สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงนิวเดลี
สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์
16-22กรกฎาคม2559 (อินเดีย)
1. UNCTAD เผยตลาด e-commerce โตเท่ากับ 22 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ จีนนำโด่งอันดับหนึ่ง B2C
Global e-commerce market is worth $22 trillion: UNCTAD
จากข้อมูลขององค์กรการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (The United Nations Conference on Trade and Development, UNCTAD) พบว่าตลาด e-commerce ของโลก ซึ่งรวมตลาด e-commerce แบบ B2B และ B2C เข้าด้วยกันมีมูลค่าประมาณ 22.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 โดยแบ่งเป็นตลาด B2B 19.9 ล้านล้านเหรียญ + ตลาด B2C 2.2 ล้านล้านเหรียญ (22.1 ล้านล้านเหรียญ) โดยจีนยังคงครองอันดับหนึ่งในฐานะประเทศที่มีตลาดแบบ B2C ที่ใหญ่ที่สุด ทั้งในด้านมูลค่าและด้านจำนวนผู้ซื้อ ตามมาด้วยอันดับสองคือสหรัฐฯ และอันดับสามญี่ปุ่น สำหรับอินเดียถูกจัดอันดับในลำดับที่ 10 ในด้าน
จากข้อมูลขององค์กรการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (The United Nations Conference on Trade and Development, UNCTAD) พบว่าตลาด e-commerce ของโลก ซึ่งรวมตลาด e-commerce แบบ B2B และ B2C เข้าด้วยกันมีมูลค่าประมาณ 22.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2015 โดยแบ่งเป็นตลาด B2B 19.9 ล้านล้านเหรียญ + ตลาด B2C 2.2 ล้านล้านเหรียญ (22.1 ล้านล้านเหรียญ) โดยจีนยังคงครองอันดับหนึ่งในฐานะประเทศที่มีตลาดแบบ B2C ที่ใหญ่ที่สุด ทั้งในด้านมูลค่าและด้านจำนวนผู้ซื้อ ตามมาด้วยอันดับสองคือสหรัฐฯ และอันดับสามญี่ปุ่น สำหรับอินเดียถูกจัดอันดับในลำดับที่ 10 ในด้านจำนวนผู้ซื้อของตลาด B2C (22 ล้านคน) สำหรับใน 10 อันดับแรกพบว่า มีจำนวนผู้ซื้อรวมกัน 848 ล้านคน มีการใช้จ่ายประมาณคนละ 1,944 เหรียญต่อคนต่อปี มีการใช้เงินจับจ่ายแบบB2C เท่ากับ 1.65 ล้านล้านเหรียญ และจับจ่ายแบบ B2B จำนวน 14.9 ล้านล้านเหรียญ
Source: The Economic Times, 19 July, 2016
2. การผลิตยางจะแตะ6.54แสนตันในปี2016-17
Rubber production to touch 6.54 lakh tonnes in 2016-17
KOCHI:หลังจากราคายางลดลงอย่างรวดเร็วซึ่งต่ำสุดในรอบเกือบสองทศวรรษที่ผ่านมาในปี 2015-16การผลิตยางธรรมชาติมีแนวโน้มดีขึ้น ตามที่คณะกรรมการยางผลิตยางธรรมชาติหรือRubber Board ได้เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสแรกมีการผลิตยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากปีที่ผ่านมา จากการประมาณการเบื้องต้นแนวโน้มการผลิตคาดว่าจะแตะ 6.54 แสนตันในปีการผลิต 2016-17 ซึ่งหาก เมื่อเทียบกับปีที่แล้วการผลผลิตได้ลดลงไปเหลือเพียง 5.62 แสนตัน
อนึ่ง ราคายางธรรมชาติในตลาดยังอยู่ที่ประมาณ140 รูปีต่อกิโลกรัม ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงการผลิตและผลผลิตคณะกรรมการมีการประชุมการเชิงปฏิบัติการเพื่อปรับปรุงความสามารถในการผลิตโดยเลือกใช้วิธีการประชุมวงเล็กๆ ในพื้นที่ต่างๆ สร้างปฏิสัมพันธ์ในหมู่เกษตรกรผู้ปลูกยางกับตัวแทนของผู้ผลิตยาง (RPSs:rubber producers societies)และเจ้าหน้าที่รัฐ ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการฯ ได้ชักจูงให้เกิดการลดค่าใช้จ่ายในช่วงเวลาที่ราคายางตกต่ำ โดยขอให้มีการกรีดยางลดลงเหลือสัปดาห์ละหนึ่งครั้งและมีเกษตรกรสนใจที่จะร่วมกรีดยางดังกล่าวประมาณ 5,000 ราย
Source: The Economic Time, 22 July, 2016
สคร.นิวเดลี
มกราคม 2559
Disclaimer: การเผยแพร่ข้อมูลใน “สรุปข่าวเด่นรายสัปดาห์” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจเท่านั้น สำนักงานส่งเสริมการค้าฯ ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดียจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนาข้อมูลนี้ไปใช้