เปอโยต์ทุ่มงบลงอินเดีย สัญญาณกำลังโตล่าสุด ที่บ.ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยไม่ควรมองข้าม

บริษัทเปอโยต์ของฝรั่งเศสมีโครงการจะเปิดตลาดรถยนต์เปอโยต์ในประเทศอินเดีย โดยเริ่มจากรถยนต์รุ่นระดับบน (508) ไปยังระดับรองๆ (ระดับ C และ B+) บริษัทจะตั้งโรงงานประกอบรถยนต์และโรงงานผลิตเครื่องยนต์และเกียร์ที่นิคมอุตสาหกรรม Sanand ในรัฐคุชราต คาดว่าจะใช้สิ้นส่วนภายในอินเดียร้อยละ 70-80 โดยจะพัฒนาเป็นรถยนต์รุ่นพิเศษต่างๆ (ระดับ C และ B+) สำหรับตลาดอินเดียทั้งนี้ จะมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 4 หมื่นล้านรูปี (650 ล้านยูโร) มีกำลังการผลิตในระยะเริ่มต้น 170,000 คันต่อปี และจะเริ่มผลิตรถยนต์ออกจำหน่ายได้ในปี 2557

นาย Narenda Modi มุขมนตรีแห่งรัฐคุชราตและนาย Philippe Varin ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท PSA Peugeot Citroen ได้ร่วมลงนามในความตกลงรับการสนับสนุนจากรัฐคุชราต (State Support Agreement – SSA) สำหรับโครงการลงทุนของบริษัทเปอโยต์ดังกล่าวในรัฐคุชราต และบริษัทเปอโยต์จะร่วมกับรัฐคุชราตจัดตั้งสถาบันพัฒนาทักษะความชำนาญด้านรถยนต์ (Automotive Skills Development Institute-ASDI) ขึ้นในรัฐคุชราตด้วย ซึ่งคาดว่าจะสร้างงานใหม่ให้กับแรงงานในรัฐคุชราตมากถึง 5 พันตำแหน่ง

ปัจจุบันรัฐคุชราตเป็นรัฐที่เป็นที่จับตามองของนักลงทุนต่างชาติ ตลอดจนนักลงทุนไทยอาทิ บริษัทศรีไทยซุปเปอร์แวร์ เนื่องจากในทศวรรษที่ผ่านมา รัฐกุจราชมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงถึงกว่าร้อยละ 10 โดยในทศวรรษที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมเติบโตถึงร้อยละ 13 ส่งออกสินค้าได้เป็นร้อยละ 22 ของอินเดียและผลผลติภาคอุตสาหกรรมคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 16 ของอินเดีย และมีปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ มีระบบการเมืองการปกครองที่มีเสถียรภาพเนื่องจากมีมุขมนตรีที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล มีความโดดเด่นเรื่องการบริหารจัดการของภาครัฐที่มีความโปร่งใส และกุจราชตั้งอยู่ในพื้นที่ของโครงการ Delhi Mumbai Industrial Corridor ซึ่งได้ดึงรัฐบาลญี่ปุ่นและภาคเอกชนญี่ปุ่นเข้ามาร่วมพัฒนาโครงการข้างต้นอย่างเต็มตัว

บริษัทรถยนต์ต่างชาติสนใจลงทุนผลิตรถยนต์ในคุชราตเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากบริษัท Tata Motors และบริษัท General Motors ได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในรัฐคุชราตแล้ว ปัจจุบันยังมีบริษัท Ford บริษัท Maruti Suzuki บริษัท Hero MotoCorp และบริษัท Force Motors ที่อยู่ระหว่างการลงทุนตั้งโรงงานในรัฐคุชราต ทั้งนี้คาดว่า อินเดียจะกลายเป็นประเทศผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกในอีก 5-10 ปีข้างหน้า และมีความเป็นไปได้สูงว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ของญ๊่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และยุโรปอาจย้ายฐานมาลงทุนในรัฐคุชราตเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยควรเริ่มศึกษาลู่ทางการลงทุนในรัฐคุชราตเพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขันในตลาดรถยนต์ของอินเดียที่มีขนาดใหญ่และกำลังขยายตัว

บัญชา ยืนยงจงเจริญ
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ

19 กันยายน 2554