออกข้าวอื่นๆ ไม่สามารถใช้การโฆษณาว่าเป็นข้าวหอมบาสมาติได้ และเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวในพื้นที่ 77 เมืองหรืออำเภอของรัฐปัญจาบ หริยานะ อุตตระประเทศ เดลี และจัมมูและแคชเมียร์  รวมทั้งจังหวัดปัญจาบของปากีสถานจะได้รับตีตรารับรองสำหรับการเพาะปลูกข้าวบาสมาติต่อไป 

        สำหรับการจดทะเบียนดังกล่าว หน่วยงาน Intellectual Property Appellate Board (IPAB) ของอินเดียที่ตั้งอยู่ที่เมืองเจนไนได้ระบุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำประชาพิจารณ์ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้น และจะสามารถประกาศผลการขึ้นทะเบียนภายในอีกหนึ่งสัปดาห์  อย่างไรก็ตาม ได้มีความขัดแย้งขึ้นในหลายพื้นที่ของอินเดียในประเด็นการจดทะเบียน GI ข้าวบาสมาติดังกล่าว

        อนึ่ง การจดทะเบียน GI ข้าวบาสมาติจะมีผลต่อเนื่องไปยังข้าวบาสมาติที่ส่งออกไปสู่ตลาดสหภาพยุโรปและสหรัฐ และทำให้ประเทศคู่แข่งไม่สามารถระบุประเภทข้าวที่จำหน่ายในตลาดดังกล่าวว่าเป็นข้าวบาสมาติได้

Source: The Financial Express, December 6, 2015

สคร.นิวเดลี

ธันวาคม 2558