คาถาสู่ความสำเร็จของเครือซีพีประเทศอินเดีย
โดยทั่วๆ ไปการทำธุรกิจให้สำเร็จในต่างแดนไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ดินแดนที่นักธุรกิจไทยหลายคนขยาด ด้วยมาตรวัดของคำว่า “ยาก” แต่เมื่อผู้ประกอบการไทยที่คิดต่างและทำใหญ่อย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์มุ่งมั่นขยายฐานธุรกิจไปยังประเทศอินเดีย คำว่า “เป็นไปไม่ได้” ย่อมไม่มี และที่สำคัญท่านเจ้าสัวยังให้คาถา CPF Way ติดตัวเรียกได้ว่าไปบุกเบิกธุรกิจที่ไหน ก็สำเร็จที่นั่น
คาถาสำคัญที่ทีมซีพีบุกอินเดียใช้กันมากว่า 20 ปี คือ “3 Benefits” หรือ “3 ประโยชน์” ซึ่งประธานใหญ่ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณธนินทร์ เจียรวนนท์ มอบให้เป็นปรัชญาสำหรับทุกคนในองค์กรคาถา “3 ประโยชน์” ประกอบด้วย
- 1. Country Benefit คำนึงถึงประโยชน์แก่ประเทศเป็นหลัก
- 2. People Benefit คำนึงถึงประโยชน์แก่ประชาชนเป็นหลัก
- 3. Company Benefit แล้วบริษัทก็จะเจริญไปด้วยดี
นับตั้งแต่ปี 2535 ที่บริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าไปบุกเบิกธุรกิจในประเทศอินเดียตามคำเชิญของท่านนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือ ท่าน นาราสิงหะ เรา (Pamulaparti Venkata Narasimha Rao) มาจนถึงทุกวันนี้ คาถา “3 Benefits” หรือ “3 ประโยชน์” ถูกนำมาใช้ตามแนวนโยบาย จนกระทั่งซีพีกลายเป็นบริษัทระดับอินเตอร์ที่คนอินเดียให้ความไว้วางใจ เชื่อถือในตัวสินค้าและบริการ อยากร่วมงานด้วย จนพัฒนาไปสู่การได้ใจพนักงานชาวอินเดีย กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียวอย่างไร ผลสำเร็จนี้ไม่ได้สร้างกันได้ในวันเดียวเช่นนั้น หากเป็นการบ่มเพาะสั่งสมมาตลอด 20 ปี
คุณขวัญชัย ชัยเปรม รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผู้ดูแลกิจการ CP Aquaculture (India) Private Limited ได้ขยายให้เราได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นถึงการนำนโยบาย 3 ประโยชน์ ไปใช้ในการดำเนินธุรกิจที่ประเทศอินเดีย ดังนี้
1.Country Benefit
ก่อนที่ซีพีจะเข้าไปดำเนินธุรกิจด้านใด ที่ใดก็ตาม ก็จะพิจารณาก่อนว่า ในประเทศนั้นๆ มีวิธีดำเนินการอย่างไร ให้ผลผลิตดีหรือไม่ หากจะเพิ่มผลผลิตให้ประเทศนั้นจะต้องทำอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นการเลี้ยงกุ้ง แต่เดิมที่อินเดียเลี้ยงกุ้งด้วยวิธีธรรมชาติ การเลี้ยงกุ้งยังปล่อยแบบบางๆ ในอัตรา 3-5 ตัวต่อ 1 ตารางเมตร ในขณะที่ประเทศไทยเลี้ยงได้ถึง 70 ตัวต่อตารางเมตร ทางทีมซีพีจึงนำแนวคิด นวัตกรรม เทคนิควิธีการที่ใช้ได้ผลในประเทศไทย ไปลงพื้นที่ สาธิต สร้างฟาร์มกุ้งทดลองให้ดู เปรียบเทียบให้เห็นว่าการเลี้ยงโดยธรรมชาติให้ผลอย่างไร หากเลี้ยงด้วยวิธีการที่ซีพีแนะนำได้ผลอย่างไร เมื่อผู้เลี้ยงกุ้งได้เห็นด้วยตา (Seeing is Believing) ศึกษา ทดลองเลี้ยงตามคำแนะนำ ปรากฏว่าการลงกุ้งเพิ่มขึ้น จาก 3-5 ตัวต่อตารางเมตร เป็น 10 ตัว 15 ตัว และ 20 ตัวตามลำดับซึ่งมีผลอย่างมากต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งชาวอินเดีย ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้การส่งออกกุ้งแช่แข็งของประเทศอินเดีย มีอัตราเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด สร้างเม็ดเงินและรายได้ให้แก่ประเทศอินเดียอย่างมากมาย
นี่คือตัวอย่างของผลลัพธ์ที่ได้จากการคำนึงถึง Country Benefit ซึ่งทำให้ธุรกิจของซีพีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในประเทศอินเดีย
2. People Benefit
เครือซีพีให้ความสำคัญต่อการเลี้ยงคน และดูแลพนักงาน รวมไปถึงคนที่อยู่ในชุมชนรอบๆ บริษัท เพราะคนคือทรัพยากรสำคัญ ที่ขับเคลื่อนธุรกิจไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม
ปัญหาที่นักลงทุนจากต่างชาติพบเจอบ่อยครั้งเมื่อมาลงทุนในประเทศอินเดีย คือข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงาน อินเดียมีสหภาพแรงงานทที่แข็งแกร่ง ถ้าบริษัทใดไม่มีวิธีรับมือ ย่อมจัดการกับข้อเรียกร้องเหล่านี้ได้ยาก แต่เนื่องด้วยซีพีให้ความสำคัญกับการดูแลคนมาตลอด จึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้และที่สำคัญ ชุมชนรอบซีพีกลายเป็นป้อมปราการที่เข้มแข็ง พวกเขาได้รับการดูแลต่อเนื่อง เจ็บไข้ได้ป่วย มีแพทย์เคลื่อนที่มารักษาให้ฟรีเป็นประจำ จนทำให้ชาวอินเดียย่าน Red Hills District อันเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตอาหารกุ้ง และสำนักงานใหญ่ของ CP Aquaculture (India) Private Limited คนอินเดียเรียกที่นี่ว่าประเทศไทย ซึ่งหมายถึงความมีน้ำใจและเป็นที่พึ่งของชุมชนโดยรอบ
นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการต่างๆ ที่บริษัทจัดให้พนักงานชาวอินเดีย ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างที่สูงกว่าค่าแรงมาตรฐานในตลาดอินเดีย การสนับสนุนและการปรับตำแหน่ง โปรโมทพนักงานอินเดียขึ้นมาช่วยในระดับบริหาร พนักงานอินเดียยังได้รับโอกาสไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ หรือมาอบรมสัมมนาในประเทศไทย สิ่งเหล่าล้วนส่งผลสู่การสร้างแรงใจในการทำงานของชาวอินเดีย และคะแนนนิยมท่วมท้นเมื่อได้ใจจากมวลชนแล้ว เรื่องอื่นๆ ย่อมไม่ยากในประเทศอินเดีย
3. Company Benefit
จากที่ได้กล่าวนำข้างต้นแล้ว ผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มผลผลิตให้กับประเทศ และประชาชนในอินเดีย ย่อมส่งผลต่อธุรกิจโดยตรง ขณะที่เรากำลังพูดคุยกับคุณขวัญชัยในห้องทำงานที่ด้านนอกก็มีรถสิบล้อมาขนอาหารกุ้งออกไปอย่างไม่ขาดสาย คุณขวัญชัยเล่าให้ฟังว่า “เรามีโรงงานอยู่ 2 ที่ คือที่เจนไน กับอีกโรงหนึ่งที่วิสาขปัทนัม ณ เดือนนี้ (กรกฏาคม 2557) CPF ได้เข้าไปซื้อโรงงานอีกหนึ่งโรงงานระหว่างกลางที่เมืองบิมาวรัม เริ่มปุ๊บ ก็เต็มกำลังการผลิตก็ยังไม่พอขายอีก ตอนนี้อาหารสัตว์ของเราเหมือนกับอาหารตามสั่งเลย พอแพ็คปุ๊บแล้วขึ้นรถเลย ไม่พอขายแล้ว รถบางคันต้องมารอสินค้าถึงตีสองเคยก็มี”
นโยบาย “3 ประโยขน์” นี้ บริษัทใดจะนำไปใช้ก็ไม่ขัด แต่ขอให้ทำด้วยความจริงใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทุกวันนี้ ซีพีในประเทศอินเดียมีฐานการผลิตครอบคลุมไปในทุกพื้นที่ ภายใต้การดำเนินธุรกิจของ 3 บริษัท ได้แก่
- บริษัท CPF (India) PVT. Ltd . ซึ่งผลิตและจำหน่ายอาหารกุ้ง อาหารปลา เพาะฟักลูกกุ้ง และจำหน่ายอาหารไก่ เพาะฟักลูกไก่ ส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยงไก่ด้วยเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย
- บริษัท CP Aquaculture (India) Pvt. Ltd. ผลิตและจำหน่ายอาหารกุ้ง อาหารปลา เพาะฟักลูกกุ้ง
- บริษัท Charoen Pokphand Seeds ซึ่งผลิตและจำหน่ายเมล็ดข้าวโพดพันธุ์ผสม
ล่าสุดบริษัทในเครือซีพีได้มีการลงทุนเพิ่มในรัฐอานธรประเทศ ซึ่งได้รับการต้อนรับจากมุขมนตรีนายจันทรบาบู ไนดู เป็นอย่างดี มีข่าวตีพิมพ์ในสื่ออินเดียแสดงให้เห็นถึงความไม่ธรรมดาของบริษัทชั้นนำจากประเทศไทย
********************************
รายงานโดยนางสาวสุทธิมา เสืองาม
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจนไน