ฐานเศรษฐกิจ : มองอินเดียใหม่ (ตอนที่ 48)
Keeping up with the Singhs สังคมบริโภคของมหาเศรษฐีอินเดียยุคใหม่
โดย ดร. แจ่มใส เมนะเศวต
มีใครเคยเห็นรถ Aston Martin รุ่น Vanquish บนถนนหนทางในกรุงเทพฯ บ้างหรือยัง
ที่บอมเบย์ แม้ว่าถนนจะพอเป็นหลุมเป็นบ่ออยู่เป็นช่วงๆ แต่ก็มีแฟนแอสตันมาร์ติน
ถอยรถ Vanquish ออกมาขับเล่นแถว Marine Drive กันแล้ว
ไม่ใช่แต่เพียงแอสตันมาร์ตินเท่านั้นที่เข้ามาเปิดโชว์รูมในอินเดีย รถสปอร์ตหรูสัญชาติอิตาเลี่ยนอย่างเฟอร์รารี่ มัสเซราติ แลมบอร์กินีก็แห่ตามๆ กันมาแล้ว ส่วนรถโรลซรอยส์ เบนทลี่ นั้น เป็นที่ให้ได้เห็นอย่างชินตาบนถนนในเดลี
นสพ. Financial Times รายงานว่า ตลาดรถประเภท luxury ในอินเดียมีอัตราการเติบโตเร็วกว่ารถธรรมดา ในปี 2008 การขายรถประเภทหรู/ ฟุ่มเฟือยอยู่ที่ประมาณ 7000 คัน คาดว่าภายในปีนี้ โชว์รูมลักซูรี่ต่างๆ จะขายรถได้ถึง 39,000 คัน และมีการขาดการว่า ยอดขายจะพุ่งสูงถึง 83,000 คัน ภายในปี 2020
ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมอินเดียจึงมีสนามแข่งรถ Formula One เพราะคนอินเดียก็รักและหลงไหลรถแพงๆ เป็นชีวิตจิตใจเช่นกับสากลโลก
ค่ายรถอย่างเฟอร์รารี่ หรือแลมบอร์กินี ก็ไม่ต้องวิตกที่จะต้องเลิกจ้างพนักงาน ขายรถในอิตาลีบ้านเกิดไม่ได้ ไม่เป็นไร เพราะมีแรงซื้อจากอินเดียมาช่วยกู้สถานการณ์วิกฤติเงินยูโรให้บริษัท
Financial Times ให้ข้อมูลว่า ในปี 2011-2012 อินเดียมีจำนวนมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินสูงกว่า 4.5 ล้านเหรียญสหรัฐ จำนวน 81,000 คน และในอีก 4 ปี ข้างหน้า คาดว่าจะมีมหาเศรษฐีในกรอบรายได้เดียวกันนี้สูงถึง 286,000 คน เป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว
ข่าวดีสำหรับคนไทย คือ มหาเศรษฐีอินเดียเหล่านี้ก็นิยมชมชอบประเทศไทยมากเช่นกัน
ไม่นานมานี้ มีเศรษฐีอินเดียบินไปฉลองครบรอบแต่งงาน 50 ปี ปิดโรงแรมสยามเคมปินสกี้เลี้ยงญาติพี่น้องเพื่อนฝูงสามวันสามคืน ผู้จัดการใหญ่สยามเคมปินสกี้ถึงต้องบินมาทำโรดโชว์ที่อินเดีย นำทีมเซลส์มาทำตลาดในหมู่เศรษฐีทั้งเก่าและใหม่ ภายในสัปดาห์เดียว ดุสิตก็จัดโรดโชว์มาตามๆ กัน พาโรงแรมในเครือมานำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวในไทยนอกเหนือจากกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา อันเป็นจุดมุ่งหมายยอดนิยมของชาวอินเดีย
การโปรโมทเมืองไทยให้เป็น luxury destination ในกลุ่มผู้มีรายได้สูงของอินเดีย จึงเป็นการตลาดที่เราจะต้องตั้งเกมส์รุก
เป็นที่น่ายินดีที่หน่วยงานของไทยได้หันมาจับเทรนด์นี้ โดย ททท. ณ กรุงนิวเดลี กำลังทำเคมเปญรุกตลาดชั้นสูงมากขึ้น ควบขู่ไปกับการทำตลาดระดับชนชั้นกลางในอินเดีย ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งรายได้สำคัญของการท่องเที่ยวไทย
คุณรัญจวน ทองรุต ผ.อ. ททท. เดลี เข้าใจเสน่ห์ของบริการไทยสำหรับสตรีอินเดียที่มีรสนิยมพร้อมรายได้สูง ร่วมมือกับการบินไทย พานางเอกดาวรุ่งของบอลลี่วู้ด Sonakshi Sinha บินไปถ่ายแฟชั่นโชว์ที่ภูเก็ตลงนิตยสาร Asia Spa เพื่อโปรโมทสปาไทย
