ฐานเศรษฐกิจ: มองอินเดียใหม่ ตอน สัญญาณเชิงบวกจากตลาดอินเดีย
ในช่วงการเปิดสภาสมัยฤดูหนาวของอินเดีย ซึ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2554 มีการผ่านร่างกฎหมายทั้งสิ้น 17 ฉบับด้วยกัน ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือการเข้าสู่กระบวนการออกเป็นกฎหมาย จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับขั้นตอนของแต่ละฉบับ โดยส่วนใหญ่กฎหมายที่ผ่านเป็นกฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนาความเป็นอยู่ของคนในประเทศ
แม้ว่าการผ่อนผันกฎการเปิดเสรีการค้าปลีกประเภทสินค้าหลายยี่ห้อ (Multi-Brand) ไม่ผ่านเข้ารับการพิจารณาในสภา และร่างกฎหมายบริษัทถูกตีกลับ แต่ก็มีสัญญาณเชิงบวกที่บ่งบอกให้รู้ว่ายังมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับบริษัทต่างชาติ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนทางการเมืองอินเดีย
ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมกราคม 2555 ทางการอินเดียเพิ่งขยับเพดานให้ค้าปลีกต่างชาติถือหุ้นได้เต็ม 100% ในสินค้าประเภทยี่ห้อเดียว (Single Brand) บริษัทค้าปลีกหลายราย ทั้งที่มีร้านในอินเดียแล้วและที่ยังไม่มีต่างเตรียมตัวกรุยทางเพิ่ม โดยคาดว่ามูลค่าตลาดการค้าปลีกประเภทนี้จะเติบโตขึ้น 3 เท่าตัวมาอยู่ที่ระดับราว 20,000 - 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะ 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ของอินเดีย ที่เพิ่งจบสิ้นไปเมื่อช่วงต้นปีนี้ บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่ายได้เปิดตัวรถใหม่ พร้อมประกาศลงทุนต่อเนื่องในอินเดีย เช่น ฟอร์ด ค่ายรถจากอเมริกาเปิดแผนขยายการลงทุนเพิ่ม 142 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กับโรงงานของตนในเมืองเจนไน เพื่อเพิ่มกำลังผลิตรถยนต์เป็น 340,000 คัน จาก 250,000 คัน ในขณะที่โฟล์คสวาเกนเผยแผนลงทุน 380 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2556 ทั้งๆ ที่ในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นอินเดียปิดลดลงเกือบ 25% เงินเฟ้ออยู่ระดับเหนือ 9% และรูปีอ่อนค่ากว่า 18% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยค่าเงินรูปีอยู่ที่ 44.76 (รูปีต่อดอลลาร์สหรัฐฯ)
ในช่วงมกราคม ปี 2553 ได้ปรับตัวอ่อนค่าสุดไปที่ 54.30 รูปีต่อดอลลาร์ในวันที่ 15 ธันวาคม 2554 และอำลาปีที่ผ่านมาที่ 53.10 รูปีต่อดอลลาร์ มีเงินไหลเข้าช่วง เมษายน- กันยายน 2554 เพียง 922 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 27,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
แม้ว่ายอดหนังสือขออนุญาตลงทุนในอินเดียลดลงต่ำสุดในรอบ 5 ปีในปี 2554 เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายของทางการ โดยลดลง 45% มาอยู่ที่ 10.46 ล้านล้านรูปี จากระดับ 18.88 ล้านล้านรูปีในปีก่อนหน้า โครงการลงทุนจากภาคเอกชนลดลง 48% ในขณะที่โครงการลงทุนภาครัฐลดลง 40% อย่างไรก็ตาม คุชราช ซึ่งเป็นรัฐที่นิยมของบริษัทอินเดียส่วนใหญ่ มีการเติบโตด้านการลงทุน 18% จากปีก่อน ด้วยแรงผลักดันจากการขยายกิจการของบริษัท มารูติ ซูซูกิฯ (Maruti Suzuki) ซึ่งเป็นบริษัทที่มียอดจำหน่ายรถยนต์สูงสุดในอินเดีย
