กลุ่มสหพัฒน์ส่งคณะสำรวจเตรียมลุยอินเดีย

คณะสหพัฒน์พบผู้แทน CII ที่นิวเดลีผมเชื่อว่าคงไม่มีผู้อ่านท่านใดที่ไม่รู้จักชื่อบริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เป็นของคู่บ้านคู่ครัวของคนไทยทั่วโลกมากว่า 40 ปี

วันนี้ สหพัฒน์ได้เติบโตและขยายธุรกิจไปในสาขาต่างๆ หลากหลาย จนกลายมาเป็นกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่เพียงดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้ขยายตลาดไปต่างประเทศผ่านบริษัทลูกในเครือมากกว่าร้อยบริษัท

เมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา คุณบุญเกียรตฺิ โชควัฒนา ประธานบริหารบริษัท ICC International บริษัทในเครือสหพัฒน์ที่มีชื่อมาจากสินค้าอย่างเครื่องสำอาง BSC และต่อมาได้ขยายไปทำสินค้าแฟชั่นหลากหลาย ได้นำคณะผู้แทนกลุ่มสหพัฒน์ โดยเฉพาะในกลุ่มเสื้อผ้าและเครื่องสำอางมาเยือนอินเดียเพื่อศึกษาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังอินเดีย

งานนี้ สหพัฒน์รู้ดีว่า การเข้าไปในตลาดอินเดียไม่ใช่เรื่องง่ายและจำเป็นต้องมีตัวช่วยจึงได้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศขอให้สถานทูตและสถานกงสุลไทยในอินเดียช่วยชี้แนะ สถานทูตไทย ณ กรุงนิวเดลีและสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบจึงไม่รีรอที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย ตามนโยบายสนับสนุนเอกชนไทยให้บุกตลาดอินเดียที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

กิจกรรมสำรวจโอกาสธุรกิจในอินเดียในช่วงแรกของสหพัฒน์มีขึ้นที่เมืองมุมไบ เมืองศูนย์กลางทางการเงินและธุรกิจที่มีคนร่ำรวยจำนวนมากและมีกำลังซื้อสูงสุดในอินเดีย สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้นำทีมสหพัฒน์ไปสำรวจตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคระดับสูงในเมืองมุมไบ ถือเป็นการปูพิ้นสถานะทางเศรษฐกิจของอินเดียที่ดีให้แก่คณะ

ส่วนกิจกรรมที่กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย สถานทูตไทยได้จัดให้คณะพบกับ Department of Industrial Policy and Promotion (DIPP) หน่วยงานของรัฐบาลกลางอินเดียที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่ง DIPP ได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงนโยบายของรัฐบาลอินเดียชุดใหม่ภายใต้นายกฯ นเรนทร โมดี ในการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะแคมเปญ Make in India การปรับเพิ่มเพดานสัดส่วนการลงทุนของต่างชาติในสาขาต่างๆ เช่น การก่อสร้างและประกันชีวิต และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจและ Smart Cities ทั่วอินเดีย (คลิกที่นี่ เพื่อชม PowerPoint ข้อมูล)

คุณบุญเกียรติ โชควัฒนาพบทูตชลิต มานิตยกุลนอกจากนี้ คณะสหพัฒน์ยังได้มีโอกาสพบปะกับเอกชนอินเดียจากสมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดีย Confederation of Indian Industry (CII)  สมาคมธุรกิจชั้นนำของอินเดีย  ซึ่งได้เชิญสมาชิกจากสาขาต่างๆ เช่น ก่อสร้าง เครื่องสำอาง และบริษัที่ปรึกษาด้านการลงทุนมาร่วม โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านธุรกิจ โดย CII ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการทำธุรกิจในอินเดีย เช่น ระบบภาษีของอินเดีย กฎหมายแรงงานและค่าแรงขั้นต่ำ และผู้แทน CII ได้นำคณะไปเยี่ยมชมโรงงานเครื่องสำอางของสมาชิกด้วย

หลังจากได้พบปะหน่วยงานและเอกชนอินเดียแล้ว คณะสหพัฒน์ได้มีโอกาสร่วมรับประทานอาหารกับนายชลิต มานิตยกุล ทูตไทยประจำอินเดียที่บ้านท่านทูต โดยคุณบุญเกียรติและทีมงานเล่าให้เราฟังว่า ที่ผ่านมาสหพัฒน์ยังไม่ได้ทำธุรกิจในอินเดียมากนัก เพราะยังติดภาพของอินเดียที่ล้าหลัง แต่หลังจากได้มาอินเดียด้วยตัวเองก็ประทับใจมาก อินเดียในปัจจุบันผิดไปจากภาพที่เคยมีมาตลอด เชื่อว่าอินเดียเป็นตลาดที่มีศักยภาพมากสำหรับสหพัฒน์ และจะกลับไปเล่าให้ผู้บริหาสหพัฒน์ฟัง เชื่อแน่ว่า สหพัฒน์จะเข้ามาในอินเดียในไม่ช้า

เห็นความเคลื่อนไหวของสหพัฒน์และบริษัทไทยหลายๆ รายที่เริ่มมาสนใจอินเดียในช่วงปีที่ผ่านมา ก็ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าอินเดียกำลังกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของเอกชนไทยตามคาด เพราะคนไทยเริ่มเห็นกันแล้วว่า อินเดียได้เปลี่ยนไปมากและกลายเป็นขุมโอกาสที่เอกชนไทยจะมองข้ามไม่ได้อีกต่อไป

ประพันธ์ สามพายวรกิจ
1 กุมภาพันธ์ 2558