ฐานเศรษฐกิจ: มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 39)
ตลาดดอกไม้และโอกาสกล้วยไม้ไทยในอินเดีย
ใครที่เคยมาเที่ยวอินเดีย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ ที่ไม่เคยหลับใหล หรือหลับใหลดึกดื่นเป็นพิเศษ คงเห็นร้านขายดอกไม้ตามหัวมุมต่างๆ ทั้งร้านที่เป็นตึกเป็นระเบียบเรียบร้อย และร้านที่เป็นเพิงเล็กๆ ข้างถนน ขายดอกไม้ตั้งแต่ก่อนเที่ยงจนดึก โดยใช้ตะเกียงน้ำมันจุดไฟให้สว่างในตอนกลางคืน
ดอกไม้สด ช่อเล็กๆ จนไปถึงช่อใหญ่ๆ มีหลายอย่าง ทั้งกุหลาบ หน้าวัว เยอบีร่า ลิลลี่ คาร์เนชั่น ปักษาสวรรค์ และดอกกล้วยไม้ ฯลฯ ที่ขายตามท้องถนนนี้ เป็นที่นิยมของชาวอินเดีย นำไปมอบแสดงความยินดีให้แก่กันในโอกาสต่างๆ รวมถึง การต้อนรับขับสู้แขกผู้มาเยือนเพื่อความประทับใจ คล้ายๆ ธรรมเนียมการมอบพวงมาลัยของไทย
แต่ช่อดอกไม้ของอินเดีย จะเน้นความสด และการจัดวางแบบเรียบง่าย ไม่หวือหวาหรือหรูหรามากเท่าไหร่
นอกจากช่อดอกไม้ที่มอบให้แก่กันแล้ว คนอินเดียยังนิยมตกแต่งงานมงคลต่างๆ ด้วยดอกไม้สดให้เต็มงาน เพิ่มความหรูหราและความพิเศษของงานอีกด้วย โดยเฉพาะงานแต่งงาน ที่คนอินเดียถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของอินเดีย เฉลิมฉลองกันที 3-4 วัน และมักจะจัดในพื้นที่โล่งกว้าง เช่น farmhouse ชานเมือง เพื่อต้อนรับแขกเหรื่อญาติมิตรได้เต็มที่
ว่ากันว่า งานแต่งงานหนึ่งงาน โดยเฉพาะงานใหญ่ของคู่บ่าวสาวตระกูลมีฐานะใหญ่โต จะต้องมีค่าใช้จ่ายดอกไม้ร่วมหลายแสนรูปีกันเลยทีเดียว
สำหรับชื่อเสียงของไทยในวงการดอกไม้อินเดียนั้น ดอกไม้ไทยโดยเฉพาะกล้วยไม้ที่มีความสวยงามอยู่แล้ว บวกกับการบรรจุภัณฑ์ขนส่ง (packaging) ที่พิถีพิถัน เริ่มเข้ามาตีตลาดใหม่อย่างอินเดียอย่างเงียบๆ
ผู้ประกอบการด้านการจัดดอกไม้ตามงานมงคลต่างๆ ของอินเดีย เค้ายืนยันว่า ตลาดอินเดียตอนนี้นิยมกล้วยไม้เป็นอันดับหนึ่ง โดยในการนำเข้าจากไทย กว่า 95% เป็นกล้วยไม้ โดยเฉพาะสกุลหวาย (Dendrobrium) โดยเฉพาะพันธุ์ Sonia และ Red-jo สกุลออนซิเดียม (Oncidium) แวนดา (Vanda) และมอคคารา (Mokara)
นอกจากกล้วยไม้สีธรรมชาติเหล่านี้ ยังมีกล้วยไม้ย้อมสีต่างๆ นำเข้ามาตามแต่ลูกค้าอินเดียสั่ง เพราะคนอินเดียที่มีฐานะ จะวางแผนจัด theme ดอกไม้ในงานให้เป็นสีเดียวกัน เท่าที่สังเกตดูตามท้องตลาด จะเป็นสีน้ำเงิน สีเขียวเข้ม ซึ่งเป็นรสนิยมของชาวอินเดีย
สำหรับดอกไม้นำเข้าอีก 5% ที่เหลือส่วนใหญ่ลูกค้าอินเดียจะนิยมดอกธรรมรักษาหรือก้านกุ้ง (Heliconia)
กล้วยไม้ดอกไม้ไทยชนะใจคนอินเดียเพราะมีความสวยงาม เพิ่มความหรูหรามีระดับให้กับงานเมื่อนำไปตกแต่ง ยิ่งบอกว่าเป็นดอกไม้นำเข้า ยิ่งทำให้เจ้าภาพดูดีมีฐานะใหญ่โต ตามประเพณีที่นิยมความหรูหรา นอกจากนี้ เรื่องอายุก็ทำให้ดอกไม้ไทยได้เปรียบ เพราะอายุยืนยาว ทำให้ตกแต่งได้คุ้มค่า มี packaging พิถีพิถัน คนอินเดียชอบที่ทุกก้านดอกไม้จะมีกะเปาะอุ้มน้ำเลี้ยงไว้เพื่อความสดและคงทนนาน
ดอกไม้จะได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูกาลแต่งงาน ซึ่งอาจเริ่มเร็วตั้งแต่เดือน ก.ย. ไปจนถึงปลายฤดูหนาวในเดือน มี.ค. ราคากล้วยไม้จากช่วงปกติ 100 รูปี ต่อช่อ (ช่อละ 10 ดอก) อาจพุ่งสูงถึงช่อละ 300 รูปีเลยทีเดียว
อินเดียเป็นตลาดใหม่ของกล้วยไม้ไทยที่กำลังเติบโต ปี 2554 ไทยส่งออกกล้วยไม้มาอินเดียมากเป็นอันดับ 6 รองจากเจ้าใหญ่อย่างญี่ปุ่น สหรัฐฯ อิตาลี จีน และรัสเซีย มูลค่าการส่งออก 78.94 ล้านบาท ส่วนแบ่งการส่งออก 3.54% จึงเป็นสินค้าเกษตรอย่างหนึ่งที่น่าจะมีลู่ทางในอินเดีย
แม้ว่าเศรษฐกิจอินเดียจะตกต่ำลงบ้าง เพราะผลกระทบจากวิกฤตเงินยูโรแต่ในเมื่อหนาวนี้ยังมาไม่ถึง เราคงยังไม่อาจฟันธงไปได้ว่า ฤดูกาลยอดนิยมของกล้วยไม้ไทยปีนี้จะคึกคักกว่าปีก่อนหรือไม่
กล้วยไม้และดอกไม้จึงเป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าจะส่งเสริมต่อไป เพราะแม้เศรษฐกิจจะไม่เติบโตตามคาด ยังไงเสีย คนเราก็ต้องการดอกไม้สีสวยๆ มาเพิ่มเติมชีวิตชีวาให้สดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอินเดีย ที่ให้ความสำคัญกับงานรื่นเริงยินดียิ่งกว่าสิ่งใด
คณิน บุญญะโสภัต
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี