ฐานเศรษฐกิจ: มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 38)
Starbucks มาแล้ว!!
โดย อดุลย์ โชตินิสากรณ์
ผู้อำนวยการอาวุโส
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ
และแล้ว Starbucks ยักษ์ใหญ่กาแฟโลกก็ทนความเย้ายวนของตลาดกาแฟอินเดียไม่ไหว ตัดสินใจหวนคืนเข้ามาร่วมทุนอีกครั้งกับยักษ์ใหญ่ของอินเดียรายใหม่ คือ กลุ่มบริษัท Tata โดยถือหุ้นเท่ากันในสัดส่วน 50:50 หลังจากที่เคยพยายามจับมือกับบริษัทแฟรนไชส์ของอินโดนีเซียและกลุ่มบริษัท Future Group ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของอินเดียมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากทนระบบราชการของอินเดียไม่ไหว เลยถอดใจยกเลิกโครงการไปเมื่อปี 2550
วันนี้ Starbucks กลับมาแล้ว หลังจากที่รัฐบาลอินเดียประกาศเปิดเสรีค้าปลีกสำหรับบริษัทต่างชาติประเภท Single Brand ซึ่ง Starbucks อยู่ในข่ายนี้ ให้สามารถถือหุ้นได้ถึง 100% ตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2555 ที่ผ่านมา จากที่เคยอนุญาตให้ถือหุ้นได้ไม่เกิน 51% แต่ Starbucks ก็เลือกที่จะถือหุ้นแค่ 50% และให้ยักษ์ใหญ่ Tata ถือหุ้นเท่ากันอีก 50% โดยอาศัยความยิ่งใหญ่และความเป็นเจ้าถิ่นของกลุ่มบริษัท Tata เป็นตัวช่วยสู่ความสำเร็จในตลาดอินเดีย
การร่วมทุนครั้งนี้สองยักษ์ใหญ่เริ่มต้นด้วยเงินลงทุนประมาณ 1,000-1,500 ล้านรูปี (ประมาณ 600-900 ล้านบาท) ในปีแรก และเตรียมพร้อมที่จะขยายการลงทุนในอินเดียเป็นเงินอีกประมาณ 5,500 ล้านรูปี (ประมาณ 3,300 ล้านบาท) ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ Starbucks มีแผนที่จะเปิดร้านจำนวน 40 สาขาภายในเดือนธันวาคมปีนี้ โดยครึ่งหนึ่งจะเปิดในโรงแรมหรูและที่เหลือจะเปิดในศูนย์การค้าที่ทันสมัยและถนนสายหรูในเมืองสำคัญของอินเดีย ซึ่งน่าจะเริ่มทะยอยเปิดได้ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป
ขณะนี้กลุ่มบริษัท Tata ซึ่งดำเนินธุรกิจหลายอย่างได้เตรียมสถานที่เปิดร้านกาแฟ Starbucks ไว้แล้วตามเมืองสำคัญของอินเดีย คือ นิวเดลีและปริมณฑล มุมไบ บังคาลอร์ และเจนไน โดยเล็งไว้ว่าจะเปิดร้านกาแฟประมาณเมืองละ 3-4 สาขาก่อน เริ่มจากมุมไบ แล้วจึงขยายไปนิวเดลีและปริมณฑล ตามด้วยบังกาลอร์และเจนไน ตามลำดับ ซึ่งร้านกาแฟที่จะเปิดในโรงแรมก็จะเปิดในโรงแรมของกลุ่มบริษัท Tata คือ เครือโรงแรม Taj
แม้ว่าอินเดียจะเป็นประเทศที่มีอัตราการดื่มกาแฟต่อคนต่ำที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง แต่โอกาสที่ขยายตัวยังมีอีกมาก โดยปัจจุบันกาแฟที่จำหน่ายในร้านกาแฟระดับสูงที่มียี่ห้อมีมูลค่าตลาดประมาณ 10,000 ล้านรูปี (ประมาณ 6,000 ล้านบาท) ด้วยอัตราการขยายตัวปีละประมาณ 20% และมีร้านกาแฟประเภทนี้เปิดอยู่แล้วประมาณ 2,000 ร้าน มี Café Coffee Day ซึ่งเป็นบริษัทกาแฟท้องถิ่นเป็นผู้นำในตลาดด้วยจำนวนร้าน 1,200 สาขา คิดเป็น 60% ของจำนวนร้านกาแฟประเภทนี้ทั้งหมดของอินเดีย ในขณะที่ Barista ตามมาเป็นอันดับสองอย่างห่างๆ ด้วยจำนวนร้าน 165 สาขา และ Costa Coffee จำนวน 75 สาขา ส่วนร้านกาแฟที่เปิดแบบอิสระไม่ได้เป็นร้านภายใต้บริษัท มีอยู่จำนวน 560 ร้านหรือประมาณ 28% ของจำนวนร้านกาแฟทั้งหมดในประเทศอินเดีย
ร้านกาแฟ |
จำนวนร้าน |
สัดส่วน (%) |
Café Coffee Day |
1,200 |
60.0 |
Barista |
165 |
8.25 |
Costa Coffee |
75 |
3.75 |
อื่นๆ |
560 |
28.0 |
รวม |
2,000 |
100.0 |
การเข้าตลาดอินเดียของ Starbucks ยักษ์ใหญ่กาแฟโลก ซึ่งมีสาขาร้านกาแฟอยู่ทั่วโลกในขณะนี้กว่า 17,000 สาขา คงจะทำให้ตลาดกาแฟในอินเดียคึกคักยิ่งขึ้น เพราะขณะนี้ผู้เล่นหลักในตลาดกาแฟของอินเดียเริ่มตื่นตัวกันแล้วเพื่อเตรียมตัวรองรับสมรภูมิการแข่งขันที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะ Costa Coffee ผู้เล่นอันดับสาม ได้ออกมาประกาศแล้วว่าบริษัทฯ เตรียมลงทุนกว่า 4,000 ล้านรูปี (ประมาณ 2,400 ล้านบาท) เพื่อจะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 400 สาขาภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อจะแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกาแฟที่กำลังขยายตัวอย่างมาก
แค่ Starbucks เปิดตัวว่าจะเข้ามาบุกตลาดกาแฟอินเดียในเร็วๆนี้เท่านั้น ผู้เล่นในตลาดก็ตื่นขึ้นมาเตรียมตัวรับมือกันใหญ่ เชื่อว่าในอนาคต ไม่เพียงแต่สาขาร้านกาแฟเท่านั้นที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น แต่คุณภาพและมาตรฐานกาแฟและร้านกาแฟในอินเดียก็จะพัฒนาขึ้นด้วย ผู้บริโภคอินเดียก็ย่อมได้รับประโยชน์และอานิสงส์ไปโดยปริยาย...นี่ไง ผลดีของการแข่งขันเสรี !!!
----------------------------------------