ฐานเศรษฐกิจ: มองอินเดียใหม่ ตอน อินเดียมองไทย
ในขณะที่ชาติต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งไทยพยายามจะมองอินเดียใหม่ เพราะอินเดียทุกวันนี้เป็นแหล่งทองทางโอกาส มหาเศรษฐีอินเดียล้วนติดระดับท็อปของโลกทั้งนั้น ใครๆ ก็อยากทำมาหากินกับอินเดีย แต่ในทางกลับกัน เราเคยถามตัวเองไหม ว่าคนอินเดียเขามองประเทศไทยอย่างไร
บทความนี้เป็นการประมวลประสบการณ์ของคนไทยคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตในอินเดียมา 3 ปี ความคิดความเห็นอาจไม่เป็นที่เห็นด้วยของทุกๆ คน เพราะเป็นมุมมองส่วนตัว แต่สิ่งที่ได้พบ ได้เห็น จากสื่อสาธารณะของอินเดียทำให้มองออกว่า ยังมีคนอินเดียส่วนหนึ่งที่ดูถูกเมืองไทยอยู่พอสมควร
เริ่มต้นจากโฆษณาทีวี
ธนาคารพาณิชย์เอกชนที่ชื่อ Kotak Mahindra เพิ่งฉลองครบรอบการก่อตั้ง 25 ปี เมื่อปีที่ผ่านมา มีแคมเปญโฆษณาที่ต้องการสื่อความ 'เก๋า' และประสบการณ์อย่างโชกโชนในแวดวงการเงิน และในเวลาเดียวกันเป็นแบงก์ที่โมเดิร์น พร้อมบริการลูกค้าในยุคอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้สโลแกน "Its gr8 2b 25" (It's great to be 25 แปลเป็นไทย เยี่ยมมากเลยที่อายุครบ 25 แล้ว)
สปอตโฆษณาในทีวีของแคมเปญนี้ให้นักแสดงเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวว่าประทับใจอะไรบ้างเมื่อตัวเองอายุครบ 25 ปี มีทั้งหญิงชาย หลากหลายวัย
สปอตหนึ่งใช้นักแสดงชาย เล่าอย่างตื่นเต้นยิ้มแย้มว่า 'เมื่อผมอายุ 25 ผมไปเมืองไทยแล้วผมเสีย...' แล้วหยุดพูด พูดแก้เก้อว่า ทำพาสปอร์ตหายแทน
มาถึงโฆษณาบิลบอร์ด
Indigo สายการบิน low cost ระดับแนวหน้าของอินเดีย เพิ่งเปิดบริการการบินระหว่างประเทศไปเมื่อกลางปี 2554 ที่ผ่านมา
ซีอีโอของ Indigo เป็นหนุ่มอายุ 40 ปีต้นๆ มีรสนิยมกิ๊บเก๋ Indigo จะทำอะไรก็ต้องกิ๊บเก๋ๆ ไม่เชื่อลองไปเปิดโฆษณาของ Indigo ในยูทูบดู
บิลบอร์ดโฆษณาของ Indigo ข้างทางไปสนามบินนานาชาติอินทิราคานธี ที่กรุงนิวเดลี ต้องการให้ผู้พบเห็นจดจำได้ว่า Indigo มีเที่ยวบินไปดูไบทุกวัน ด้วยข้อความ "Shiekh it, baby !" (เป็นการเล่นคำภาษาอังกฤษระหว่าง Shake แปลว่า เขย่า กับ Sheikh แปลว่า เจ้าชายอาหรับ)
สำหรับเที่ยวบินไปกรุงเทพฯ นั้น Indigo ใช้สโลแกนให้ผู้โดยสารจดจำได้ว่า บินไปกรุงเทพฯ ใกล้นิดเดียว ไปแบบ "Special Weekend" ก็ได้
สำหรับคนที่เข้าใจภาษาอังกฤษในระดับหนึ่ง เมื่อพบเห็นสโลแกนดังกล่าว ก็จะทำให้คิดได้ว่า "Special Weekend" ที่เขาพูดถึงนั้น มันสื่อถึงอะไรซุกซน เหมือนกับว่าไปกรุงเทพฯ แล้วไปทำตัวซุกซนในสไตล์หนัง Hangover 2 ได้
และประสบการณ์ตรงจากเพื่อนอินเดีย ที่บอกว่ารักเมืองไทยมาก วันหนึ่งเขาอัพเดตในเฟซบุ๊ก ประกาศว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ไปสนุกสุดเหวี่ยงที่ "Phuk-et ใน Toyland" เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าคนอินเดียไม่น้อย คิดถึงเมืองไทยว่าเป็นสวนสนุก สนามเด็กเล่นของเขา มีแหล่งบันเทิงให้ทำตัวซุกซน อย่างที่เขาทำไม่ได้ในบ้านเขาเอง
ทัศนคติที่มีต่อกันในแง่ลบนั้น เป็นเรื่องที่ต้องพยายามปรับกันทั้งสองฝ่าย ในขณะที่เราพยายามมองเขาใหม่ เราก็ต้องพัฒนาตัวเองด้วย ว่าประเทศไทยมีเรื่องราวให้น่าเรียนรู้มากกว่าที่เขาเข้าใจกันอยู่ จึงเป็นการบ้านที่ทั้งภาครัฐและเอกชนต้องช่วยกัน จะหวังแค่รายได้การท่องเที่ยวเล็กๆ น้อยๆ แลกกับภาพลักษณ์ที่ถูกบิดเบือนไปทุกขณะ ก็คงไม่คุ้มกัน
แจ่มใส เมนะเศวต