สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์ สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์ 6 – 11 ธันวาคม 2558 (อินเดีย)

1. รัฐบาลอินเดียประกาศใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดสำหรับสินค้าเครื่องใช้ในครัว

    Government imposes anti-dumping duty on kitchenware products

นิวเดลี : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินเดียได้ประกาศมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-dumping duty) สำหรับสินค้าเครื่องครัวผลิตจาก   melamine นำเข้าสูงสุดตันละ 1,732.11 เหรียญสหรัฐ โดยใช้สำหรับการนำเข้าจากประเทศ จีน ไทย และเวียดนามเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตของอินเดีย

มาตรการฯ ดังกล่าวจะส่งผลให้สินค้าเครื่องครัวที่ผลิตจาก melamine จากทั้งสามประเทศต้องเสียภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นในช่วงตั้งแต่ 582.85 – 1,732.11 เหรียญสหรัฐต่อตัน

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวฯ เป็นผลจากการพิจารณาผลการไต่สวนของ Directorate General of Anti Dumping and Allied Duties (DGAD) ซึ่งต่อมา Central Board of Excise and Customs (CBEC) ได้ประการบังคับใช้มาตรการฯ เพื่อเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากทั้งสามประเทศดังกล่าว โดยเป็นผลสืบเนื่องจากการที่บริษัท Hamilton Housewares ได้ยื่นคำร้องให้มีการไต่สวนขึ้น  และในท้ายที่สุด DGAD เห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้มาตรการฯ เพื่อทดแทนผลกระทบจากการทุ่มตลาดและบรรเทาความเสียหายที่มีต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ

อนึ่ง มูลค่าการนำเข้าเครื่องใช้ในครัวที่ทำจาก melamine ผ่านการนำเข้าจากทั้งสามประเทศมีปริมาณเพิ่มขึ้นจาก 361 ตันในปี 2010-11 เป็น 1,050 ตันในปี 2013-14.

 Source: The Economic Times, 6 December, 2015

2. เผยผลศึกษา TPP อาจไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศของอินเดียมากนัก

    TPP agreement may not have much impact on India’s trade: Study

นิวเดลี : อินเดียเผย TPP ไม่น่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศของอินเดีย

ในเรื่องดังกล่าว Centre for WTO Studieds ที่ทำหน้าที่เป็น Thinktank ของอินเดียด้านการค้า เผยว่าจากการศึกษาเรื่อง TPP พบว่าอาจจะผลกระทบบ้างสำหรับอุตสาหกรรมการทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่ง TPP จะส่งผลให้ประเทศเวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดสหรัฐมีความได้เปรียบมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการเข้าร่วม TPP จะทำให้อินเดียได้รับผลกระทบในการเข้าถึงยารักษาโรค และในภาพรวมแล้ว TPP ไม่ได้ทำให้อินเดียได้รับผลประโยชน์ที่ชัดเจน

ในเรื่องดังกล่าว Prof.Chadni Raina จาก Centre for WTO Studies กล่าวว่าจะทำให้การเข้าถึงยารักษาโรคทั่วไปมีความล่าช้ามากยิ่งขึ้นเนื่องจากจะต้องใช้เวลานานขึ้นสำหรับการรับรองการจดทะเบียนยาประเภททั่วไป

ในขณะที่อดีตประธานของ FICCI, R V Kanoria กล่าวว่าอินเดียอาจจะต้องมีมาตรฐานสำหรับการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเขตการค้าเสรีต่างๆ  โดยจะต้องเชื่อมต่อกับการปรับโครงสร้างภายในประเทศเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมให้ได้

Source: The Economic Times, 6 December, 2015

3. อินเดียเผยการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไม่เหมาะสม

Misuse of FTA provisions alleged in certain cases: Government

นิวเดลี : สภาผู้แทนราษฎรของอินเดียรับทราบผลการใช้ประโยชน์ที่ไม่เหมาะสมของความตกลงทางการค้า ยกกรณีการนำเข้าเครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำจากไทยและการนำเข้าแอปเปิ้ลจากอัฟกานิสถาน 

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรของอินเดียได้รับทราบรายงานจาก รมว.พาณิชย์และอุตสาหกรรม Nirmala Sitharaman ถึงการใช้ประโยชน์จากความตกลงทางการค้าที่ไม่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการนำเข้าโทรทัศน์จอแบนและเครื่องประดับที่ทำด้วยทองคำจากไทย การนำเข้าเหล็กม้วนรีดเย็นจากอาเซียน การนำเข้าแอปเปิ้ลจากอัฟกานิสถาน การนำเข้าหินอ่อนจากศรีลังกา และการนำเข้าหมากภายใต้ความตกลง SAFTA/India-Sri Lanka FTA 

จนถึงขณะนี้ อินเดียได้มีความตกลงทางการค้ากับประเทศต่างๆ จำนวน 11 ความตกลง และอยู่ระหว่างการดำเนินการเจรจาอีก 19 FTAs

        อนึ่ง อินเดียอยู่ระหว่างการจัดทำระบบตรวจสอบติดตามการอนุญาตการนำเข้าของหน่วยงานต่างๆ ของอินเดียจำนวน 88 ระบบในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในปีงบประมาณหน้า