การจับตลาดเศรษฐีนีอินเดียเป็นกลยุทธ์ที่แนบเนียน เพราะเวลาพวกเธอไปเมืองไทย เธอจะไม่ใช่ไปแค่เพื่อพักผ่อน แต่มีเป้าหมายไปช้อปกระจายในเวลาเดียวกัน เรื่องกำลังซื้อไม่ต้องพูดถึง ผู้เขียนเคยเห็นสตรีไฮโซอินเดียวางกระเป๋าเบอร์กิ้นหนังจระเข้บนพื้นในร้านอาหาร เปรียบเสมือนใบละไม่กี่พันบาท ถ้าเป็นบ้านเราคงต้องเอาผ้ามาปูก่อนอันเชิญขึ้นบนหิ้ง
ททท. ได้หันมาเพิ่มเนื้อที่ในสื่อที่เจาะลึกกลุ่มมหาราชาและมหารานีทั้งหลาย ลงบทความและโฆษณาในนิตยสารเช่น Millionaire, Fortune, และ Audi Magazine สำหรับผู้เป็นเจ้าของรถออดี้โดยเฉพาะ (ปัจจุบันยอดขายรถออดี้ในอินเดียแซงหน้าเบนซ์ไปแล้ว) และในอนาคต จะขยายเข้าสื่อเช่น Hello, Elle และ Vogue ส่งเสริมความสวยความงามแบบไทยๆ ในหมู่แฟชั่นนิสต้าอินเดีย
คุณรัญจวน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า พฤติกรรมการบริโภคในกลุ่มเศรษฐีอินเดีย คือจะต้องมีอะไรเหมือนๆ กัน ทำอะไรก็ต้องให้มีหน้ามีตาพอๆ กัน ไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องตามกันไป
เป็นพฤติกรรมคลาสสิกที่นักเศรษฐศาสตร์ฝรั่งเรียกว่า Keeping up with the Joneses (ในอินเดีย คงต้องเปลี่ยนมาเรียกว่า Keeping up with the Singhs)
ดังนั้น ถ้าสถานที่ท่องเที่ยวไทย หรือโปรดักส์ไทยไหนเป็นที่นิยมในหมู่ชาวอินเดียรายได้สูง ก็รับรองได้เลยว่าเศรษฐีคนอื่นๆ ก็จะลอกเลียนแบบ จับจ่ายใช้สอยแข่งขันกันตามค่านิยมของสังคมบริโภค
อย่างไรก็ตาม การจะเข้าไปสร้างกระแสในหมู่ไฮโซอินเดีย ก็มิใช่เรื่องง่ายๆ อย่างที่คิด เพราะทุกคนต่างเป็นผู้มีการศึกษาระดับสูง สามารถเข้าถึงข้อมูล และรู้ดีว่าความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไปนั้นต้องมาพร้อมกับเอกสิทธิ์พิเศษ ไม่เหมือนใคร
ดังเช่นบริการของแอสตันมาร์ตินในอินเดีย ที่ยินดีขนส่งรถราคาเกินครึ่งล้านดอลลาร์ข้ามประเทศ เพื่อให้เจ้าของได้ไปขับในเมืองต่างอากาศโดยไม่ต้องขับผ่านทางหลวงที่ชำรุดทรุดโทรม หรือส่งช่างยนต์บินข้ามเมืองไปซ่อมรถของคุณถึงบ้าน
คุณนิกลาส วอน บูเรน เจ้าของบริษัท Lotus Arts de Vivre ผู้ผลิตเครื่องประดับและเครื่องตกแต่งบ้านระดับสูงของไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับตลาดชั้นสูงของอินเดียมากกว่า 15 ปี เห็นด้วยว่า ลูกค้าอินเดียเน้นดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครและบริการที่เป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทำได้ดี
ในภาพรวม คนอินเดียเห็นว่าผลิตภัณฑ์และการบริการของไทยมีคุณภาพสูง จึงชื่นชอบและนิยมสินค้าที่มีความเป็นไทย
เศรษฐีอินเดีย มีความชื่นชอบในความประณีตพิถีพิถัน มีความหลงไหลกับศิลปะและวัฒนธรรมชั้นสูง ซึ่งประเทศไทยมีเรื่องนี้เป็นทุนอยู่แล้ว หากเราสามารถโปรโมทผลิตภัณฑ์และการบริการไทยให้ติดตลาด luxury ของอินเดียได้อย่างจริงจัง เราก็น่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากกว่ายอดขายรถเฟอร์รารี่ในอินเดียทำเงินให้อิตาลี