ยอดขายรถยนต์ในอินเดียที่เคยเติบโต 30% ในปีงบประมาณ 2553 ได้ชะลอตัวลงในปีงบประมาณ 2554 เนื่องจากธนาคารกลางอินเดียขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 13 ครั้งตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2553 อย่างไรก็ดี ยอดขายรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมที่ผ่านมาได้เริ่มฟื้นตัว โดยหลายฝ่ายมองว่า น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว บริษัทรถยนต์ในอินเดียขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้รวม 1.95 ล้านคันในปี 2554 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ 1.87 ล้านคัน หรือคิดเป็นอัตราเพิ่ม 4.2 % ในขณะที่รถยนต์ใช้งานเชิงพาณิชย์มีการเติบโตของยอดขาย 17.6% คิดเป็นจำนวน 774,874 คันในปีที่ผ่านมา
มีการทำวิจัยรูปร่างลักษณะชาวอินเดีย เพื่อให้เหมาะกับการออกแบบรถ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าชายอินเดียสูงเฉลี่ย 167.3 เซนติเมตร หญิงอินเดียสูงเฉลี่ย 156.2 เซนติเมตร อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยคนอินเดียยังเตี้ยกว่าชาติอื่นเช่น อเมริกาเหนือ อิตาลี เยอรมนี ไต้หวัน ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
ผลจากการสำรวจดังกล่าวนำมาใช้ในการออกแบบรถเพื่อให้เข้ากับรูปร่างและขนาดของชาวอินเดีย ดังนั้นหากไม่เห็นศักยภาพจริงๆ ว่ายังมีกำลังซื้อมหาศาลรองรับ คงไม่มีการค้นคว้าระดับนี้เพื่อให้ได้รถที่ถูกใจคนในประเทศอินเดียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของเอเชีย
ยังมีสัญญาณมากมายสะท้อนให้เห็นว่า หลายชาติยังเดินหน้าต่อไปที่จะรุกเข้ามาเคาะประตูตลาดอินเดีย ยิ่งเมื่อทางการเปิดแง้มประตูการค้าปลีกประเภท Single Brand มากขึ้นแล้ว ภาคบริการที่ไทยมีความเข้มแข็งน่าจะลองเข้ามาชิมลางดู ทั้งธุรกิจร้านอาหารไทย ขนมไทย สปาไทยที่ขึ้นชื่อทั้งหลาย อย่างน้อยถ้าน้ำท่วมหนักอีกจนธุรกิจหยุดชะงักในเมืองไทย ก็ยังมีตลาดอื่นอย่างอินเดีย ช่วยประคองตัว
ปิยรัตน์ เศรษฐศิริไพบูลย์
บทความใกล้เคียง
มองอินเดียใหม่ (ตอน 1) เปิดตัวคอลัมน์มองอินเดียใหม่
มองอินเดียใหม่ (ตอน 2): งมขุมทรัพย์กับพิธีกรรมของชาวอินเดีย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 3): เปิดเสรีธุรกิจค้าปลีก หนังยาวที่ไทยอย่ามัวแต่รอดู
มองอินเดียใหม่ (ตอน 4): เมื่อชาวอินเดียเปลี๊ยนไป๋
มองอินเดียใหม่ (ตอน 5): ขุมทองยางไทยกับตลาดกำลังโตในอินเดีย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 6): เอกชนไทยบุกอินเดีย ภาครัฐช่วยได้ตรงไหน
มองอินเดียใหม่ (ตอน 7): มองอินเดียเพียงด้านเดียว ปิดโอกาสรู้จักโลกครึ่งใบ
มองอินเดียใหม่ (ตอน 8): การบริหาร Mr. & Mrs. Right หนึ่งตัวแปรสำคัญทำธุรกิจในอินเดีย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 9): เบียร์ไทยที่ไปไกลทั่วโลก แต่มาไม่ถึงอินเดียซะทีเดียว
มองอินเดียใหม่ (ตอน 10): โอกาสรวยกับร้านอาหารไทยในอินเดีย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 11): ทำการบ้านล่วงหน้า กับดิวาลี ปีใหม่อินเดีย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 12): Destination Thailand ย้ำความนิยมไทยในอินเดีย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 13): จับตามองการมาของ “สตาร์บัคส์” ศึกล้มเจ้า (ถิ่น) หรือไม้ประดับเศรษฐีอินเดีย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 14): ควันหลง Destination Thailand 2011
มองอินเดียใหม่ (ตอน 15): เมื่อคนอินเดียเริ่มออกท่องเที่ยว
มองอินเดียใหม่ (ตอน 16): จับตาดูสภาอินเดียผ่านร่างกฎหมาย
มองอินเดียใหม่ (ตอน 17): 2012 ปีแห่งความท้าทาย หวังนโยบายรัฐหนุน
มองอินเดียใหม่ (ตอน 18): อินเดียมองไทย