Source: The Economic Times, December 7, 2015

4. อินเดียจ่อประกาศใช้มาตรการราคาขั้นต่ำสำหรับสินค้าเหล็กนำเข้า

    Minimum Import Price on Steel likely

กระทรวงพาณิชย์อินเดียมีแนวโน้มที่จะประกาศใช้มาตรการราคาขั้นต่ำ (Minimum Import Price, MIP) เพื่อกำหนดเป็นราคาขั้นต่ำสำหรับการนำเข้าสินค้าเหล็กเข้ามาในอินเดียเพื่อลดผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินเดียได้มีประกาศเพิ่มภาษีนำเข้าตามมาตรการจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard duty) ร้อยละ 20 สำหรับสินค้าเหล็กรีดร้อน

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวง Steel ของอินเดียได้ส่งรายการสินค้านำเข้าจำนวน 14 ประเภทครอบคลุมสินค้าจำนวน 40 รายการให้กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมพิจารณาเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ผลิตในประเทศ ซึ่งตัวอย่างประเภทสินค้านำเข้าที่อาจจะต้องมีการบังคับใช้มาตรการได้แก่ pig iron, heavy melting and shredded scrap, semi-finished products, quarto plates, cold-rolled coils, coated flat steel, และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับ steel pipe และ tube, flat-rolled products of stanless steel, bars and rods เป็นต้น

อย่างไรก็ตามการบังคับใช้มาตรการ MIP ของอินเดียที่จะมีขึ้นอาจจะยกเว้นสำหรับที่นำเข้ามาเพื่อการส่งออกภายในหกเดือน

อนึ่ง บริษัทผลิตเหล็กมีตัวเลขขาดทุนสะสมจำนวน 42,380 ล้านรูปี ในช่วงไตรมาสผ่านมา เปรียบเทียบกับตัวเลขกำไรสะสมจำนวน 46,470 ล้านรูปีในช่วงไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา

Source: The Economic Times, December 8, 2015

5. อินเดียมีท่าทีถอยห่างจากการลดภาษีนำเข้าร้อยละ 0

Free trade pacts: India to move away from ‘zero-duty’ model

นิวเดลี : ในการเจรจาข้อตกลงเสรีทางการค้าในอนาคตของอินเดีย อาจจะไม่มีโมเดลของการลดภาษีนำเข้าร้อยละ 0 (Zeo-duty) ต่อไป

จากแหล่งข่าวของกระทรวงพาณิชย์อินเดีย ทราบว่า กระทรวงฯ อยู่ระหว่างการปรับปรุงรูปแบบการเจรจาการค้าที่เป็นประโยชน์ต่ออินเดียมากขึ้น โดยเฉพาะการเจรจาในรูปแบบการลดภาษีนำเข้าร้อยละ 0 ซึ่งเป็นประเด็นที่อินเดียยังรู้สึกไม่สบายใจเท่าใดนัก

ที่ผ่านมา อินเดียได้มีการตรวจสอบความเป็นไปได้ในการเจรจา FTAs กับประเทศต่างๆ เช่น รัสเซีย แคนาดา เปรู ชิลี อิหร่าน นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป โดยยังมีแนวความคิดที่จะไม่ตกลงในลักษณะที่เป็นการลดภาษีนำเข้าลงเหลือร้อยละ 0 หรือลดภาษีในรูปแบบที่มีภาษีนำเข้าต่ำที่สุด  ทั้งนี้ จากผลการเจรจาการค้าที่ผ่านมาระหว่างอินเดียกับประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอาเซียนล้วนมีจำนวนสินค้าหลายรายการที่เป็นลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 รวมทั้งกรอบการเจรจา RCEP ที่กำลังดำเนินอยู่อีกด้วย

        อนึ่ง แนวทางการเจรจาโดยไม่จำเป็นต้องใช้รูปแบบการลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 ได้รับการสนับสนุนจากทั้งสำนักงานนายกรัฐมนตรีและกระทรวงการคลังของอินเดีย โดยมีหลักการที่ไม่ต้องการให้การเจรจาการค้ามีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมของอินเดียมากนัก

        สำหรับการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าของอินเดียกับประเทศคู่ค้าต่างๆ พบว่าภาคอุตสาหกรรมในประเทศของอินเดียยังคงไม่ได้ใช้ประโยชน์มากนัก จากผลการศึกษาของกระทรวงพาณิชย์อินเดียพบว่า ผู้ส่งออกอินเดียยังคงต้องการใช้รูปแบบการส่งออกตามช่องทางเดิมที่มีการชำระภาษีนำเข้าสูง มากกว่าที่จะใช้รูปแบบการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าที่มีขั้นตอนในการใช้งานที่ยุ่งยากมากกว่า โดยที่ผ่านมามีจำนวนร้อยละการใช้ประโยชน์อยู่ราวร้อยละ 5 – 25 ซึ่งเป็นอัตราการใช้ประโยชน์ฯ ที่ต่ำที่สุดประเทศหนึ่งในเอเชีย

Source: The Hindu Business Line, December 9, 2015

สคร.นิวเดลี

ธันวาคม 2558